Subaru Forester มือสอง “ทั้งอึด-ทั้งทน”ถูกใจสมราคา
chobrod พาไปส่อง Subaru Forester มือสองกันหน่อยว่ามันน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ทั้งถามจากปากช่าง ถามคนใช้ในหลัก 5 หมื่นโลขึ้นไป แล้วหาข้อมูลในเน็ต คำตอบจะเป็นอย่างไร ไปค้นหากันได้เลย
หากเอ่ยถึงแบรนด์รถยนต์สัญชาติปลาดิบอย่าง Subaru หลายคนอาจจะนึกถึงรุ่นยอดฮิตของค่ายที่วิ่งกันขวักไขว่บนท้องถนนเมืองไทยอย่าง Subaru XV กันใช่หรือไม่ แต่มันยังมีเรือธงที่ขับเคลื่อนสี่ล้อสไตล์รถ SUV อีกรุ่นอย่าง Subaru Forester ที่ก็มีคนนิยมไม่ต่างกัน
เพราะมันทั้งใหญ่กว่า กว้างกว่า และแรงกว่า แถมยังดูบึกบึนสมฐานะกว่า ทำให้หลายคนเลือกจะเพิ่มงบประมาณในกระเป๋าอีกราว 4 แสนบาท เพื่อไปเล่นของสูงกว่าอย่าง Subaru Forester แทนที่เจ้า Subaru XV และโร่กันไปถอยมือหนึ่งป้ายแดงกัน
ไปหาคำตอบกันหน่อยว่าเจ้า Subaru Forester แม้จะเป็นมือสองแต่ยังน่าสนอยู่มั้ย
แต่หากเราลองมองในมุมของ Subaru Forester มือสองบ้างล่ะ มันยังน่าใช้อยู่หรือเปล่า?
อืม...เป็นคำถามที่น่าค้นหาคำตอบอยู่ไม่น้อย เพราะ Chobrod เองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ดังนั้น จึงไปสังเคราะห์ข้อมูลและขอร่วมเดินทางไปกับผู้อ่านเพื่อหาคำตอบด้วยกันว่าเจ้า Subaru Forester มือสอง มันน่าใช้น่าซื้อมาครอบครองอยู่มั้ย
ว่าแล้วก็ไปที่เรื่องราคากันก่อน เพราะแน่นอนว่าคนไทยชอบมากที่สุดก่อนองค์ประกอบอื่นในการพิจารณาซื้อรถ ไม่ว่าจะมือหนึ่งหรือมือสองก็ “ราคา” รถนี่แหล่ะ สำหรับเจ้า Subaru Forester หากย้อนไปถึงรุ่นปี 2011 สนนราคาจะตกอยู่ราว 450,000 - 500,000 บาทเศษ แต่หากกลัวว่าจะมีปัญหาจุกจิกเพราะเก่าเกินไป ก็ขยับรุ่นปีขึ้นมาอีกหน่อยอย่างเช่นปี 2016 หรือปี 2017 ราคาค่าตัวของเจ้า Subaru Forester ก็วิ่งอยู่แถวๆ 800,000 ถึงเหยียบล้านบาทก็มี แต่นี่คือราคามือสองนะ เพราะหากสนใจมือหนึ่งก็เดินกำเงินล้านกว่าบาทเดินเข้าโชว์รูมของ Subaru ได้เลย
Subaru Forester ปี 2014 อย่างคันนี้ คุณมองว่าไง?
ซื้อ Subaru Forester มือสอง แล้วแต่งดำทั้งคันแบบดุๆ อย่างนี้ ก็หล่อไปอีกแบบ
แต่จุดเด่นของ Subaru Forester ไม่ว่าจะรุ่นเก่าหรือไม่ คือประสิทธิภาพของเครื่องยนต์นั่นเอง โดยเจ้าตัวนี้ถูกบรรจุมาให้ในขนาด 2.0 ลิตร จะมีเทอร์โบหรือไม่มีก็ตามแต่รุ่นที่ต้องการเลือกหา และแน่นอนมันเป็นเครื่องยนต์แบบ บ็อกเซอร์ (Boxer Engine) ที่สรรถนะสูงเอาเรื่องพอตัว และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อสมมาตร หรือSymmetrical All-Wheel Drive ที่ช่วยถ่ายน้ำหนักให้เหมาะสมกับการขับเคลื่อนในแต่ละช่วงถนน และสอดคล้องกับการใช้งานในขณะนั้นนั่นเอง
เมื่อมองมายังอายุของเครื่องยนต์ ก็มีข้อบ่งบอกที่ชัดแจ้งว่ามัน “อึด” พอตัวทีเดียว เพราะหลายเสียงเท่าที่ Chobrod ได้สอบถาม ทั้งจากผู้ใช้ จากช่าง และหาข้อมูลในโลกออนไลน์ หลายเสียงพูดตรงกันว่าค่อนข้างทนทาน ระยะอายุของรถที่เพิ่มขึ้นไม่ได้กระเทือนกับเครื่องยนต์ หากว่าผู้ใช้ใช้รถอย่างถูกวิธี และมีการเซอร์วิสตามระยะที่ถูกต้อง
แต่อีกหนึ่งข้อเด็ดของ Subaru Forester คือช่วงล่างที่ค่อนข้างจะหนึบ เพราะจากที่เคยได้ทดสอบเองเจ้า Subaru Forester ตอบสนองได้ดีในโค้ง เพราะในรุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา จะมีเทคโนโลยีหนึ่งที่เรียกว่าเป็นตัวช่วยในการเข้าโค้งไม่ให้ท้ายรถต้องสะบัด (กรณีที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง) ซึ่งคู่แข่งของ Subaru Forester อย่าง Honda Cr-V ยังทำไม่ได้ขนาดนี้ และการควบคุมของพวงมาลัยก็ตอบสนองได้ดี
อึดและทน ช่วงล่างหนึบ กำลังเรียกเป็นมา น่าจะคือนิยามของ Subaru Forester
ส่วนกำลังเครื่องยนต์ก็ถูกยกย่องจากผู้ใช้ว่า “เรียกเป็นมา” และหลายคนที่เคยเป็นเจ้าของในระยะการใช้งานเกิน 50,000 กิโลเมตรขึ้นไป ต่างก็บอกว่าไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์ประเภท SUV จะมีศักยภาพทำได้เหมือนเจ้า Subaru Forester แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ตอบความต้องการได้ดี คือการเก็บเสียงในห้องโดยสาร ที่หลายปากก็บอกว่า มันเงียบ เงียบสมคำร่ำลือจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนข้อด้อย คงจะเป็นเรื่องศูนย์บริการ ที่อาจไม่เทียบเท่ากับค่ายใหญ่อย่าง Toyota หรือ Honda เพราะแน่นอนว่า Subaru ส่วนหนึ่งก็ยังไม่ได้แพร่หลายหรือนิยมมากนัก แม้เราจะเห็นมันวิ่งอยู่บนถนนมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่สำหรับเรื่องแค่นี้ หากช่างมีฝีมือจริง ก็คงไร้ปัญหา
สนใจ Subaru Forester ก็อย่าช้า เดินไปที่เต๊นท์รถใกล้บ้าน หรือคลิกเลือกผ่าน Chobrod ได้เลย
บทสรุปส่งท้ายสำหรับ Subaru Forester มือสอง หากจะให้คำตอบก็คือมันค่อนข้างจะคุ้มค่าในแง่สมรรถนะ และความหรูหราที่จะได้รับในราคาระดับนี้ แม้ว่ามันจะเป็นรถมือสองก็ตาม แต่แน่ล่ะว่า คงไปเทียบไม่ได้กับราคาเดียวกันแต่คนละค่ายคนละแบรนด์จากฝั่งยุโรป อย่าง Mercedes Benz หรือแม้แต่ BMW เพราะสองแบรนด์นี้เขามีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้ว แต่หากราคาสูงเกินไปแล้วหันมามอง Subaru Forester มือสอง Chobrod มั่นใจให้ได้เลยว่า คุณจะขับสนุก และไม่ผิดหวังแน่นอน
บทสรุปส่งท้ายสำหรับ Subaru Forester มือสอง หากจะให้คำตอบก็คือมันค่อนข้างจะคุ้มค่าในแง่สมรรถนะ และความหรูหราที่จะได้รับในราคาระดับนี้ แม้ว่ามันจะเป็นรถมือสองก็ตาม แต่แน่ล่ะว่า คงไปเทียบไม่ได้กับราคาเดียวกันแต่คนละค่ายคนละแบรนด์จากฝั่งยุโรป อย่าง Mercedes Benz หรือแม้แต่ BMW เพราะสองแบรนด์นี้เขามีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้ว แต่หากราคาสูงเกินไปแล้วหันมามอง Subaru Forester มือสอง Chobrod มั่นใจให้ได้เลยว่า คุณจะขับสนุก และไม่ผิดหวังแน่นอน
ดูเพิ่มเติม
>> Subaru Forester Hybrid ตัวใหม่กำลังไฟฟ้าเขย่าโลก มาไทยยังต้องรอ
>> เปรียบเทียบ Nissan X-Trail และ Subaru Forester
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้
