[Infographic] ขอไฟแนนซ์รถมือสอง ต้องทำอย่างไร

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 20 ก.ค 2560
แชร์ 27

อีกทางในการที่จะช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถมือสองได้ง่ายขึ้นคือ ”การขอไฟแนนซ์” สิ้นเชื่อรถมือสองที่มีรองรับ ให้บริการอยู่มากมายหลายเจ้า วันนี้เราจะพาไปชมขั้นตอนการขอไฟแนนซ์สำหรับซื้อมือสองตั้งแต่แรก จนถึงได้รถมาขับกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

Infographic ขอไฟแนนซ์รถมือสอง
ขอไฟแนนซ์รถมือสอง ต้องทำอย่างไร


ถ้าคุณจะซื้อรถมือสองสักคันการขอสินเชื่อรถมือสองจะมาจากไฟแนนซ์ 2 ประเภท

1. ไฟแนนซ์ที่มีให้บริการจากเต้นท์รถ

ถ้ารถที่ซื้อเป็นรถที่ซื้อจากเต้นท์รถหรือผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว แต่ละเต้นท์จะมีไฟแนนซ์หรือสถาบันทางการเงินที่ทางเต้นท์ใช้บริการเป็นประจำ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อทางเต้นท์ก็จะช่วยดำเนินการประสานงานให้กับคุณ ไม่ว่าจะเรื่องเอกสารไปจนถึงการช่วยคุยให้กับไฟแนนซ์เพื่อให้การขอสินเชื่อของคุณได้อนุมัติ

2. ไฟแนนซ์รถบ้าน เจ้าของขายเอง

คือการซื้อรถโดยตรงจากเจ้าของรถหรือซื้อรถต่อจากคนรู้จัก ในกรณีนี้ถ้าหากผู้ซื้อจะทำการขอกู้ไฟแนนซ์ก็จะต้องติดต่อไฟแนนซ์ด้วยตัวเอง เพราะว่าผู้ขายอาจจะไม่มีไฟแนนซ์เจ้าประจำ

>>> [Infographic] คิดสักนิด...ก่อนจะซื้อรถ ?
>>> สินเชื่อรถแลกเงิน กับ 6 ทางเลือกก่อนตัดสินใจ


ไฟแนนซ์จากเต้นท์จะช่วยอำนวยความสะดวก
ไฟแนนซ์จากเต้นท์จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คุณมากกว่า
 
ดอกเบี้ยไฟแนนช์สิ่งสำคัญที่ต้องรู้

ข้อเสียหนึ่งของการซื้อรถมือสองที่อาจจะเป็นข้อเสียหลักเลยก็คือเรื่อง “ดอกเบี้ย” ที่แตกต่าง มีอัตราสูงกว่าพวกรถป้ายแดง ปัจจัยที่มีผลทำให้การคิดดอกเบี้ยของรถมือสอง แต่ละกรณีมีแตกต่างกันได้แก่

1. ประเภทรถ

ประเภท รถเก๋ง Sedan, รถกระบะ, รถตู้ , รถ SUV และขนาดเครื่องยนต์ส่งผลให้ดอกเบี้ยแตกต่างกันด้วย

2. ปีจดทะเบียนรถ

เมื่อรถการใช้งานมาก ออกมาหลายปี ย่อมมีค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงเพราะตัวรถไม่เหลือค่าเสื่อมราคาเหลือเป็นราคาซากลดลงไปทุกวันๆ  เป็นสาเหตุให้อัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อลดความเสี่ยงของทางไฟแนนซ์เอง รถยิ่งปีเก่าอัตราดอกเบี้ยเมื่อขอสินเชื่อก็จะแพงกว่ารถที่ปีใหม่กว่า

3. จำนวนปีที่จัดไฟแนนซ์

พยายามเลือกระยะเวลาในการขอสินเชื่อที่น้อยปีที่สุด เพราะถ้าระยะยิ่งมากอัตราดอกเบี้ยยิ่งสูง ยิ่งในปัจจุบัน ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะให้ระยะเวลาในการผ่อนมากสุดที่ 4 ปีเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของไฟแนนซ์เอง

ปีรถที่เก่ากว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดอกเบี้ยสูง
ปีรถที่เก่ากว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดอกเบี้ยสูง

นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลต่อยอดจัดของสินเชื่อที่คุณขอไปอีกด้วย ยกตัวอย่างถ้าคุณทำเรื่องขอสินเชื่อในยอด 300,000 บาท ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลทำให้คุณไม่ได้รับอนุมัติวงเงินเต็ม 300,000 บาทอาจจะอนุมัติแค่ 80%-90% ของยอดสามแสน เราไปดูปัจจัยเหล่านั้นกันว่ามีอะไรบ้าง  
 
1. เงื่อนไขการประเมินราคากลางของรุ่นรถแต่ละรุ่นของแต่ละสถาบัน

ไฟแนนซ์จะมีราคากลางของรถแต่ละปี แต่ละรุ่น แสดงออกมาเป็นตารางราคา ไฟแนนซ์ใช้ราคานั้นๆ มาเป็นหลักในการเปรียบเทียบเพื่อประเมินยอดจัดโดยจะต้องดูสภาพรถยนต์มือสองที่ผู้ขอกู้ ทำเรื่องมาด้วย

2. สภาพรถมือสองคันนั้นๆ ที่ผู้กู้ขอทำเรื่องกู้

สภาพรถยนต์มีผลต่อยอดจัดที่ทางไฟแนนซ์จะสามารถให้ได้ ถ้ารถยนต์มือสองที่ผู้กู้ยื่นไปสภาพดี ยอดจัดที่ได้จะสูงกว่ารถที่สภาพโทรมหรือเคยถูกชนหนักมา

3. ประวัติทางการเงินของผู้ขอกู้

ในเรื่องการขอกู้ไฟแนนซ์ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน อยู่ที่ผู้ขอกู้ ว่ามีความสามารถในการผ่อน ชำระได้มากน้อยแค่ไหน และมีประวัติทางการชำระหนี้ต่างๆ ดีมากน้อยแค่ไหน ติดแบล็คลิสต์หรือเปล่า ต่อมาก็จะเป็นเรื่องจำนวนเงินเดือนและหน้าที่การงานของผู้ขอสินเชื่อ

หน้าที่การงานที่มั่นคง
หน้าที่การงานที่มั่นคง จะช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้น
 
ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เอกสารต่างๆ ที่จะต้องมี ได้แก่

1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. ใบคู่มือจดทะเบียน
4.เอกสารประวัติทางการเงิน
5.สัญญาชื้อ-ขาย

เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมที่จะทำเรื่องยื่นขอสินเชื่อก็มีขั้นตอนไม่มาก เพราะสิ่งสำคัญอยู่ในขั้นตอนก่อนหน้า เรื่องเอกสารที่ผู้ขอสินเชื่อจะต้องแสดงหลักฐานทุกอย่างเพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจให้แก่ไฟแนนซ์ ในความสามารถการผ่อนชำระค่างวดได้ ไม่ว่าจะเป็น แสดงหลักฐานการเงิน ว่ามีเงินเดือนเข้าตรงกันในแต่ละเดือน จำนวนเงินเดือนต้องมีจำนวนสูงกว่าค่างวดอย่างต่ำ 3 เท่าหรือเอกสารต่างในส่วนของคนค้ำประกันก็จำเป็น จะต้องการันตีในตัวผู้ขอสินเชื่อได้เพียงพอ เป็นต้น

ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องแสดงให้เห็นความสามารถในการผ่อนชำระ
 

ต่อไปขั้นตอนการขอไฟแนนซ์ ง่ายๆ มี 5 ขั้นตอน

1.ติดต่อไฟแนนซ์  ผู้ซื้อต้องติดต่อไฟแนนซ์เพื่อทำการขอสินเชื่อ
2.ไฟแนนซ์มาเก็บข้อมูลและเอกสารผู้ขอสินเชื่อ  ทำการนัดเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์เพื่อส่งมอบเอกสาร+ ข้อมูลรถที่จะนำไปประเมินสินเชื่อ
3.พิจารณาสินเชื่อ ไฟแนนซ์ทำการประเมินสินเชื่อถึงความเป็นไปได้ในการอนุมัติสินเชื่อว่า ผ่าน - ไม่ผ่าน จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วันในการพิจารณา
4.นัดโอน ถ้าสินเชื่อ “อนุมัติผ่าน”  ทางไฟแนนซ์จะนัดผู้ขาย และผู้ซื้อนำเอกสารไปทำเรื่องเล่มทะเบียน โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถคันนั้นจะเป็นชื่อไฟแนนซ์
5.ผู้ขายได้รับเงิน ผู้ขายจะได้รับเงินหลังจากการนัดโอนเล่มจากไฟแนนซ์ เรียบร้อยแล้วเท่านั้น

และนี่คือขั้นตอนทั้งหมดที่เมื่อคุณ ต้องการจะซื้อรถโดยการขอสินเชื่อที่จะมีขั้นตอนอาจจะยุ่งยากมากไปสักหน่อย แต่ขั้นตอนสำคัญๆ มีไม่มาก ที่สำคัญที่สุดคือ “เครดิต” ของผู้ขอสินเชื่อที่ไม่สามารถหาซื้อได้ที่ไหน ต้องรักษาเครดิตของตัวเองไว้ ไม่ให้ไปติดแบล็คลิสต์ในเครดิตบูโร เพราะไม่อย่างนั้นแล้วการขอสินเชื่อต่างๆ จากสถาบันการเงินก็จะทำไม่ได้เลย

>>> เช็คเลยตอนนี้: รถยนต์มือสองราคาถูก