หากใครที่กำลังเล็งรถอเนกประสงค์ SUV ที่ใช้เป็นรถครอบครัวไว้เดินทางไปไหนมาไหนได้ครบทุกคน Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport คงเป็นตัวเลือกที่เข้ามาในใจของหลายๆคนตอนนี้ ด้วยรูปลักษณ์โมเดลและราคาที่ใกล้เคียงกันมาก แล้วรุ่นไหนล่ะที่จะตอบโจทย์และตรงกับใจเรามากที่สุด วันนี้ Chobrod จะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
เปรียบเทียบ Toyota Fortuner vs Mitsubishi Pajero Sport ซื้อรุ่นไหนดี?
บทความนี้ก็จะมาเปรียบเทียบให้เห็นแบบสเปคต่อสเปคกันเลยว่าแต่ละรุ่นนั้นให้มาแบบไหนและจะวิเคราะห์ให้ดูกันว่ารุ่นไหนเหมาะกับคนที่ใช้งานยังไง และมันจะคุ้มกว่ากันที่ตรงไหน? เพราะทั้งคู่ก็ถือได้ว่าเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่มีความสวยงามเเละมีรูปลักษณ์เป็นที่ต้องตาต้องใจของคนที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสมรรถนะที่มีความร้อนเเรง มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีความหลากหลาย โดยฟังก์ชั่นเหล่านี้มีความล้ำสมัย เเละช่วยสร้างให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นอย่างมาก ทำให้รถยนต์ทั้งสองรุ่นเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากครอบครัวยุคใหม่ เพราะสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ทุกรูปเเบบเลยทีเดียวค่ะ
เปรียบเทียบราคา Toyota Fortuner กับ Mitsubishi Pajero Sport
1.เปรียบเทียบราคา Toyota Fortuner กับ Mitsubishi Pajero Sport
Toyota Fortuner ราคาอยู่ที่ 1,239,000 - 1,663,000 บาท
Mitsubishi Pajero Sport ราคาอยู่ที่ 1,301,000- 1,544,000 บาท
จะเห็นได้ว่าราคาเริ่มต้นของ Toyota Fortuner นั้นต่ำกว่า Mitsubishi Pajero Sport แต่ราคาตัวท็อปกลับสูงกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าฝั่งฟอร์จูนเนอร์มีหลายรุ่นมากกว่า ก็ยิ่งเพิ่มฟังก์ชั่นขึ้นไปเรื่อยๆจึงทำให้ตัวท็อปมีราคาที่สูง ซึ่งในบทความนี้เราจะเปรียบเทียบในตัวท็อปของแต่ละรุ่นนั่นเองค่ะ
ดูเพิ่มเติม
>> Update สินเชื่อสำหรับคนออกรถ Toyota Fortuner 2018
>> 4 ตัวพ่อ! ยนตรกรรมราคาสูงที่สุดจากค่าย Toyota
รูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก Toyota Fortuner
2.เปรียบเทียบรูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก
Toyota Fortuner
-ไฟหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อม ระบบ follow-me-home
-ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ
-ไฟท้ายแบบ Light Guiding
-กระจกมองข้างพร้อมระบบ Welcome Light
-ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า
-กล้องมองหลัง
-ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
>> เข้าดู toyota fortuner มือ สอง ได้ที่นี่
รูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก Mitsubishi Pajero Sport
Mitsubishi Pajero Sport
-ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ แบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home
-ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
-ไฟท้ายแบบ Spectrum LED พร้อมไฟเบรกแบบ LED
-กระจกมองหลังแบบปรับแสงสะท้อน ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
-ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง (แบบตัดการทำงานอัตโนมัติ) ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
-กล้องมองภาพบริเวณด้านหลัง
รูปทรงของตัวรถ Fortuner จะดูกว้างและใหญ่มากกว่า ส่วน Pajero Sport จะมีรูปทรงที่เพรียวบางกว่า โดยรวมแล้วภายนอกทุกอย่างมีเหมือนกันแทบจะหมดทุกอย่างทั้งเรื่องของไฟที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบไล่ฝ้ากล้องมองหลัง แต่สิ่งที่ Toyota Fortuner มีเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ฟังก์ชั่นตรงนี้จะมีทุกรุ่นยกเว้นรุ่นเล็กที่สุดค่ะ ส่วนเรื่องของรูปลักษณ์ทั้งคู่มาในดีไซน์ที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้นเช่นเดียวกัน ล้ออัลลอย 18 นิ้ว สีส่วนใหญ่จะเป็น เงิน ขาว เทา น้ำตาล ดำ แต่ Fortuner มีสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นมาให้เลือกได้มากขึ้น
ดูเพิ่มเติม
>> Update สินเชื่อสำหรับคนออกรถ Toyota Fortuner 2018
>> ส่องรถครอบครัว 7 ที่นั่งสำหรับครอบครัว รุ่นไหนน่าใช้
อุปกรณ์ภายในของ Toyota Fortuner
3.เปรียบเทียบอุปกรณ์ภายใน
Toyota Fortuner
-วัสดุหุ้มเบาะนั่งสีครีมชามัวส์เป็นหนังและหนังสังเคราะห์
-เบาะนั่ง แถวที่ 1 แบบสปอร์ต ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ด้านผู้ขับ
-แผงข้างประตู ตกแต่งด้วยแถบสีเงิน สีครีมชามัวส์ บุหนังสังเคราะห์
-ที่บังแดดด้านผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร มีที่เก็บนามบัตร กระจก ฝาปิดและไฟส่องสว่าง
-พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำ เข้า-ออก (Tilt & Telescopic) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
-ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และ AC 220 โวลต์
-ช่องต่ออุปกรณ์ USB/AUX วิทยุ FM/AM และเครื่องเล่นแผ่น DVD จอสัมผัส7นิ้ว
-การเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับโทรศัพท์และการเล่นเพลง และระบบนำทางรองรับ T-Connect
-ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบ LED พร้อมไฟส่วนบุคคล
-ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสม
-เบาะปรับพับแถว 2 แบบ One Touch
-ช่องเก็บของแบบ Cool box ที่วางแก้วแบบ push – open เลื่อนเก็บได้ บริเวณที่พักแขนเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
อุปกรณ์ภายในของ Mitsubishi Pajero Sport
Mitsubishi Pajero Sport
-เบาะหน้า เบาะหลังและวัสดุหนังสังเคราะห์ สีดำ
-เบาะคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง ด้วยระบบไฟฟ้า
-ตกแต่งภายใน (สีเงิน-โครเมี่ยม) บุหนังสังเคราะห์สีดำ
- ที่บังแดดหน้า แบบมีกระจกแต่งหน้าและฝาปิด พร้อมที่เสียบบัตรด้านคนขับ
-ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวกมาลัย
-ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ หน้าและหลัง
-เครื่องเสียง 2DIN – วิทยุ, ดีวีดี, ซีดี, เอ็มพี 3, จอภาพระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB
-ระบบเชื่อมต่อบลูทูธแบบ A2DP และระบบนำทางในรถยนต์
-ไฟห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อปลดล็อก
-ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา (Dual zone)
-เบาะแถวสาม ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้
-จอภาพแบบ Wide Screen พร้อมเครื่องเล่นซีดี, รีโมท และหูฟังอินฟราเรด 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สำหรับเรื่องอุปกรณ์ภายใน ทั้งสองรุ่นก็ให้ฟังก์ชั่นมาอย่างครบครันและคล้ายๆกัน เบาะหนังสังเคราะห์ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคลว่าชอบสีครีมชามัวส์หรือสีดำ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เพื่อการใช้งานมัลติมีเดียทั้งฟังเพลง MP3 วิทยุ หรือจะเสียบ USB ก็สามารถทำได้ ถ้าแบตสมาร์ทโฟนเราหมดก็มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระจายไฟชาร์จแบตให้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมีทั้งคู่แต่ Fortuner ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสมได้
ข้อโดดเด่นของ Fortuner โดดเด่นในเรื่องช่องเก็บของที่มีกระจุกกระจิกเยอะมาก มีช่องเก็บของแบบ Cool box ช่องใส่ขวดน้ำ ตะขอแขวนสัมภาระหลังเบาะคู่หน้า และบริเวณท้ายรถ ที่วางแก้วแบบ push – open เลื่อนเก็บได้ บริเวณที่พักแขนเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง ช่องเก็บของด้านข้างประตูหน้าและหลัง ที่เก็บแว่นตาพร้อมไฟส่องสว่าง LED เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ในการเก็บของ
ข้อโดดเด่นของ Pajero Sport คือเรื่อง ROOF MONITOR จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบ Wide Screen พร้อมเครื่องเล่น DVD รีโมท และหูฟังอินฟราเรด2ชุด ให้ความเพลิดเพลินในการดูหนัง ฟังเพลง ตลอดการเดินทาง อันนี้ถือว่าตอบโจทย์สำหรับครอบครัวหลายๆคนที่ต้องการความบันเทิงในรถแบบทั่วถึง สามารถเอนจอยไปพร้อมๆกันทั้งครอบครัวได้อย่างเต็มที่ คิดว่าหลายๆคนคงชอบมากสำหรับฟังก์ชั่นนี้ ค่ะ
เครื่องยนต์ Toyota Fortuner
4.เปรียบเทียบเครื่องยนต์
Toyota Fortuner
-เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน - เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที
เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด/ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร Dual VVT-i (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เใมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที (รองรับน้ำมัน E20)
-เครื่องยนต์ GD Efficient Boot ลดการสูญเสียความร้อน และแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง Flat Torque
- VN Turbo ด้วยระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแม่นยำสูงสุด ส่งกำลังให้แรงต่อเนื่องทุกความเร็วรอบ
-การขับเคลื่อนในเเบบ 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมกับระบบขับเคลื่อนเป็นระบบเกียร์เเบบ อัตโนมัติ 6 จังหวะ
-ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงานเครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็นอย่างต่อเนื่อง
-ระบบขับเคลื่อนม่าโฟร์ โหมด H2, H4, L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC ที่จะเอาชนะทุกความท้าทาย ก้าวข้ามอุปสรรคแห่งการเดินทาง และระบบ H2 ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับสภาพถนนปกติ ช่วยให้ประหยดน้ำมันเป็นเยี่ยม
-ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) ระบบการควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติขณะขับลงทางชันช่วยควบคุมความเร็วรถให้คงที่ ป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลลงเนินอย่างรวดเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control)
-ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
เครื่องยนต์ Mitsubishi Pajero Sport
- เครื่องยนต์ดีเซล คอนมอนเรล 2.4L 181 แรงม้า ที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแกร่ง และระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม
-ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม
-เพิ่มแรงม้ามากขึ้นด้วยขุมพลังของ VG Turbo ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูง ทั้งในรอบปานกลาง และรอบสูง ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขี่สนุกและเร้าใจมากขึ้น
-เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 8AT with Sport Mode + INC (ldle Neutral Control) and G-Sensor ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะใหม่ล่าสุด ที่มีอัตราทดถึง 8 สปีด
-ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก เพื่อหยุดรถในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในการทุกการขับขี่และลดการสึกหรอของระบบเกียร์
-SUPER SELECT 4WD II เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน โดยให้คุณสามารถเปลี่ยนโหลดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลดภัยบนถนนลื่น
-ระบบ G-Sensor ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
เครื่องยนต์ปรับเรื่องของแรงบิดได้ดีขึ้น กินความร้อนน้อยลงทำให้อัตราเร่งดีเยี่ยม มาพร้อม VN Turbo ระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงมี Fortuner ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ในขณะที่ Pajero Sport ระบบ G-Sensor ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน แต่ละยี่ห้อก็ปรับเครื่องยนต์ให้ช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพด้วยระบบที่ต่างกัน
ข้อโดดเด่นของ Fortuner โดดเด่นในเรื่อง ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง การขับเคลื่อนในเเบบ 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมกับระบบขับเคลื่อนเป็นระบบเกียร์เเบบ อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ข้อโดดเด่นของ Pajero Sport ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก เพื่อหยุดรถในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 8AT with Sport Mode + INC (ldle Neutral Control) และ SUPER SELECT 4WD II เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน โดยให้คุณสามารถเปลี่ยนโหลดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลดภัยบนถนนลื่น และเมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบ Off-Road คุณยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc ได้ตามความต้องการและง่ายขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมด้วยปุ่ม Off-Road โหมด ที่ให้คุณสามารถเลือกรูปแบบการส่งกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว และเส้นทางในการขับขี่ได้มากถึง 4 รูปแบบ (Gravel, Mud / Snow, Sand, Rock)
ดูเพิ่มเติม
>> เมื่อการดีไซน์ภายใต้อนาคตถูกถ่ายทอดสู่ผู้ขับขี่ในปัจจุบัน... “MITSUBISHI”
>> Pajero Sport รถรุ่นตัวแพงของ Mitsubishi
ความปลอดภัยของ Toyota Fortuner
5.ความปลอดภัย
Toyota Fortuner
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Trailer Control)
-ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)ช่วยรักษาเสถียรภาพ ป้องกันรถส่ายหรือเสียการทรงตัว
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)ตรวจวัดระบบการทรงตัวของรถ และควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง
-ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันล้อล็อกและการลื่นไถลจากการเบรกกะทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
-เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR ความปลอดภัยระดับสูงด้วยเข็มขัดนิรภัยในแถวที่ 1 เป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง ที่สามารถปรับระดับได้ พร้อมกับระบบผ่อนแรง เเละสามารถดึงรั้งกลับได้แบบอัตโนมัติ ส่วนเข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 จะเป็นในแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง + NR 2จุด 1 ที่นั่ง เเละเข็มขัดนิรภัยแถวที่ 3 จะเป็นในแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
-กล้องมองหลัง แสดงภาพบริเวณมุมมองด้านท้ายของรถ ช่วยให้ทุกจังหวะการถอยจอดมั่นใจเพิ่มขึ้นเซ็นเซอร์กะระยะการถอยหลัง เพิ่มความปลอดภัยในทุกการเข้าจอดหรือถอย
-ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด มั่นใจอีกขั้นของการปกป้องที่เหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง/ ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง/ ม่าน 2 ตำแหน่ง/ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
ความปลอดภัยของ Mitsubishi Pajero Sport
ดูเพิ่มเติม
>> Pajero Sport รถรุ่นตัวแพงของ Mitsubishi
>> 10 อย่างใหม่ใน Mitsubishi Pajero Sport 2018
Mitsubishi Pajero Sport
-ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
- FORWARD COLLISION MITIGATION SYSTEM ระบบเตือนชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
- ULTRASONIC MISACCELERATION MITIGATION SYSTEM ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
-ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน
-เข็มขัดนิรภัย คู่หน้า ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง, แถวที่ 2 ELR 3 จุด 1 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง, แถวที่สาม ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- MULTIAROUND MONITOR กล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์
-ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, บริเวณหัวเข่าด้านคนขับและม่านถุงลมนิรภัย
- BLIND SPOT WARNING ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
-ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้า
ส่วนของความปลอดภัย ทั้งคู่ก็เสริมความมั่นใจของผู้ใช้ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆเต็มที่ ทั้งถุงลมนิรภัยในแต่ละจุด ระบบเบรก ระบบความคุมเสถียรภาพการทรงตัว แต่ Pajero Sport จะโดดเด่นกว่าตรงที่มี ระบบเตือนชนด้านหน้าตรงและกล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ ที่จะทำให้เห็นรอบๆ เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นขณะที่ระบบความปลอดภัยอื่นๆที่มีมาให้ใน Fortuner นั้น ต่างก็ติดตั้งมาให้ใน Pajero Sport ทั้งหมดด้วยเช่นกัน
โดยสรุปจากข้อโดดเด่นทั้งหมดที่กล่าวมาคิดว่า Mitsubishi Pajero Sport จะคุ้มกว่าด้วยฟังก์ชั่นที่ให้มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า 1 แสน ทั้งเรื่องหน้าจอพับได้แบบ Widescreen สามารถเล่น DVD ได้ มาพร้อมรีโมทควบคุมและหูฟังอินฟราเรดอีก 2 ตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง การปรับเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะที่ยอมเยี่ยม กล้องมองรอบคันแบบ Bird's Eye View อาศัยภาพจากกล้องถึง 4 ตัว แถมยังคงติดตั้งเซ็นเซอร์รอบคันมาให้อีกต่างหาก ถ้าเอาสเปคที่คุ้มและครบครันต้องรุ่นนี้เลยค่ะ
ในขณะเดียวกันที่ Toyota Fortuner มีรูปลักษณ์ที่สวยงามด้านนอกสปอร์ตมาก ด้านในหรูหรามากกว่าเพราะสีของเบาะที่แตกต่างจากที่อื่น ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากขึ้น ภายในที่กว้างขวางมากกว่า เบาะแถวหลังนั่งได้จริงโดยไม่ต้องชันเข่า เหมาะกับการใช้งานจริงๆ เวลาพับเก็บเพราะจะแขวนไว้ด้านข้าง แต่เรื่องของศูนย์บริการรุ่นนี้อาจจะตอบโจทย์มากกว่าในเรื่องของการให้บริการและอะไหล่ รวมถึงการใช้งานระยะยาว
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลว่าแต่ละยี่ห้อแบบไหนจะตอบโจทย์กับคุณมากกว่าและอย่าลืมว่านี้เป็นแค่อีกหนึ่งความคิดเห็นจากเรา Chobrod.com เพื่อช่วยให้คุณที่กำลังสนใจรถระหว่างสองรุ่นนี้ ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพิ่ม และจะมีแค่คุณเท่านั้นที่จะตอบคำถามสุดท้ายที่ว่า “ซื้อคันไหนดี” ได้ดีที่สุด บางคนอาจจะอยากได้ห้องโดยสารที่กว้างใช้งานได้จริงกับทั้งครอบครัว บางคนอาจจะอยากได้ความเอนเตอร์เทนต์ที่สามารถใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวได้ทั้งหมดภายในรถ ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละครอบครัวนะคะ ว่าแต่เล็งรุ่นไหนไว้เอ่ยย ถูกใจกันบ้างรึเปล่า อย่าลืม Comment ด้านล่างบอกความคิดเห็นกันด้วยน้า
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่