หลังซื้อรถมือสอง หรือได้รับรถเป็นมรดกมาจากพ่อแม่ จะต้องโอนรถเปลี่ยนกรรมสิทธิ์โดยเร็วที่สุด แล้วการโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โอนลอย ทำได้อย่างไร ที่นี่มีคำแนะนำ
เมื่อซื้อรถมือสองมาใช้ หรือได้รับรถเป็นมรดกจากพ่อแม่ หรือญาติมา จะต้องทำการโอนรถเพื่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ผู้ถือครอง ซึ่งการโอนรถ คือ การเปลี่ยนกรรมสิทธิ์เจ้าของรถจากคนหนึ่ง มาเป็นอีกคนหนึ่ง สามารถทำได้ที่สำนักงานขนส่งทางบก สาขาที่ผู้โอน (หรือผู้ขาย) มีที่อยู่ปรากฏในเล่มทะเบียนรถ หรือขอแจ้งใช้รถไว้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โอนลอย คืออะไร ?
ใบคู่มือจดทะเบียน หรือเล่มทะเบียนรถ
แบบโอน-รับโอน
1. ไปที่สำนักงานขนส่งทางบกสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฏในเล่มทะเบียน หรือขอใช้รถไว้
2. นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ที่สถานตรวจสภาพรถ
สถานตรวจสภาพรถ
3. ติดต่อเจ้าหน้าที่ และยื่นเอกสารหลักฐาน พร้อมแบบคำขอโอนและรับโอนกรรมสิทธิ์
4. ชำระเงินค่าธรรมเนียม ดังนี้
5. รอรับเอกสารต่าง ๆ คืน
หลังยื่นเรื่องโอนรถเรียบร้อยแล้ว จะได้เล่มภายใน 15 วัน (ทำการ) และต้องแจ้งนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันโอน หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว จะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
สำนักงานขนส่งทางบก
การโอนลอย ได้รับความนิยมมาก เพราะสร้างความสะดวกให้กับทางผู้ขาย ไม่ต้องไปดำเนินเรื่องเองที่ขนส่ง แค่เซ็นเอกสารให้ผู้ซื้อไปดำเนินการโอนรถเอง ที่สำนักงานขนส่งทางบกสาขาที่ผู้ขายมีที่อยู่ปรากฏในเล่มทะเบียน หรือขอใช้รถไว้ โดยต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
เอกสารโอนลอย
การโอนลอย นอกจากจะสร้างความสะดวกให้เจ้าของรถไม่ต้องเสียเวลาดำเนินเรื่องเองแล้ว ผู้ขายยังสามารถรับเงินได้เลย หลังส่งเอกสารโอนลอยให้ผู้ซื้อ นอกจากนี้ ยังทำให้การซื้อ-ขายรถผ่านคนกลางเป็นไปได้ง่ายขึ้น หากต้องการขายรถต่อหรือฝากขายกับเต็นท์ คนกลางไม่จำเป็นต้องเซ็นรับโอนในทันที เมื่อขายได้ค่อยนำเอกสารที่คนขายเซ็นไว้ ให้ผู้ซื้อเซ็นรับโอนในภายหลัง
ทว่า แม้จะสร้างความสะดวกสบายแค่ไหน แต่การโอนลอยก็มีเรื่องที่ต้องระวังอยู่ด้วยเช่นกัน คือ ผู้ขายต้องเตรียมเอกสารอย่างรัดกุม กรอกวันที่และสัญญาให้ครบถ้วน เมื่อเซ็นชื่อ ต้องกำกับไว้ชัดเจนว่าใช้ดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งใด พร้อมระบุในสัญญาซื้อขายให้ชัดเจนด้วยว่า ยังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ หากผู้ซื้อยังไม่ได้ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานขนส่งฯ แต่นำรถที่ยังเป็นชื่อผู้ขายไปกระทำความผิด เช่น ฝ่าฝืนกฎจราจร หรือนำไปก่อเหตุอาชญากรรม ฯลฯ ผู้ขายที่มีชื่ออยู่ในเล่มทะเบียน จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นเจ้าของรถอยู่นั่นเอง ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดตามมาในภายหลัง จึงควรไปโอนรถโดยตรงที่สำนักงานขนส่งพร้อมผู้ซื้อเลยดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม >>