ค่าติดตามทวงถามรถยนต์จากไฟแนนซ์ ไม่จ่ายได้ไหม ?

เป็นปัญหาสำหรับคนที่ไม่เคยผ่อนชำระค่างวดกับไฟแนนซ์แล้วเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะทำให้ต้องจ่ายค่างวดล่าช้ากว่ากำหนด จนทางไฟแนนซ์ต้องส่งจดหมายมาเพื่อทวงถามเงินค่างวดรอบนั้นๆ จำนวนเงินค่าทวงถามไม่ได้มีกำหนดตายตัวแต่จะขึ้นอยู่ที่ไฟแนนซ์แต่ละที่กำหนดว่าค่าทวงถามแต่ละครั้งจะเป็นเงินเท่าไร จะตั้งแต่ 200-1,500 บาทต่อครั้ง

ระบุไว้ในสัญญายังไงก็ต้องจ่าย

ค่าทวงถามนี้จะถูกกำหนดในสัญญาที่ผู้เช่าซื้อได้ทำกับไฟแนนซ์ ว่าถ้ามีการชำระค่างวดล่าช้าในแต่ละครั้งจะมีการเรียกเก็บค่าทวงถาม และถ้ามีการขาดส่งค่างวดเป็นเวลา 3 งวดติดกันไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาและทำการยึดรถจากผู้เช่าซื้อ และผู้เช่าซื้อต้องชำระหนี้ค่ารถที่ยังค้างอยู่ให้ครบอีกด้วย ไม่ใช่ว่ายึดรถไปแล้วจะจบเพราะถือว่าผู้เช่าซื้อได้ทำผิดสัญญา

>> ขอสินเชื่อรถมือสองยังไง ให้ดอกเบี้ยถูก ?

ไฟแนนซ์ฉลาดหักค่าทวงถาม จากค่างวดทันที

ถ้าค่าทวงถามของรถถูกระบุอยู่ในสัญญาไฟแนนซ์ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกระบุไว้  ก็จำเป็นผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าทวงถามนั้นๆ แม้จะไล่จ่ายค่างวดทันครบรอบชำระแล้วก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นผู้เช่าซื้อไม่ได้ชำระค่างวดมาแล้ว 2 งวดแล้ว จำนวนงวดละ 15,000 บาท ทางไฟแนนซ์ได้ส่งจดหมายทวงถามมา 2 รอบไม่รวมค่าปรับ รอบแรกเป็นจำนวนเงิน 500 บาทและอีกรีบเป็นจำนวน 800 บาท รวมเป็นเงิน 1300 บาทถ้วนๆ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปรวมกับเงินค่างวดที่ผู้เยังค้างอยู่และทางไฟแนนซ์ จะหักเงินจากค่างวดที่ผู้เช่าซื้อจ่าย นำไปหักค่าทวงถามก่อนทันที ถ้าผู้เช่าซื้อค้างค่างวด 2 รอบบิลเป็นเงิน 30,000 บาท ผู้เช่าซื้อจะไปจ่ายเงินแค่ 30,000 แล้วอย่าเพิ่งคิดว่าจบนะครับ เพราะเงิน 30,000 นั้นจะถูกหักไป 1,300 บาททันที แล้วที่เหลือทางไฟแนนซ์ค่อยนำไปตัดค่างวดที่ยังค้างอยู่ นั้นหมายความว่า ค่างวดรอบล่าสุดผู้เช่าซื้อยังจ่ายไม่ครบเต็มงวดนะ เพราะเพิ่งจ่ายไปเพียง 15,000-1,300 = 13,700 บาทเท่านั้น นี่ขนาดยังไม่รวมค่าปรับที่ชำระค่าลวดล่าช้าไม่ตรงตามกำหนดซึ่งค่าปรับนี้ก็จะเป็นจำนวนเงินที่แตกต่างกันของแต่ละไฟแนนซ์เช่นกัน

จ่ายให้ครบดีกว่า เพราะเล่มทะเบียนยังอยู่กับเขา (ไฟแนนซ์)

คำแนะนำอย่างหนึ่งอยากให้นำไปคิดกันครับ ว่าถ้าเกิดมีค่าทวงถามเรียกเก็บมา ให้จ่ายๆ ไปให้ครบดีกว่าครับเพราะตราบใดที่รถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์อยู่ เล่มทะเบียนรถยังอยู่กับไฟแนนซ์ ผู้เช่าซื้อก็ยังไม่มีสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมายในรถคันนั้น แม้ผู้เช่าซื้อจ่ายค่างวดครบตามจำนวนแต่ไม่ชำระค่าทวงถาม หรือค่าปรับที่ชำระล่าช้า ทางไฟแนนซ์ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่โอนกรรมสิทธิ์รถให้เป็นของผู้เช่าซื้อได้ เพราะยังค้างค่าทวงถามหรือค่าปรับ แต่ถ้าเงินค่าทวงถามหรือค่าปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไปไม่สมเหตุสมผล หรือไม่ได้ระบุในสัญญาแล้วไฟแนนซ์มาเรียกเก็บแบบนี้ผู้เช่าซื้อสามารถฟ้อง สคบ. หรือจ้างทนายฟ้องศาลได้เลยครับ

เพื่อความสบายใจอย่าลืมเช็คกับทางไฟแนนซ์ด้วยถ้าคุณเคยจ่ายค่างวดช้ากว่ากำหนด ถามว่ามีค่าทวงถามค้างอยู่หรือเปล่าและชำระให้ครบ แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือคุณควรจ่ายค่ารถให้ตรงงวด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าทวงถามเพิ่มอีก นอกจากดอกเบี้ยที่คุณเสียให้ไฟแนนซ์ไปแล้วก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ นะครับ

ผ่อนรถไม่ไหว ทำยังไงดี ? พร้อมวิธีการแก้ปัญหา
ซื้อรถรุ่นไหนดี ? รวมรถยนต์ใหม่ น่าซื้อที่สุด