วิธีตรวจเช็คสภาพรถยนต์มือสองเบื้องต้นก่อนซื้อ
ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ การมีรถป้ายแดง อาจจะเกินมือเอื้อมสำหรับใครหลายคน รถมือสอง จึงเป็นทางเลือกที่ดี เมื่อคุณคิดจะเป็นเจ้าของรถสักคัน วันนี้เราขอแนะนำวิธีเลือกรถมือสอง แบบง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้ และยังเป็นวิธีที่มืออาชีพใช้กันอีกด้วย….
- วิธีดูตัวถัง
- รูปทรง ให้สังเกตุดูจากสายตา ว่ามีรูปทรงสมส่วนหรือไม่ เอียงไปทางไหนหรือไม่ ช่องไฟระหว่างประตูเท่ากันหรือไม่ หากช่องไฟระยะห่างระหว่างประตูไม่เท่ากัน สันนิษฐานได้เลยว่า อาจจะมีการถอดออกมาเพื่อซ่อม (ซึ่งปกติ คงไม่มีใครถอดประตูออกมาเล่นๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น)
- สี ให้ใช้วิธีเคาะเบาๆ เพื่อฟังเสียง หากรถที่ยังไม่ได้ทำสี เสียงจะโปร่งๆ แต่ถ้ารถที่มีการโป๊วและทำสีมาใหม่ เสียงจะทึบๆ และให้เราสังเกตุความสม่ำเสมอของเนื้อสี โดยตรวจสอบสีทุกชิ้น ว่ามีสีส่วนไหน ชิ้นไหนใหม่เกินจริง เป็นคลื่น หรือสีส่วนไหนผิดเพี้ยนต่างจากจุดอื่นหรือไม่ หากตวรจพบว่าชิ้นไหนผิดเพี้ยน หรือใหม่เกินความเป็นจริง แสดงว่า อาจมีการทำสีชิ้นนั้นๆมาแล้ว
- วิธีดูตะเข็บต่างๆ
- คาน ให้เราดูจากร่องรอยจากคาน ว่ามีจุดไหนเคาะหรือซ่อมมาหรือเปล่า โดยดูรอยที่หัวน๊อตว่ามีร่องรอยของการถอดหรือไม่ สังเกตุสีที่คานว่าสีใหม่ผิดปกติหรือเปล่า หรือดูจากสติ๊กเกอร์ที่ติดมาจากศูนย์ว่ายังอยู่หรือไม่ หากพบว่ามีรอยซ่อม รอยเคาะ หรือสติ๊กเกอร์หลุดลอกหายไป ให้สันนิษฐานว่า รถคันนั้นชนด้านหน้ามาแล้ว (บางอู่ใช้วิธีเปลี่ยนคาน ให้สังเกตุที่สติ๊กเกอร์ ให้ดูความคล้ำของสติ๊กเกอร์ไม่ควรใหม่เกินความเป็นจริง และให้ดูที่รอยหัวน๊อตด้วย)
- แก้มข้าง ให้เราสังเกตุจากรอยนูนทั้ง 2 ฝั่งต้องมีเท่ากันและเหมือนกัน หากพบว่ารอยนูนของด้านไหนหายไป หรือมีร่องรอยการซ่อม ให้สันนิษฐานว่า ฝั่งที่รอยนูนหายไปอาจจะถูกชนมาแล้ว
- ประตูและขอบประตู ให้เราดูรอยพับการเก็บเข้ามุมของบานประตู และ ดึงยางขอบประตูออกมาดูทั้ง4บาน โดยให้เราสังเกตุที่รอยอ๊าค(รอยกลมๆ) ถ้ารถยังไม่ผ่านการซ่อมจะต้องมีรอยอ๊าคตลอดทั้งขอบประตู
- ตะเข็บหลัง ให้เราสังเกตุจากรอยอ๊าค รอยนูนทั้ง 2 ฝั่ง ต้องมีเท่ากัน หากพบว่ารอยอ๊าค รอยนูน ของด้านไหนหายไป ให้สันนิษฐานว่า ฝั่งที่รอยอ๊าค รอยนูน หายไปนั้นอาจจะถูกชน และสังเกตุที่กลอนประตู มีบิดเบี้ยวหรือไม่ และในส่วนของพื้นท้ายรถช่องใส่ยางอะไหล่ก็เช่นกัน ของเดิมจะเป็นลอนๆ ให้เราสังเกตุว่ามีรอยเคาะรอยซ่อมมาหรือไม่ เพราะบางคันช่างซ่อมมาเนียนมากแทบดูไม่ออกเลย
- วิธีตรวจสอบเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง
- การดูเครื่องยนต์เบื้องต้น ให้เราสังเกตุที่เกจ์วัดรอบ ว่าเครื่องยนต์เดินนิ่งหรือไม่ รอบเครื่องยนต์มีการสวิงไปมาหรือไม่ หรือมีเสียงดังผิดปกติมั้ย เราอาจใช้วิธีสตาร์ทเครื่องให้ร้อน แล้วดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมา แล้วสังเกตุไอหรือควันพุ่งออกมาหรือไม่
- เกียร์ หากเป็นเกียร์ออโต้ ให้ทดลองขณะเครื่องเย็น ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วใส่เกียร์ D หากรถไม่ยอมเดินหน้า แสดงว่าเกียร์ใกล้ลาโลก หรืออาจจะลองขับ หากเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนตามปกติ หรือขับแล้วรถตระตุก หรือมีเสียงหอนจากเกียร์ ก็แสดงว่า เกียร์หมดอายุขัยแล้ว ส่วนเกียร์ธรรมดา ก็ให้สังเกตุว่า เกียร์เข้าง่ายปกติมั้ย ขับแล้วมีเสียงหอนหรือเปล่า ลองขับให้ครบทุกเกียร์เลย
- ช่วงล่าง ให้เราลองขับ แล้วลองเลี้ยวกลับรถ แล้วสังเกตุเสียงจากช่วงล่างบริเวณล้อหน้า หากมีเสียง แกร๊กๆๆๆ ตอนเลี้ยวกลับรถก็แสดงว่าเสียงดังจากหัวเพลา และให้เราลองขับไปในทางขรุขระดู หากมีเสียงดังกุกกักๆ ก็ต้องเอารถขึ้นฮ้อย หรือขึ้นแม่แรงดู เพราะเสียงอาจจะดังแค่ลูกหมาก หรืออาจจะถึงขั้นเปลี่ยนโช้คแล้ว
- วิธีดูเอกสาร
ให้เราตรวจสอบเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ ว่าตรงกับในเล่มหรือไม่ โดยรถแต่ละรุ่นตำแหน่งเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ จะอยู่ต่างกัน หากเราหาตำแหน่งไม่เจอก็ให้เราเปิดเล่มรถ ซึ่งในเล่มจะระบุตำแหน่งของเลขเอาไว้ให้
ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในวิธีการเลือกซื้อรถมือสอง เพื่อให้ได้รถมือสองคุณภาพ และการใช้งานอย่างปลอดภัยและไม่ต้องกลับมาซ่อมเมื่อตัดสินใจซื้อรถมาแล้ว แต่ส่วนสำคัญของการซื้อรถมือสองอีกอย่างคือการตรวจรถที่โครงสร้างว่าเคยมีการชนหนักมาหรือไม่ตรงส่วนนี้อาจจำเป็นต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญที่มีให้บริการ ตรวจสภาพรถยนต์
>> วิธีดูรถมือสอง ก่อนตัดสินใจซื้อรถ
ติดตามข่าววงการยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
