Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak ซื้อคันไหนดี

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 4 พ.ค 2561
แชร์ 8

2 คู่แข่งของกระบะทางเลือกกับที่สุดแห่งความดุดัน มันส์ยิ่งขึ้นในทุกเส้นทางของกระบะเสริมหล่ออย่าง Mitsubishi Triton Athlete ส่วนอีกฝากกับกระบะยอดนิยมดาวรุ่งมาแรงอย่าง Ford Ranger Wildtrak เมื่อถูกนำมาเปรียบเทียบกัน คันไหนอยู่ คันไหนไป คันไหนใช่ที่สุด Chobrod ขออาสาพาไปดูกันได้เลย

เปรียบเทียบขับสี่ตัวลุยทางเลือก Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak ซื้อคันไหนดี

เปรียบเทียบขับสี่ตัวลุยทางเลือก Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak ซื้อคันไหนดี

 

แม้รายใหญ่จะแข่งกันอย่างสนุกอยู่สองค่ายทั้ง Isuzu และ Toyota ส่วนในกระบะทางเลือกรองลงมาอย่าง Mitsubishi และ Ford ก็แข่งกันสนุกไม่น้อยเช่นกัน สำหรับกระบะรุ่นยกสูงสายลุยขับสี่ ที่ฝ่ายหนึ่งเสริมแต่งความหล่อ พร้อมเส้นสายอัตลักษณ์ตัวตนของรุ่นอย่าง Mitsubishi Triton Athlete ที่เพิ่งเปิดตัวมาช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายนับวันยิ่งเป็นยอมรับจากผู้ใช้ ภายใต้นิยามคำว่าเกิดมาแกร่งอย่าง Ranger Wildtrak และการเปรียบเทียบในครั้งนี้ Chobrod จะนำตัวลุยเกรดสุด รุ่นราคาสูงสุดของแต่ละรุ่นมาทำการเทียบให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่าทั้งสองค่ายให้อะไรมาบ้าง และควรจะซื้อคันไหนดี  

1.เปิดราคา Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

ราคาตัวขับสี่แพงสุดของทั้งสองรุ่นมีดังต่อไปนี้

  • Mitsubishi Triton Athlete Double Cab 2.4 MIVEC 4×4 A/T 1,111,000 บาท
  • Ford Ranger Wildtrak Double Cab 3.2L VG Turbo 4X4 6AT ราคา 1,189,000 บาท

ซื้อคันไหนดี ? ราคานี้ที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร ในเรื่องฟังก์ชั่นหลักพอๆ กันทั้งเป็นแบบ 4 ประตู และขับเคลื่อนสี่ล้อ แม้ที่ขนาดเครื่องยนต์จะต่างกันพอสมควรซึ่งต้องไปดูที่รายละเอียด แต่หลักๆ กับรถสี่ประตู-ขับสี่ที่ราคาเกินล้านนิดๆ เทียบสำหรับสองรุ่นนี้ Mitsubishi Triton Athlete ตัวเลขทำออกมาได้น่าสนใจสุดๆ ยกนี้จึงต้องให้กับ Mitsubishi Triton Athlete เป็นฝ่ายเข้าวินไปก่อน


 

สายลุยทั้งคู่ สมบุกสมบัน เส้นทางยากแค่ไหนก็ไม่หวั่น

สายลุยทั้งคู่ สมบุกสมบัน เส้นทางยากแค่ไหนก็ไม่หวั่น

2.ภายนอก Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

Mitsubishi Triton Athlete

ก่อนปรับโฉมและเพิ่มเติมด้วยคำว่า Athlete, Mitsubishi Triton เป็นที่บ่นว่าของสาวกหรือแฟนๆ กระบะของค่ายนี้กันอยู่ไม่น้อยในเรื่องของหน้าตา ซึ่งน่าประหลาดใจอยู่พอสมควรสำหรับ Mitsubishi Triton Athlete ที่เรื่องดีไซน์ รูปทรง กระจังหน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปมากสักเท่าไร เป็นเพียงแค่การเพิ่มเติมชุดตกแต่ง และในเรื่องของการใช้สีบวกกับสติกเกอร์คาดรถเข้ามาทำให้ตัวรถดุดันยิ่งขึ้น แน่นอนว่าการใช้สีดำเพื่อตกแต่งจะช่วยทำให้รถดูดุดันขึ้นเป็นกองทั้งส่วนของกระจังหน้าช่องลมลาย Honeycomb ที่จะมาพร้อมกับขอบกันชนด้านบนสีดำลากยาวไปแตะขอบไฟหน้า Projector แบบ HID พร้อมเลนส์ไฟ LED Daylight กระจกมองข้าง ที่เปิดประตูรถ และซุ้มล้อตกแต่งด้วยสีดำเงาทั้งหมด ที่หลังกระบะเสริมความหล่อด้วยสปอร์ตบาร์ยาว ไลนเนอร์พื้นปูกระบะมีมาให้พร้อม และสปอยเลอร์หลังดีไซน์เฉียบ ลงตัวกับล้อสีดำขนาด 17 นิ้วพร้อมยางไซส์ 245/65 R17 และสุดท้ายสื่อความเป็นรุ่นพิเศษด้วยสติกเกอร์ Athlete ส้ม-ดำ คาดยาวรอบคัน

 


 


 

Mitsubishi Triton ดูดีขึ้นเป็นกองเมื่อมาในคราบ Athlete

Mitsubishi Triton ดูดีขึ้นเป็นกองเมื่อมาในคราบ Athlete

Ford Ranger Wildtrak

ส่วนทางด้าน Wildtrak กับวิญญาณความเป็นกระบะอเมริกันสไตล์คือจุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ ที่แม้จะอัพเดทหน้าตามาได้สักระยะแล้วก็ตามตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ยังโดนใจ ดูไม่เบื่อที่รูปร่างขนาดใหญ่โตนั่นคือเหตุผลหนึ่งที่โดนใจคนไทย รวมไปถึงยอดขายที่เติบโตขึ้นตลอด ไฟหน้าทรงเดียวกับ PPV ตัวเด่นของค่ายอย่าง Everest แบบโปรเจกเตอร์พร้อมกระจังหน้าหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูดำด้านขนาดใหญ่ที่ใช้สีเทาเข้ม Gun Metalic ตกแต่งให้กินพื้นที่ลงไปถึงส่วนของกันชน อุปกรณ์แต่งทั้งสปอร์ตบาร์ ราวเสริมขอบกระบะท้าย กระจกข้าง และมือเปิดประตูตกแต่งด้วยสีเทาเข้มด้วยเช่นกัน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้วมาในแบบ 6 ก้านคู่แฉกปัดเงามาเป็นสี Gun Metalic รัดด้วยยางขนาด 265/60 R18


 


 

Ford Ranger Wildtrak ปรับโฉมมาสักระยะ แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในแบบขับสี่

Ford Ranger Wildtrak ปรับโฉมมาสักระยะ แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในแบบขับสี่

เทียบมิติตัวถังของ Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

  • ความยาวตัวถัง (mm.) ::   Triton Athlete(5,280), Ranger Wildtrak(5,360)
  • ความกว้างตัวถัง (mm.) ::  Triton Athlete(1,815), Ranger Wildtrak(1,860)
  • ความสูงตัวถัง (mm.) :: Triton Athlete(1,780), Ranger Wildtrak(1,815)
  • ระยะฐานล้อ (mm.) :: Triton Athlete(3,000), Mirage (3,220)

มองที่มิติตัวรถ ความโดดเด่นที่ขนาดตัวถังทำให้ Ranger Wildtrak ได้เปรียบในเรื่องของภายนอก ทุกมุมมองยาวกว้างสูง รวมถึงฐานล้อมีขนาดมากกว่า Triton Athlete แทบทั้งสิ้น แต่เดี๋ยวก่อน! ทาง Triton Athlete ก็มีดีในเรื่องการตกแต่งที่เร้าใจ และสดใหม่กว่า แม้จะมาในอุปกรณ์ และการตกแต่งที่ใกล้เคียงกัน แต่ผลที่ออกมาให้อารมณ์ต่างออกไปในแต่ละรุ่น คันหนึ่งสปอร์ตเร้าใจคือ Triton Athlete ส่วนอีกคันดุดัน น่าเกรงขามคือ Ranger Wildtrak ตัดใจไม่ขาดจริงๆ พูดได้ว่าสวยทั้งสองรุ่น ในยกนี้จึงให้คะแนนเสมอกัน

3.ภายใน Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

Mitsubishi Triton Athlete

เด่นที่สุดที่เห็นได้ตั้งแต่เปิดประตูคือเบาะนั่งกึ่งหนังสีดำ-ส้ม เดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม สื่อถึงความสปอร์ตแบบเต็มขั้นแถมยังปรับไฟฟ้าได้ที่ฝั่งคนขับ พร้อมอ๊อพชั่นความบันเทิงมากมาย ทั้งเครื่องเล่น DVD/MP3/Bluetooth และระบบนำทางหน้าจอสัมผัส ช่องต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และ Apple Car Play พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสี่ก้านพร้อม Paddle Shift เพิ่มความสนุกให้กับการขับขี่ได้มากกว่า หัวเกียร์ และแผงประตูตกแต่งด้วยด้ายตะเข็บส้มเข้ากับภายในยิ่งขึ้น สบายยิ่งกว่ากับระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone มาตรวัดใหม่แบบเรืองแสง และระบบล็อคประตูอัตโนมัติ ผสมผสานการใช้ชิ้นส่วนตกแต่งที่ดูดีจากวัสดุเปียโนแบล็คที่คอนโซลกลาง และแผงสวิตซ์ควบคุมหน้าต่าง


 

ภายในเฉียบ จี๊ดจ๊าดกับสีเบาะในสไตล์ Athlete

ภายในเฉียบ จี๊ดจ๊าดกับสีเบาะในสไตล์ Athlete

รายละเอียดของภายในที่น่าสนใจของ Mitsubishi Triton Athlete

  • เบาะปรับไฟฟ้าที่ฝั่งคนขับ
  • กุญแจ Keyless
  • ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift
  • Cruise Control
  • Apple CarPlay และระบบนำทาง
  • ลำโพง 6 ตัว

Ford Ranger Wildtrak

ความลงตัวที่ภายนอกกับการไมเนอร์เชนจ์ครั้งล่าสุดที่ปรับภายในใหม่ยกชุดมาจาก Everest พร้อมกับตกแต่งด้วยลายเดินด้ายสีส้มอมน้ำตาล ชัดเจนถึงความเรียบหรูได้ดีสำหรับรถกระบะ การตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตัดกับสีเงินของแผงแดชบอร์ด และสีส้มอมน้ำตาลของเบาะ แม้อาจไม่ค่อยเร้าใจ แต่ให้ความรู้สึกดูแพงแต่ไม่ทิ้งความสมบุกสมบัน เด่นด้วยเบาะหนังกึ่งผ้า เดินด้วยด้ายสีส้มอ่อนๆ ปักตัวหนังสือ Wildtrak จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว คุณสมบัติครบครันจากระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™2 ช่วยให้สามารถสั่งการทำงานต่างๆ ไปด้วยในขณะขับขี่ ที่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยและละสายตาจากถนน

เรียบหรู แต่ดูสมบุกสมบัน ลงตัวของภายใน Ranger Wildtrak

เรียบหรู แต่ดูสมบุกสมบัน ลงตัวของภายใน Ranger Wildtrak

รายละเอียดภายในที่น่าสนใจของ Ford Ranger Wildtrak

  • ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พร้อมโหมดเปลี่ยนสีได้ 7 โทนสี
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
  • เบาะปรับไฟฟ้าที่ฝั่งคนขับ(เฉพาะรุ่น 3.2L)
  • คอนโซลทำความเย็น
  • ระบบ SYNC™2
  • หน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
  • ช่องต่อ USB 2 ช่อง (ไม่มีช่องต่อ AUX )
  • ลำโพง 6 ตัว
  • ระบบกุญแจ My Key

Ford Ranger Wildtrak ค่าตัวแพงกว่าในเรื่องอ๊อพชั่นที่ภายในก็ให้มาเหลื่อมกว่า ดีกว่านิดหน่อย แต่ยังไม่เด่นจนชัดเจนที่สุด อุปกรณ์พื้นฐานในความสะดวสบาย และความบันเทิง ก็ดูดีด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีเจ้าให้ที่ให้ของเล่นล้ำสมัยกว่ามากนัก ยกเว้นแต่ Mitsubishi Triton Athlete ที่มีลูกเล่นที่น่าสนใจในการเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift ที่ทางด้าน Ranger Wildtrak ไม่มีมา นอกนั้นก็พอๆ กันที่ภายในรวมถึงเรื่องดีไซน์ของภายในก็สวยด้วยกันทั้งคู่ แล้วแต่คนชอบ ซึ่งถ้าดูที่ตัวเลขราคากับอุปกรณ์ที่ให้พอๆ กันแล้ว ยกนี้คงต้องมองไปที่ Triton Athlete เป็นฝ่ายชนะ

4. เครื่องยนต์ของ Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

Mitsubishi Triton Athlete

ขุมกำลังของ Triton Athlete มากับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส 4N15 เครื่องยนต์ Mivec Clean Diesel ขนาด 2.4L ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 430 Nm ที่ 2,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ 5 Speed พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II แบบเดียวที่อยู่ใน Pajero Sport และระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-lock เปลี่ยนจากขับเคลื่อน 2 ล้อเป็น 4 ล้อแบบ Full-time All Wheel Control ได้เมื่อถนนลื่นหรือเมื่อต้องการลุยกับเส้นทางแบบออฟโรดทันทีที่ต้องการก็ทำได้ด้วยระบบไฟฟ้า

 

เครื่องยนต์แรงม้าพอใช้ได้ ไม่ขี้เหร่ที่ 180 ตัวใน Triton Athlete

เครื่องยนต์แรงม้าพอใช้ได้ ไม่ขี้เหร่ที่ 180 ตัวใน Triton Athlete

Ford Ranger Wildtrak

เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของกระบะเมืองไทย ที่ก่อนหน้าของการมาใน Ranger Raptor ถือเป็นหนึ่งหนึ่งเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากกับเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค 5 สูบ VG Turbo ขนาด 3.2L รีดกำลังม้าสูงสุดออกมาได้กว่า 200 แรงม้า และแรงบิด 470 Nm ขับเคลื่อนสี่ล้อ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามรูปแบบของเส้นทางทั้ง 2H-4H-4L

 

เครื่องยนต์ 5 สูบที่เคยทรงพลังที่สุดกับม้า 200 ตัวใน Ranger Wildtrak

เครื่องยนต์ 5 สูบที่เคยทรงพลังที่สุดกับม้า 200 ตัวใน Ranger Wildtrak

กับเงินที่จ่ายแพงกว่าถึง 8 หมื่นใน Ranger Wildtrak สิ่งที่จะได้รับในเรื่องเครื่องยนต์ที่แรงม้าให้มากกว่าเกือบ 20 ตัวพร้อมด้วยแรงบิดที่มากกว่า 40 Nm จากพลังเทอร์โบ ซึ่งถือว่ามากกว่า Mitsubishi Triton Athlete อยู่ไม่น้อยกับเครื่องยนต์ 3.2L ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วในตลาดกระบะเมืองไทย และถ้าเมื่อจะเลือกเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อแล้วทั้งทีก็ให้สุดไปเลยกับเครื่องยนต์ใหญ่ๆ ยกนี้ไม่รีรอเลยที่จะบอกว่าเลือก Ford Ranger Wildtrak เป็นฝ่ายเข้าวิน สุดกว่า!

5. ระบบความปลอดภัย Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

Mitsubishi Triton Athlete

ขีดสุดแห่งความปลอดภัย Mitsubishi จัดหนักจัดเต็มมาให้แบบครบๆ ทั้งป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และในระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ ในเรื่องของจำนวนถุงลมคือจุดเด่นสำคัญของ Triton Athlete ที่จะมีมาพร้อมกับม่านถุงลมด้วย พร้อมระบบช่วยเหลือในการขับขี่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ มากมายที่รถยุคนี้ในตัวท็อป ต้องมี! ซึ่งระบบความปลอดภัยของ Triton Athlete ที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคันที่คู่หน้า หัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย
  • คานเหล็กนิรภัยที่ประตูทั้ง 4 บาน
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • Cruise Control
  • ระบบเบรก ABS
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก Brake Override System
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD  
  • ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันล้อหมุนฟรี ASTC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS

 ถุงลมให้มาเยอะ! ถึง 7 ใบ มั่นใจได้มากขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ถุงลมให้มาเยอะ! ถึง 7 ใบ มั่นใจได้มากขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

Ford Ranger Wildtrak

อีกหนึ่งจุดเด่นกับระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เมื่อ Ford จัดให้ไว้เหนือกว่า ด้วยการทำงานของกล้อง และเรดาห์จะคอยช่วยเตือนผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System), ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist) เป็นอาทิ ล้วนแต่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงเหนือกว่าหลายๆ รุ่นที่แม้เป็นรถเก๋ง หลายๆ รุ่นก็ยังไม่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยเหล่านี้ แต่ Ford จัดมาให้เช่นเดียวกับที่มีอยู่ใน Everest ซึ่งระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจใน Ford Ranger Wildtrak มีดังต่อไปนี้

  • ถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม
  • Adaptive Cruise Control
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะหางอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)  
  • ระบบเตือนการชนดานหนา Forward Collision Warning System
  • ระบบชวยควบคุมรถใหอยูในชองทาง Lane Keeping Assist
  • ระบบเปด-ปดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beam Control
  • ระบบชวยเตือนอาการเหนื่อยลาขณะขับขี่ Driver Alert System
  • สัญญาณเตือนระยะจอดดานหนา Front Parking Sensor
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง Rear Parking Sensors
  • ระบบเบรก ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist System (HSA)
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

ระบบเตือนการชนดานหนา Forward Collision Warning System ลดหนักเป็นเบาได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ระบบเตือนการชนดานหนา Forward Collision Warning System ลดหนักเป็นเบาได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ

อัดแน่นและจัดเต็มกว่าสำหรับ Ranger Wildtrak ที่ไม่ได้แค่มากับความปลอดภัยมาตรฐานธรรมดา แต่มากับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่สำหรับรถยุคหน้า เด่นที่สุดคงเถียงไม่ได้สำหรับการนำกล้อง และเรดาห์เข้ามาช่วยในการทำงาน ช่วยตรวจจับความผิดปกติของตัวรถ เพื่อป้องกันหรืออย่างน้อยก็ช่วยลดความรุนแรงเมืองเกิดอุบัติเหตุได้ รวมไปถึงเรื่องการตรวจจับความผิดปกติของผู้ขับขี่ เตือนเมื่อรถเริ่มออกนอกช่องทางซึ่งเสี่ยงทำให้เกิดการเฉี่ยวชนได้ ประโยชน์มากมายแบบนี้ ยกของความปลอดภัยของมวยคู่นี้คงต้องเป็นของ Ford Ranger Wildtrak อย่างไม่ต้องสงสัย

6. สรุปแล้วเลือกคันไหนดี? Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak

เทียบเรื่องอุปกรณ์ที่ให้มา พื้นฐานดีทั้งคู่ Triton Athlete กับราคา 1,111,000 บาทนี้ที่เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดที่เป็นกระบะขับสี่เกียร์ออโต้สี่ประตูด้วยกันหมดทั้ง Toyota ก็ยังมีราคาสูงกว่า กับรุ่น Toyota Revo Rocco 4X4 2.8G AT 1,154,500 บาท กับ Isuzu ในรุ่น V-Cross 3.0 Ddi MAX 4×4 (Z-Prestige) AT ที่ราคา 1,099,000 บาท ซึ่งจะเห็นว่า Triton Athlete ราคาอยู่ระหว่างกลางของสองรุ่นนี้ ทางเลือกอื่นๆ สำหรับใครที่คำว่ารถตลาดไม่ได้จำเป็นสำหรับเงื่อนไขการตัดสินใจซื้อ แต่ยังอยู่ในงบใกล้เคียง ห่างกันไม่มาก Triton Athlete ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ได้แย่เลย

 

ถ้าเน้นสปอร์ต ชอบดีไซน์ เลือก Triton Athlete ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่

ถ้าเน้นสปอร์ต ชอบดีไซน์ เลือก Triton Athlete ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่

และสำหรับสายลุยแบบจริงจังหรือแม้แค่เอาลุค วิ่งเข้าป่าก็พร้อมหรือขับในเมืองก็ดูเท่ ให้เลือกระหว่างสองคันนี้ ทั้งในแง่เครื่องยนต์ ภายนอก ภายใน และความปลอดภัย เห็นได้ชัดว่ากับงบที่แพงกว่า 78,000 บาท ของ Ranger Wildtrak คุ้ม! ถ้าจะยอมจ่ายไปกับสิ่งที่ได้มากกว่าสำหรับ Ranger Wildtrak ไม่เอาเรื่องดีไซน์แต่ถ้าใครชอบรถใหญ่ๆ น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกจริตที่สุด แม้ภายนอกภายในจะให้มาไม่ต่างกันมากจนเกินไป แต่แค่ระบบความปลอดภัยที่มีการใช้กล้อง และเรดาห์เข้ามาช่วย ถึงจะมองว่าไม่ค่อยได้ใช้สำหรับบางคน แต่ถ้ามีระบบเหล่านี้ติดรถ และได้ใช้ขึ้นมา ยังไงซะก็คุ้มค่า แม้เพียงครั้งที่ระบบความปลอดภัยเหล่านี้ได้ทำงาน เช่น ระบบเตือนก่อนการชนก็อาจจะช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้เบรกทันจนไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือจากที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นสาหัส ก็บรรเทาลงได้เป็นบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย คือยังไงโดยรวมแล้วมันดี! ที่รถปกติจะกลายมาเป็นเพื่อร่วมทางคู่ไปกับผู้ขับขี่ การลงทุนกับความปลอดภัยได้ระดับนี้ถือว่าคุ้มค่าน่าคบหา

 

จะซื้อรถขับสี่แบบออฟโรดทั้งจัดไปให้สุดทั้งเครื่องยนต์ และความปลอดภัยไปเลยกับ Ranger Wildtrak

จะซื้อรถขับสี่แบบออฟโรดทั้งจัดไปให้สุดทั้งเครื่องยนต์ และความปลอดภัยไปเลยกับ Ranger Wildtrak

แล้วไหนจะแรงม้าพละกำลังที่มีมาให้มากกว่าถึง 20 ตัวซึ่งได้ใช้ทุกครั้งที่บิดสตาร์ทรถอย่างแน่นอน เร่งเร้าใจ ทันใจทุกครั้งที่กระทืบคันเร่ง แม้เส้นทางจะเรียบสนิทหรือทุรกันดารยังไงก็ทันใจกว่า สรุปรวมแล้วระหว่างสองคันนี้ Mitsubishi Triton Athlete กับ Ford Ranger Wildtrak จากคะแนนรวมทุกมุมมอง เชียร์ให้ยอมจ่ายแพงกว่าอีกสักหน่อย รับรองว่าคุ้มค่าที่สุดแน่นอน

แล้วคุณละเมื่อเห็นข้อดีข้อเสียของสองรุ่นนี้แล้ว คันไหนคือคันที่ใช่สำหรับคุณจะเป็น Mitsubishi Triton Athlete ตัวลุยแนวสปอร์ต ที่มาพร้อมกับความสดใหม่ หรือว่าเป็นกระบะที่เริ่มจะขึ้นชื่ออีกหนึ่งรุ่นอย่าง Ford Ranger Wildtrak คุณเลือกรุ่นไหน และเพราะอะไรบอกกับเรา Chobrod ไว้สักหน่อยใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย