รถใหม่ 2019 นี้แต่ละค่ายนั้นก็มีหมัดเด็ดปล่อยของให้มาอย่างเต็มที่ โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของรถใหม่ป้ายแดง ในประเทศไทยกันบ้าง ว่ารุ่นไหนน่าซื้อตัวท็อปมาใช้กันบ้าง โดยเราได้คัดกันมาเน้น ๆ ถึง 5 รุ่นด้วยกัน ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อรถใหม่อยู่ตอนนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด !!
เคยเป็นไหมครับเวลาจะออกรถใหม่สักทีก็อยากได้รถตัวท็อป รุ่นแพงสุด เชื่อว่าคงเป็นกันหลายคน แล้วรถตัวท็อปที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะคุ้มค่าเสมอไป ยกตัวอย่างรถสักรุ่นที่ราคาตัวท็อปแพงกว่าประมาน 1 แสน แต่ออปชั่นและสิ่งที่ได้เพิ่มมานั่นไม่คุ้มค่าเลย ผิดกับรถยนต์บางรุ่น ที่ควรจะซื้อตัวท็อปเพื่อออปชั่นและเทคโนโลยี ต่าง ๆ ในราคาที่คุ้มค่านั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะขอแนะนำ รถ 5 รุ่นที่ควรซื้อตัวท็อปที่สุด !! มาชมกันเลย
Toyota C-HR HV HI ราคา 1,159,000 บาท
รถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่เรียกว่าเป็น อเนกประสงค์ที่มีตัวถังสไตล์แบบสปอร์ตคูเป้ที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยเป็นอย่าง และได้ทำยอดขายแซงคู่แข่งไปได้ในปีที่ผ่านมาอีกด้วย Toyota C-HR นั้นจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 แบบ คือเบนซิน 1.8 ลิตร และ เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 1.8 ลิตร สิ่งที่ทำให้ Toyota C-HR เป็นรถที่ควรเลือกซื้อในรุ่นท็อปสุดก็เพราะ ระบบต่าง ๆ ที่แถมมาให้นั้นมีความคุ้มค่าเสียเหลือเกินเรียกได้ว่ามาล้ำสุด ๆ ด้วยเทคโนโลยีรวมไปถึงระบบความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ ที่มีถึง 4 ประเภทด้วยกันก็คือ
เครื่องยนต์ Hybrid 1.8 ลิตร เจนฯ 4 ประหยัดน้ำมายิ่งขึ้น
TNGA ระบบโครงสร้างแบบใหม่ปลอดภัยมายิ่งขึ้น
Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยที่มีใน Toyota C-HR HV HI
T-Connect Telematic ระบบเชื่อมต่อผู้ขับกับรถให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ราคา Toyota C-HR
Toyota Yaris Ativ S+ ราคา 639,000 บาท
รถยนต์มหาชนที่แตกไลน์มาจาก Toyota Yaris รุ่น 5 ประตู ซึ่ง Toyota Yaris Ativ นั้นจะเป็นทรง 4 ประตู Sedan นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมในประเภทของรถ Eco Car ซึ่งเป็นรถที่มีรูปทรงเล็กกระทัดรัด และตอบสนองการใช้งานในเมืองได้เป็นอย่างดี โดยจะเน้นไปที่ความสวยงามสดใส พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก โดยพื้นฐานแล้วเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 5 จังหวะ แต่สิ่งที่จะได้ถ้าหากเลือกรุ่น Toyota Yaris Ativ S+
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ พร้อมวงแหวนสีแดง
ภายในสีดำ ตัดด้วยด้ายแดง พร้อมเบาะทรงสปอร์ต
มาตรวัดเรืองแสง พร้อมกับหน้าจอ TFT แบบสีขนาด 4.2 นิ้ว
หน้าจอวิทยุขนาด 7 นิ้วพร้อม กล้องมองหลังที่มีเฉพาะ Toyota Yaris Ativ S+ เท่านั้น
Toyota Yaris Ativ S+ เป็นรุ่นที่มีความแตกแต่างจากรุ่น G เป็นอย่างมาก ด้วยออปชั่นที่เพิ่มเข้ามา ทำให้การเลือกซื้อ Toyota Yaris Ativ S+ ที่มีราคาสูงกว่ารุ่น G เพียง 30,000 บาท ถือว่าเป็นความคุ้มค่าได้ทั้งความสวยงาม และ ความบันเทิงอย่างครบวงจร
ราคา Toyota Yaris Ativ
ดูเพิ่มเติม
>> MG Extender VS. Toyota Hilux Revo Rocco กระบะน้องใหม่ปะทะเจ้าตลาด เทียบสเปคจริงไม่มีอวย
>> กระบะอัจฉริยะ ทำความรู้จัก i-SMART ใน "NEW MG EXTENDER"
Honda Civic TURBO RS ราคา 1,219,000 บาท
ถ้าพูดถึงรถยนต์ ซีดานขนาดกลาง ที่ได้รับความนิยมจากหลาย ๆ คนในตอนนี้ ก็คือ Honda Civic 1.5 Turbo 2019 ซึ่ง รุ่นท็อปจะเรียกว่า Turbo Rs ถือว่าเป็นรถที่ขับดีอีกหนึ่งคันด้วยพลังกำลังที่มีมาให้ 173 ม้า และ ช่วงล่างที่มีจุดศุนย์ถ่วงต่ำ และ ฐานล้อกว้างขั้น ทำให้รถมีสมรรถนะ และยังเป็นเครื่องยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ด้วยการนำระบบอัดอากาศเข้ามาใช้ควบคู่กับเครื่องยนต์ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบวาล์วประผัน VTEC และที่เป็นจุดหลักที่ควรซื้อรุ่นท็อปสุดนั่นก็คือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถูกอัปเกรดมาตั้งแต่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมชุดแต่งรอบคัน Turbo RS พร้อมกันกับภายใน ที่เป็นวัสดุหนังสีดำพร้อมเย็บด้ายแดง ระบบนำทาง Navigator และยังประกอบด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
ภายในคอนโซลเปียโนแบล็ค ตัดด้วยด้ายแดง พร้อมมาตรวัดเป็นดิจิตอล
ระบบ Honda Sensing จะมีเฉพาะใน Honda Civic TURBO RS เท่านั้น
Honda SENSING
Honda LaneWatch กล้องแสดงภาพจุดอับสายตาย ไปยังหน้าจอในรถ
ราคา Honda Civic Sedan
Subaru Forester 2.0 i-S EyeSight ราคา 1,450,000 บาท
Subaru Forester เป็นหนึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบรับการใช้งานได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นทางที่ยากจะเข้าถึง หรือทางในเมือง ก็ตอบโจทย์แก่ผู้บริโภค และที่สำคัญตัวท็อปสุดที่เน้นขายระบบความปลอดภัย EyeSight ใหม่ล่าสุด โดยทำราคามาถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวที่สำคัญราคานั้นห่างจากรุ่นที่ถูกสุดเพียงแค่ 120,000 บาทเท่านั่น ระบบ EyeSight เปรียบเสมือนดวงตาคู่ที่สองสำหรับการมองเห็นบนท้องถนน โดยทำงานประมาณผลผ่านกล้องสเตอริโอสองตัวเพื่อจับภาพเป็นรูปแบบ 3 มิติ โดยมีความละเอียดใกล้เคียงกับสายตามนุษย์ ในประเทศญี่ปุ่น ระบบ EyeSight นั้นทำให้อุบัติเหตุนั้นลดลงถึง 61% EyeSight นั้นประกอบด้วยระบบย่อยต่าง ๆ ดังนี้
ภายในห้องโดยสารล้ำสมัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ระบบ EyeSight จะประมวลผลผ่านกล้องทั้งสองด้านหน้ารถ
EyeSight เป็นระบบความปลอดภัยสุดล้ำช่วยลดอุบัติได้จริง โดยจะอยู่ใน Subaru Forester 2.0 i-S EyeSight เท่านั้น
ราคา Subaru Forester
Mazda 2 High Plus ราคา 670,000 บาท
สำหรับ Mazda 2 นั้นเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ ด้วยความที่เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact Car) ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดในรถยนต์กลุ่มนี้แล้ว ด้วยเทคโนโลยี พร้อมกับระบบความปลอดภัย ตลอดทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และรูปลักษณ์ที่สวยงามดูโฉบเฉี่ยวตั้งแต่ด้านนอก และภายในห้องโดยสาร โดย Mazda 2 นั้นอาจจะมีรุ่นรถที่จัดจำหน่ายแบ่งเป็น 2 ประเภทก็คือ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ แต่เราจะขอยกเอาเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น ซึ่งตัวท็อปของ Mazda 2 นั้นมีชื่อเรียกรุ่นย่อยว่า Mazda 2 High Plus มีราคาอยู่ที่ 670,000 บาท โดยสิ่งที่จะได้ถ้าหากคุณซื้อรุ่นนี้ก็คือ
Mazda i-Activesense ระบบความปลอดภัยชั้นสูงที่ทำให้ Mazda 2 ได้เปรียบคู่แข่ง
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่จำเป็นให้มาในรุ่นเริ่มต้นอย่างมากมายอีกด้วย เรียกว่าได้เป็นหมัดน็อคเอาชนะคู่แข่งค่ายอื่น ๆ ก็ส่วนนี้นี่แหละครับ และยังตอกย้ำความน่าสนใจให้กับเจ้า Mazda 2 ก็คือเทคโนโลยี Skyactive ที่ครอบคลุมตั้งแต่ เครื่อง เกียร์ โครงสร้าง อีกด้วยนั่นเอง
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ถูกติดตั้งใน Mazda 2 High Plus เท่านั้น
ราคา Mazda 2 1.3 Hatchback / Sedan
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้