Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018 เลือกคันไหนดีกว่ากัน !!

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 27 ก.ย 2561
แชร์ 3

สาวกรถ SUV พลาดไม่ได้กับรถทั้งสองรุ่นนี้ก็คือ Mazda CX-5 2018 กับ Honda CR-V 2018 ที่คราวนี้แต่ละรุ่นจะงัดไม้เด็ดอะไรออกฟาดฟันกัน และรุ่นได้จะน่าซื้อมากกว่ากัน ตาม Chobrod มาเลยค่าาา

เปรียบเทียบ Mazda CX-5 2018 vs Honda CRV 2018

เปรียบเทียบ Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018

ดีไซน์สวยงามโดดเด่น ให้ความรู้สึกสปอร์ตและแฝงไปด้วยความโฉบเฉี่ยว ถือว่าเป็นรถ SUV ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆเลยนะคะทั้งสองรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Mazda CX-5 2018 หรือ Honda CR-V 2018 แต่ในเมื่อต่างรุ่นต่างค่ายกัน ก็ต้องมีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ เราเลยจะมาเปรียบเทียบให้ทุกคนดูกันค่ะ

ภายนอกของ Mazda CX-5 2018

ภายนอกของ Mazda CX-5 2018

ภายนอกของ Mazda CX-5 2018

1.เปรียบเทียบภายนอก

Mazda CX-5 2018 ได้รับการออกแบบ KODO DESIGN ให้โดดเด่นเหนือระดับยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น (Japenese Aesthetic) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More”ผลลัพธ์ที่ได้ คือ รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่งดงามและทรงพลังราวกับมีชีวิต หรูหรา ปราดเปรียวในสไตล์พรีเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED, ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED พร้อมไฟท้ายแบบ LED Signature มิติตัวรถอยู่ที่ ยาว 4,550 x  กว้าง 1,840 x สูง 1,680 มม. มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี 1. สีแดง  2. สีเทา  3. สีขาว  4. สีเงิน  5. สีดำ  6. สีน้ำเงิน

ส่วนของอุปกรณ์การตกแต่งก็จะมี สเกิร์ตหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง คิ้วกันชนหน้า คิ้วกันชนหลัง คิ้วกันรอยกันชนหลัง ชุดคิ้วกันสาด ชุดรางสัมภาระบนหลังคา ชุดรางวางจักรยาน บังโคลนหน้า บังโคลนหลัง ไฟกระจังหน้าเรืองแสง

ภายนอกของ Honda CRV 2018

ภายนอกของ Honda CRV 2018

ภายนอกของ Honda CR-V 2018

Honda CR-V 2018 มาพร้อมดีไซน์ใหม่รอบคันที่ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแกร่งขึ้นในทุกมิติ โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED สะกดทุกสายตาขณะขับขี่ด้วย Daytime Running Light เสริมความแข็งแกร่งด้วยกระจังหน้าแบบพรีเมียมได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตใหม่ สะท้อนความลงตัวในทุกมิติ มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ได้แก่ 1. สีเขียว Dark Olive (Metalic) 2. สีดำ Crystal Black (Pearl) 3. สีเงิน Lunar Silver (Metalic) 4. สีเทาดำ Modern Steel (Metalic) 5. สีขาว White Orchid (Pearl)

ส่วนการตกแต่งก็จะเป็น กระจังหน้าและกันชนหน้าแบบสปอร์ต คิ้วกันสาด ไฟตัดหมอก แบบ LED คิ้วตกแต่งกระจกมองข้าง โครเมียม ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว บันไดข้าง  กันชนหลัง แบบสปอร์ต ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส คิ้วตกแต่งประตูหลัง โครเมียม คิ้วกันรอยกระแทกกันชนหลัง ชุดป้องกันรอยบริเวณที่เปิดประตู โครเมียม ชุดบรรทุกสัมภาระบนหลังคา ชุดเสริมหลังคาคู่

สรุปการเปรียบเทียบดีไซน์ภายนอก โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดีมากทั้งคู่ ทั้งการออกแบบรูปลักษณ์ที่สวยมากกกกก ย้ำว่ามากกก เห็นแล้วใจบางกระเปาสั่นกันเลยทีเดียว เพราะมันทั้งเท่ ทั้งสปอร์ต ดูดีมีระดับสุดๆ! แต่ข้อเด่นของ Mazda CX-5 ก็คือ มันมีดีไซน์ที่ปราดเปรียวกว่า มีสีให้เลือกหลากหลายกว่า ดูโฉบเฉี่ยวกว่าด้วยความที่คันเล็กกว่าจึงจะเป็นไปในทางนั้น ส่วน Honda CR-V 2018 ด้วยความที่คันใหญ่กว่าก็จะดูมีวิสัยทัศน์ที่สูง ให้ความรู้สึกหรูหราและ Luxury มากกว่า ใครที่ชอบรถคันใหญ่ๆคันนี้ก็ตอบโจทย์เลยค่าา ดีไซน์ไม่แพ้กันเลย เพราะทางฮอนด้าก็ออกแบบมาได้ดีมากๆเช่นกัน อาจจะ ติดนิดนึงตรงด้านท้ายถ้าใครชอบก็คือชอบไปเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ขึ้นอยู่ความรสนิยมส่วนบุคคลแลยค่ะ

ดูเพิ่มเติม
>> 
HR-V 2018 กับ Ford Ecosport 2018 ซื้อคันไหนคุ้มกว่า?
>> 2 รุ่น SUV ยอดนิยมในไทย กับยอดขาย 6 เดือนก่อน Mazda CX-5 และ Honda CR-V ปี 2018

ภายในของ Mazda CX-5 2018

ภายในของ Mazda CX-5 2018

2.เปรียบเทียบภายใน

Mazda CX-5 2018 ได้รับการออกแบบดุจงานศิลปะชั้นสูงอย่างประณีต ในทุกรายละเอียดด้วยแนวคิด “Hand-Crafted Design” คัดสรรวัสดุคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งความหรูหราสไตล์ยุโรป ให้ความประทับใจในทุกการสัมผัส คอนโซลหน้าแบบ Metal Wood ผสานความสปอร์ต ด้วยเบาะหนังสีดําแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ที่มอบความสุนทรีย์ และเติมจังหวะความสนุกให้ทุกการเดินทาง

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวก  พนักพิงเบาะหลัง ปรับเอนได้ และสามารถแยกพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 อิสระจากกัน เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตําแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ที่สามารถบันทึกได้ 2 ตําแหน่ง ช่อง USB 2.1 แอมป์ ช่องเก็บของ พร้อมที่วางแก้ว ถูกจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน และช่องแอร์สําหรับที่นั่งตอนหลังที่เพิ่มความสบายยิ่งขึ้น  เทคโนโลยีเชื่อมต่อโลกโซเชียล MZD CONNECT ไม่พลาดทุกการติดต่อทั้งเรื่องงาน และครอบครัวอัพเดทข้อมูลข่าวสารได้ตลอดการเดินทาง หรือรับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพพลิเคชั่น Aha by HARMANTM รวมถึงระบบนำทาง Navigator จอทัชสกรีนดีไซน์ใหม่ ขนาด 7 นิ้ว ปุ่มควบคุมระบบ MZD CONNECT ที่คอนโซลกลางตรงตําแหน่งใกล้มือผู้ขับ WINDSHIELD ACTIVE DRIVING DISPLAY แสดงข้อมูลสําคัญในการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HMI (Human – Machine Interface)  หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า พวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ตพรีเมี่ยม ลำโพง 10 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี AUDIOPILOTTM2 และ Centerpoint®2 ที่ช่วยชดเชย และปรับแต่งเสียงให้สมจริงมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold ประตูท้ายเปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เปิด-ปิดได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และรีโมทคอนโทรล

ภายในของ Honda CRV 2018

ภายในของ Honda CR-V 2018

Honda CR-V 2018 ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่กว้างสบายเหนือระดับ และเงียบยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง สะท้อนความหรูหราอีกขั้น กับแผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเส้นสายด้วยลายไม้ และวัสดุสี Piano Black ครบครันด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ที่จะเติมเต็มความสบายสูงสุดให้คุณอย่างเหนือใคร 7 Seats เบาะโดยสาร 7 ที่นั่งดีไซน์กว้างขวาง มอบความสะดวกสบายทุกอิริยาบถ การออกแบบแผงควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์ เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 ช่องเชื่อมต่อ USB พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone มอบความสุนทรีย์ให้ทุกเสียงเพลงด้วยลำโพง 8 ตำแหน่ง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ หน้าจอหลัก Apple CarPlay  รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI หน้าจอแสดงผลในโหมดเครื่องเสียง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT หน้าจอแสดงข้อมูลระบบนำทางแบบ Turn by Turn หน้าจอแสดงข้อมูลการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย หน้าจอแสดงข้อมูลในโหมดเครื่องเสียงผ่าน Bluetooth หน้าจอแสดงข้อมูลในโหมดเครื่องเสียง ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ 3 แบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนพนักพิงและ เลี่ยนหน้าหลังได้ เบาะนั่งแถวที่ 2 พับแยกแบบ 60:40 ที่วางของด้านท้ายแบบ 2 ชั้น เพิ่มพื้นที่วางของได้ตามต้องการ Hands Free  / Power Tailgate ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี พร้อมควบคุมการเปิด-ปิด ด้วยรีโมท Foldable Seats เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ที่รองรับ ผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ ตามที่ใจคุณ ทั้ง 7-Seat Mode, 5-Seat Mode, Utility Mode และ Long Mode

สรุปเปรียบเทียบภายใน ในเรื่องนี้เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงกันเลยค่ะ เพราะแต่ละรุ่นก็จัดหนัก จัดใหญ่ จัดเต็มมากเว่อร์!! ให้ความสะดวกสบายทุกอย่างมาครับครันภายในคันเดียว แทบจะให้รถเป็นบ้านหลังที่สองไว้พักพิงอาศัยกันได้ แต่สิ่งที่ Honda CR-V 2018 ได้เปรียบนั่นก็คือ เบาะนั่งที่มี 7 แถว เหมาะกับครอบครัวหลายๆคน  แต่ถ้าไม่ชอบแบบ7แถวก็ปรับเปลี่ยนให้เหลือ 5 เหลือ 2 เหลือ 1 เอาไว้บรรจุของได้เพราะมันคันใหญ่มาก! ใครที่อยากได้ความคุ้มค่าก็จะตอบโจทย์ตรงนี้ ส่วน Mazda CX-5 2018 แม้จะมีที่นั่งเพียงแค่ 5 แถวแต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเบาะเพื่อบรรจุของได้ ส่วนข้อเด่นนั่นก็คือรุ่นท็อปได้หลังคาซันรูฟ เหมาะกับคนที่ชอบความปลอดโปร่งและชอบดูบรรยากาศบนท้องฟ้านั่นเอง ส่วนอีกข้อหนึ่งคือแม้จะคันเล็กกว่าแต่ให้ลำโพงมามากถึง 10 ตำแหน่งรอบคัน ในขณะที่ฮอนด้าให้มาเพียง 8 ตำแหน่ง

เครื่องยนต์ Mazda CX-5 2018

เครื่องยนต์ Mazda CX-5 2018

3.เปรียบเทียบเครื่องยนต์

Mazda CX-5 2018 มาพร้อม SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS เทคโนโลยีสกายแอคทีฟได้ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกระดับ เพื่อสร้างความประทับใจ ทั้งเรื่องสมรรถนะที่แรง และการประหยัดน้ำมัน จนได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก ที่ผสานและควบคุมการทํางานของรถทั้งคัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง ไปจนถึงช่วงล่าง ให้ทํางานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba Ittai) ของมาสด้า ให้ผู้ขับและรถเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น และยังให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง

เครื่องยนต์ก็จะมี SKYACTIV-D 2.2 L เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล 2.2 ลิตร พัฒนาให้สามารถทํางานตอบสนองผู้ขับได้ดียิ่งขึ้น และทําให้เสียงเครื่องยนต์ทํางานเงียบมากขึ้น ให้กําลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม i-ACTIV AWD ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนนมากยิ่งขึ้น

SKYACTIV-G 2.0 L เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เบนซิน 2.0 ลิตร พัฒนาให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้ดีขึ้นให้กําลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตรประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม SKYACTIV-DRIVE – เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด รวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบ ตอบสนองได้แม่นยํา เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว SKYACTIV-BODY – โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ โครงสร้างตัวถังที่ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ให้การควบ

คุมรถที่มั่นคง ช่วยลดแรงสะเทือนจากถนน และกระจายแรงปะทะที่เข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ SKYACTIV-CHASSIS – ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ  ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ ระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคง และให้ความนุ่มนวลแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยํา ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน STAGE TURBOCHARGER เทอร์โบชาร์จเจอร์ แบบสองขั้น  ช่วยให้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลมีแรงบิดสูงแม้ในรอบต่ำเพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในทุกรอบความเร็วของเครื่องยนต์ NATURE SOUND SMOOTHER & NATURAL SOUND FREQUENCY CONTROL ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลในรอบเดินเบา ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานเงียบขึ้น

เครื่องยนต์ Honda CRV 2018

เครื่องยนต์ Honda CR-V 2018

Honda CR-V 2018 มาพร้อม 2 ขุมพลังขับเคลื่อนอัจฉริยะ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) ให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร* อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร* (*รุ่น DT E)

เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ ให้กำลังสูงถึง 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

สรุปเปรียบเทียบเครื่องยนต์ ทั้งคู่ให้ขุมพลังที่แรงมากแบบพอๆกัน ไม่มีใครเกินกว่าใครไปเยอะเท่าไหร่ มีความสูสีกันมากๆ แต่จะเห็นได้ว่าแรงบิดเกินกันหลักร้อยในบางเครื่องยนต์ แต่ถ้าหากว่ากันด้วยเครื่องแรงก็ขอยกให้ Mazda CX-5 2018 เพราะอัตราเร่งดีขับสนุกและแซงได้ดี ส่วนเรื่องของประหยัดน้ำมันก็ต้องยกให้ Honda CRV 2018 ที่รองรับ E85 รวมถึงให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าชอบประหยัดน้ำมันหรือเครื่องแรว๊งงงง!.

ดูเพิ่มเติม
>> 
Five Fact : มาสด้า CX-5 SUV หรูกับ 5 เรื่องที่จะทำให้คุณอาจตัดสินใจซื้อ !
>> ส่องครึ่งปีแรก 2018 SUV ในไทย แบรนด์ใหนขายดีที่สุดนะ ?

ความปลอดภัย Mazda CX-5 2018

ความปลอดภัย Mazda CX-5 2018

4.เปรียบเทียบความปลอดภัย

Mazda CX-5 2018  ไม่ว่าจะเป็น G – VECTORING CONTROL (GVC) เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV – VEHICLE DYNAMICS ระบบ GVE จะช่วยควบคุมความสมรรถนะในการขับขี่ ให้แม่นยำและสมดุล  Mazda Radar Cruise Control (MRCC) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ DAA (Driver Attention Alert) ระบบจะขึ้นสัญลักษณ์เตือนที่หน้าจอ Windshield Active Driving Displayระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่  ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Wrning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน LAS (Lane-keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบ การเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ  ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ACTIVE SAFETY – ความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ DSC (Dynamic Stability Control) – ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว  ESS (Emergency Signal System) – สัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลังทุกรุ่น ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย DSC: Dynamic Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ HLA: Hill Launch Assist ช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน TCS: Traction Control System ช่วยป้องกันรถลื่นไถล กระจกมองหลังระบบตัดแสงอัตโนมัติ ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบPretensioner and Load Limiter ลดโอกาสบาดเจ็บเมื่อเกิด อัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน เบาะนั่งด้านหลัง ออกแบบให้มีองศาที่รองรับน้ำหนักของคนนั่งได้ อย่างเหมาะสม ซึ่งป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารพุ่งออก จากเบาะนั่งไปทางด้านหน้า โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการชนที่ด้านหน้ารถ กันชนหน้าและกระโปรงหน้า ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้ถูกชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ความปลอดภัย Honda CRV 2018

ความปลอดภัย Honda CR-V 2018

Honda CR-V 2018 ครบคันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ สู่มาตรฐานใหม่แห่งความมั่นใจ ที่พร้อมเติมเต็มสมรรถนะของการขับขี่ให้เป็นไปอย่างราบรื่นในทุกเส้นทาง Driver Attention Monitor – ระบบจะตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย เมื่อพบว่าประสิทธิภาพในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ลดน้อยลง ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT และเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ระบบจะทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย Honda LaneWatch – ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Agile Handling Assist (AHA) – ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ระบบจะช่วยส่งแรงเบรกไปที่ล้อ โดยอัตโนมัติให้สัมพันธ์กับความเร็ว Walk Away Auto Lock – ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ Electric Parking Brake – ระบบเบรกมือไฟฟ้าใช้งานง่าย เพียงใช้นิ้วดึงสวิตช์ เมื่อต้องการใช้เบรกมือ Auto Brake Hold – ระบบ Brake Hold อัตโนมัติเมื่อกดปุ่มเปิดให้ระบบทำงาน ระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจาก เหยียบเบรก ให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถ เคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้  Hill Start Assist (HSA) – ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Vehicle Stability Assist (VSA) – ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง เพิ่มการยึดเกาะถนน มั่นใจทุกการขับเคลื่อน Emergency Stop Signal (ESS) – สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ISOFIX & Child Anchor – จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก Multi-angle Rearview Camera – กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน

สรุปเรื่องความปลอดภัย เรื่องนี้ทำได้ดีมากๆทั้งคู่ ให้ความปลอดภัยมาครบครันมากๆ ซื้อไปก็คุ้มค่าแล้วค่ะ  แต่ความโดดเด่นของ Mazda CX-5 2018  นั่นก็คือ ให้ความปอลดภัยที่เยอะมากกกกกก และยิบย่อยมากกว่า เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียดของเรื่องนี้ ใครที่ซื้อไปต้องศึกษาความปอลดภัยเยอะๆ จะได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและรู้วิธีในการขับขี่อย่างปลอดภัย เพราะมันดีมากก! ส่วน Honda CR-V 2018 ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกันน้าา เป็นมาตรฐานขอวรถทั่วไปเลย เพียงแต่พอเอามาเปรียบเทียบกัน ทางฝั่งมาสด้าจะให้มาเยอะกว่าแค่นั้นเองค่ะ

Mazda CX-5 2018

Mazda CX-5 2018

Honda CRV 2018

Honda CR-V 2018

5.เปรียบเทียบราคา

Mazda CX-5 2018 ราคาเริ่มต้น 1,290,000- 1,770,000 บาท

Honda CR-V 2018 ราคาเริ่มต้น 1,399,000- 1,699,000 บาท

สรุปเปรียบเทียบราคา จะเห็นได้ว่าราคาเริ่มต้นของ Mazda CX-5 จะมีราคาที่ถูกกว่าประมาณ หลักแสน ถ้าแลกมากับการที่คุณจะได้เบาะรถ 7 ที่นั่งของฝั่ง Honda CR-V คุณก็เพิ่มเงิน 1 แสนบาท แต่ราคาท็อปสุดฝั่งฮอนด้าจะถูกกว่าด้วย แต่มาสด้าจะเพียงขึ้นมาด้วยความที่รุ่นท็อปของมันได้หลังคาซันรูฟด้วย

เปรียบเทียบ Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018

เปรียบเทียบ Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018

เปรียบเทียบ Mazda CX-5 2018 vs Honda CR-V 2018

แล้วคุณล่ะคะ ฟังก์ชั่นไหนที่ตอบโจทย์ที่สุด?? ในราคาแบบนี้ ทั้ง Mazda CX-5 ที่จะได้ในเรื่องความปลอดภัยที่เยอะมาก! รูปลักษณ์ที่สปอร์ตปราดเปรียว เครื่องยนต์ที่แรง ขับสนุกดูเท่และโฉบเฉี่ยว กับ Honda CR-V ที่ซื้อไปแล้วจะได้เบาะที่นั่งเพิ่มขึ้นมาสำหรับครอบครัวใหญ่ คันที่ใหญ่ขึ้นบรรจุของได้เยอะ การประหยัดน้ำมัน เราก็เป็นแค่ตัวช่วยในการให้คุณตัดสินใจ ถ้าชอบแบบไหนก็อย่ารอเลยค่ะ ไปลองขับกันได้เลย! 

*** ดูเพิ่มเติมราคา Honda Crv มือสองที่มีขายในประเทศไทย

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่