Mitsubishi Mirage VS Nissan March เลือกคันไหนคุ้มค่ากว่ากัน
ถ้าหากจะพูดถึงรถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง Eco Car ที่เป็นสิ่งที่ถูกใจชาวไทยหลายคน นอกจากจะมีความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ แล้วนอกจากนี้ราคาของตัวรถนั้นถือว่ามีราคาที่ถูกเมื่อเทียบเท่ากับ Compact Car อยู่หลายแสน ทำให้เป็นรถยนต์ Segment ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีงบน้อยอยากได้รถยนต์ใหม่ป้ายแดงอีกด้วย นอกจากนี้ส่วนใหญ่ Eco car นั้นจะมีเครื่องยนต์ความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร และมีขนาดตัวรถที่เล็ก น้ำหนักเบา เพื่อทำให้การตอบสนองของคันเร่งนั้นดียิ่งขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจะขอนำรถยนต์ Eco Car จาก 2 ค่ายใหญ่จากแดนปลาดิบนั่นก็คือ Nissan March (2010-2016) และ Mitsubishi Mirage (2013-2016) มาดูกันดีกว่าครับว่ารุ่นไหนจะน่าใช้
รถยนต์ Mitsubishi Mirage ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ทั้งหมด
รถยนต์ Nissan March ที่ได้รับความนิยมจากตลาดรถ
ถ้าว่ากันด้วยรูปทรงภายนอกแล้วทางด้าน Mitsubishi Mirage นั้นจะดูมีความสปอร์ตมากกว่านะครับ ด้วยไฟหน้าที่มีรูปทรงโฉบเฉียบ และเส้นสายรอบตัวรถที่มีความเหลี่ยมมากกว่า ส่วนทางด้านของ Nissan March นั้นจะมีรูปทรงที่มนกลมนั้นทำให้ดูมีความน่ารักสวยงามเหมาะกับสาว ๆ นอกจากนี้ทั้งคู่นั้นมีโมเดลที่ออกมาเกินกว่า 5 ปีแล้วด้วย ถือว่าก็เริ่มมีอายุอานามพอตัวทั้งคู่นั่นเอง
ภายใน Nissan March มีความกว้างขวางอย่างเห็นได้ชัด
ภายใน Mitsubishi Mirage มีความโฉบเฉียบดูสปอร์ต
ในส่วนของภายในนั้นผมว่าแอบกินกันไม่ลงนะครับด้วยขนาดของรถที่เป็น Eco Car 5 ประตูทั้งคู่จึงทำให้ห้องโดยสารนั้นอาจจะไม่ได้ดูใหญ่มาก แต่ความรู้ของ Nissan March นั้นจะมีความรู้สึกโปร่งมากกว่าเพราะตัวรถที่มีความโค้งมน ทำให้มิติของห้องโดยสารนั้นดูกว้างกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้เบาะหลังของ Nissan March นั้นทำมาค่อนข้างได้ ช่วงที่วางเท้าระหว่างเบาะนั้นเห็นว่าจะมีพื้นที่เยอะกว่า ไม่ดูอึดอันนั่นเอง ในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนั้นทาง Mitsubishi Mirage นั้นทำออกมาได้ดี เช่นเครื่องเล่นวิทยุนั้นสามารถรองรับการควบคุ้มจากปุ่มบนพวงมาลัยได้ นอกจากนี้รุ่น Top GLS. Ltd จัดการใส่จอแบบ Touch Screen ไว้ให้จากโรงงานอีกด้วย นอกจากนี้รางเกียร์ ยังเป็นแบบขั้นบันไดดูแล้วน่าขับขี่มากกว่า
เครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบ 1.2 ลิตร ของ
เครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบแถวเรียง DOHC Nissan March รถยนต์อีโคคาร์ เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ลดแรงเสียดทาน ให้อัตราเร่งดี พร้อมแรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยกว่า ระบบเกียร์ XTRONIC CVT เทคโนโลยีอันชาญฉลาดในนิสสัน มาร์ช ที่คิดค้นเพื่อความนุ่มนวลยามขับเคลื่อนโดยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ มีรูปแบบการเปลี่ยนเกียร์มากมาย ตอบสนองการขับขี่ได้ทุกรูปแบบ
เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ
เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่ำนาที ท่อไอดีออกแบบใหม่เพื่อให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์เร็วขึ้น ระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovation Value timing Electronic Control system) ช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้ทุกรอบความเร็วของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuously Variable Transmission) ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ช่วยรักษารอบเครื่องไว้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองทุกอัตราเร่งและประหยัดน้ำมัน ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS III (Intelligent & Innovative Vehicle Electronic System III) นุ่มนวล แม่นยำ วิเคราะห์ลักษณะนิสัยการขับขี่ของผู้ขับแต่ละคน เพื่อนำไปประมวลผลในการเปลี่ยนเกียร์
สรุปทางด้านเครื่องยนต์ของทั้งคู่มีความคล้ายกันโดยจะเป็นความจุ 1.2 ลิตร 3 สูบ แต่ทางด้าน Mitsubishi Mirage นั้นจะให้การประหยัดน้ำมันมากกว่าเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ระบบ MIVEC ที่จะช่วยตอบสนองในการขับขี่อีกด้วย สำหรับระบบส่งกำลังถ้าพูดถึงเรื่องเกียร์อัตโนมัติ นั้นเป็น CVT ทั้งคู่ พร้อมทั้งมีลูกเล่นเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของค่ายใส่ลงไปอีกด้วย INVECS III นั้นจะมีจุดเด่นที่การประมวลผลและวิเคราะนิสัยของผู้ขับ ส่วน XTRONIC CVT ของทางฝั่ง Nissan March จะช่วยให้การขับมีความนุ่มนวลและตอบสนองได้ดีกว่าเล็กน้อยนอกจากนี้ยังมีขับสนุกกว่าอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม
>> รีวิว Mitsubishi Mirage 2018
>> รีวิว Nissan March 2017
ถุงลม SRS คู่หน้า มีทุกรุ่นใน Nissan March
ถุงลม SRS คู่หน้า ทุกรุ่น Nissan March ปกป้องวินาทีไม่คาดคิด ด้วยถุงลม SRS คู่หน้าใน Nissan March ที่จะพองตัวอัตโนมัติ ดูดซับแรงปะทะจากด้านหน้า ลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
ระบบ ABS / EBD / BA
ระบบเบรกในนิสสัน มาร์ช ป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-Long Braking System)ช่วยให้คุณควบคุมทิศทางรถหรือหักหลบสิ่งกีดขวางได้ในสถานการณ์คับขัน ระบบควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์
– EBD (Electronic Brake-force Distribution)รักษาสมดุลของรถเมื่อเบรกกระทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก
– BA (Brake Assist)เสริมแรงเบรกที่ล้อ ลดระยะเบรกให้สั้นลง 10-15%
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM
– ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) เป็นระบบเสริมความปลอดภัย โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้า หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรง และรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน *(เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) เป็นระบบเสริมความปลอดภัย โดยระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยง ที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว *(เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS)
– DUAL SRS AIRBAGS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– 2-WAY PRETENSIONER WITH FORCE LIMITER FRONT SEATBELTS (DRIVER SIDE) เข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ แบบ 2 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS)
– RISE BODY (REINFORCED IMPACT SAFETY EVOLUTION)1 โครงสร้างตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า ที่ใช่้เหล็กแรงดึงสูง (HIGH TENSILE STEEL) ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
– ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM (ABS)2 ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก จะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ช่วยให้คุณหักหลบสิ่งกีดขวางในขณะเหยียบเบรกได้อย่างทันท่วงที
– ELECTRONIC BRAKE FORCE DISTRIBUTION (EBD) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงานประสานกับระบบเบรก ABS เพื่อให้เกิดการกระจายแรงเบรกอย่างเหมาะสมทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง
– BRAKE ASSIST (BA) ระบบเสริมแรงเบรก จะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว
– ACTIVE STABILITY CONTROL (ASC) 2 ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อช่วยควบคุมกรณีที่เกิดการลื่นไถลออกนอกเส้นทางเช่น กรณีหลุดโค้งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน
– HILL START ASSIST (HSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยป้องกันรถไหล เมื่อต้องออกตัว
รีวิว Nissan March
รถยนต์ Nissan March
รถยนต์ Mitsubishi Mirage ดีไซน์ภายในสปอร์ตทูโทน
Mitsubishi Mirage ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.8 กม./ลิตร
สรุป
ทางด้าน Mitsubishi Mirage นั้นมีราคาที่สูงกว่าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และ รุ่นท็อป แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือระบบความปลอดภัยนั้นค่อนข้างที่ให้มาอย่างเต็มที่ รถที่ Segment สูงกว่าบางค่ายยังต้องกลัวเลย นะครับ สำหรับความคุ้มค่าและรูปทรงที่ดูสวยงามกว่า ผมเชียร์ Mitsubishi Mirage นะครับ ถือว่าทำมาออกมาได้ดีมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าอีกด้วย ซึ่งในราคาเทียบรุ่นแล้ว ห่างกันประมาณ 5 หมื่น แลกมาด้วยระบบความปลอดภัยในการขับขี่ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
ดูเพิ่มเติม
>>
รถมืสองไม่เกิน 5 แสน แนะนำ Segment ละหนึ่งรุ่น 2019
>>
ตลาดรถปี 2019 กับ 4 เทคโนโลยีที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้