ปัจจุบันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีในไทยมากขึ้น เราจะเห็นได้จากหลายค่ายได้นำเอาไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid เข้ามาทำตลาดหลายรุ่น ประกอบกับค่ายรถยนต์จากฝั่งเอเชียก็ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Hybrid มาระยะหนึ่งจนติดเริ่มคุ้นและติดตลาดในประเทศไทย ทั้งยังความั่นใจในรถพลังไฟฟ้ามากขึ้น
Nissan เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) หรือเรียกง่ายๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% และรุ่น ที่ได้เข้ามาในไทยก็คือ Leaf จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้นอกจากมีแต่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแล้ว ยังมีนวัตกรรมล้ำๆ ติดตั้งเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความปลอดภัย แต่... ไม่ได้มีแค่รถนิสสันเพียงยี่ห้อเดียวที่ได้ทำรถประเภทนี้ Hyundai ก็มีเหมือนกัน และนั่นก็คือ Hyundai IONIQ electric วันนี้ Chobrod จะเปรียบเทียบรถระหว่าง 2 รุ่นนี้กันว่าเป็นยังไง
เปรียบเทียบรถพลังไฟฟ้า!!! Hyundai IONIQ กับ Nissan Leaf
รูปลักษณ์ภายนอก
Hyundai IONIQ เป็นรถที่ออกแบบให้มีความสะดวกสบายสไตล์รถยนต์ซีดาน แต่ผสานความสปอร์ตในรูปทรงรถแฮตช์แบ็ค ท้ายลาดเอียง ประตูท้ายเป็นชิ้นเดียวกับกระจกบานหลัง มาพร้อมไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ LED และไฟสูงฮาโลเจน มีกระจังหน้าแบบทึบไม่มีช่องรับลม เพราะไม่มีหม้อน้ำต้องให้ระบบความร้อน มีกันชนหน้าที่เป็นชิ้นเดียว พร้อมช่องไฟตัดหมอกที่มีช่องระบายอากาศ ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED ประตูบานหลังแบบชิ้นเดียว โดยมีกระจกเป็น 2 ช่อง ช่วยเพิ่มวิสัยการมองเห็น โดยรวมแล้วก็ดูเป็นรถสไตล์ยุคใหม่ทันสมัย สามารถสะกดทุกสายตา
Hyundai IONIQ เป็นรถที่ออกแบบให้มีความสะดวกสบายสไตล์รถยนต์ซีดาน
ขณะที่ Nissan Leaf ถูกออกแบบได้อย่างดูมีสไตล์ ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวและดูเป็นมิตร มีเส้นสายที่ดึงดูดสายตา ปราดเปรียวและเฉียบคมไม่ต่างกัน หน้าตานั้นคุ้ยเคยมากกับไฟหน้ารูปทรงบูมเมอแรงและกระจังหน้าทรง V-Motion ที่เห็นได้จากนิสสันยุคใหม่ทุกรุ่น มีการออกแบบให้มีความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลดค่าแรงเสียดทาน และยังมีไอคอนที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งมองแล้วก็เป็นรถที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว แต่แฝงด้วยพลัง
Nissan Leaf ถูกออกแบบได้อย่างดูมีสไตล์ ล้ำสมัย
การออกแบบภายในและสิ่งอำนวยความสะดวก
Hyundai IONIQ ภายในถูกออกแบบโดยเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต ตามแนวคิด "Purified High-Tech" ที่เน้นความเรียบง่าย แต่มีความประณีต ใช้วัสดุธรรมชาติที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด มีผิวสัมผัสที่เรียบ ลื่น และให้ความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ มีหน้าปัดแบบจอสี TFT นาด 7 นิ้ว พร้อมกราฟฟิกทันสมัยแสดงผลทั้งระบบการใช้พลังงานเมื่อขับขี่ ระดับคงไฟฟ้าเหลือในแบตเตอรี่ มาตรวัดความเร็ว และแสดงสถานะการทำงานต่างๆ ของรถพร้อมกับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอตามโหลดการขับขี่อีกด้วย พวงมาลัยก็เป็นมัลติฟังก์ชั่นที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เบาะหลังพับได้ 60-40 ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมด้วยโหมดประหยัดพลังงานเมื่อขับขี่คนเดียว โดยแอร์จะเปิดทิศทางลมเฉพาะด้านคนขับ ช่วยประหยัดพลังงาน
Hyundai IONIQ ภายในถูกออกแบบโดยเน้นถึงความเป็นรถแห่งอนาคต
ฮุนไดใช้วัสดุธรรมชาติที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด
ดูเพิ่มเติม
>> รถยนต์ไฟฟ้ากับประเทศไทย โอกาสการเติบโตในอนาคต
>>เปรียบเทียบ Tesla Model 3 vs Nissan Leaf รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นไหนดี?
ส่วน Nissan Leaf ภายในออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย ดูกว้างขวางและผ่อนคลายด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย “Gliding Wing” การออกแบบกว้าง ไม่อึดอัด นั่งสบายทั้งด้านหน้าและหลัง การตกแต่งเดินตะเข็บด้ายสีฟ้าที่เบาะนั่งทำให้ดูแปลกไปอีกแบบ แผงแดชบอร์ดและที่พวงมาลัย ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนเบาะนั่งฝั่งคนขับออกแบบตามสรีระของคนเอเชียและยุโรป ปีกเบาะกระชับลำตัว ถือว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้วัสดุคุณภาพดีหรูหราระดับหนึ่ง กระโปรงท้ายมีพื้นที่มากพอที่จะวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แบบวางแนวตั้งได้ 3 ใบ หรือวางจักรยานพับได้ 2 คัน และเมื่อพับเบาะหลัง ซึ่งเบาะหลังพับได้แบบแยกส่วน 60:40 ถือว่าเป็นรถที่สร้างพื้นที่ในการเดินทางแบบครอบครัวได้อย่างตรงจุดทีเดียว
Nissan Leaf ภายในออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย
Nissan Leaf ดูกว้างขวางและผ่อนคลายด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย
แรงขับเคลื่อน
ทั้ง Hyundai IONIQ และ Nissan Leaf ต่างก็เป็นรถพลังไฟฟ้า โดย Hyundai IONIQ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า ระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง ให้ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน โพลิเมอร์ ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที และระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ได้ประมาณ 280 กิโลเมตร
Hyundai IONIQ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร
ส่วน Nissan Leaf ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0g./km. (Zero Emission) มาพร้อมแบตเตอรี่ Advanced Lithium-ion (Li-ion) ที่มีความจุ 40 kWh เติมพลังงานด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ โดยสามารถไปได้ไกลถึง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่เป็นระบบชาร์จไฟบ้าน 6.6 KW ใช้เวลาชาร์จ 6 ชั่วโมง ระบบชาร์จไฟบ้าน 3.6 KW ชาร์จ 12 ชั่วโมง เมื่อแบตเตอรรี่เต็มสามารถวิ่งได้ 400 กม. ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น หากเป็นมาตรฐาน EPA ของสหรัฐฯ ทำระยะทางวิ่งสูงสุด 240 กม.
Nissan Leaf ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor
สรุปแล้วรถยนต์พลังไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นนี้ต่างก็เป็นรถยนต์ที่ช่วยอนุรักษ์พลังงาน ดีไซน์ก็ออกแบบให้ทันสมัยเหมาะกับคนยุคใหม่ที่อยากรักษาโลก ดูโดยรวมแล้วดีไซน์ภายนอกก็สะดุดตา สวย หรูดูดี ไม่ต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนภายในก็เป็นการออกแบบที่ลงตัว ไม่มีใครสวยกว่าใคร เพราะขึ้นอยู่กับคนใช้ ส่วนด้านแรงขับเคลื่อน ก็เป็นพลังไฟฟ้า ใช้เแบตเตอรี่และต้องชาร์จ อันนี้ก็ต้องคำนวณดีๆ ว่าโอเคหรือเปล่า ส่วนราคาก็แน่นอนว่าไม่เบาเลยทีเดียว แต่ใครที่มีกำลังซื้อก็จัดไป แต่ใครไม่ไหวอยากดูรถมือสองก็เข้าไปดูได้เลยใน รถมือสอง