จากรุ่นสู่รุ่น แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนคู่แข่งก็เปลี่ยนไป รุ่นหนึ่งยังคงอยู่ในคลาสเดิมส่วนอีกรุ่นย้ายลงไปแข่งกับอีกตลาดที่กำลังมาแรงที่สุดของยุค ว่าด้วยรถสองรุ่นที่น่าซื้อทั้งคู่ Honda Jazz กับ Toyota Yaris 2018 แต่คันไหนจะน่าซื้อกว่ากัน ถ้ามองในเรื่องการใช้งานที่เหมาะกับคุณมากที่สุด วันนี้ Chobrod เรามีคำตอบให้กับคุณ
Honda Jazz กับ Toyota Yaris ซื้อคันไหนดีกว่ากัน ?
Honda Jazz กับ Toyota Yaris คือสองรุ่นยอดนิยมแห่งสยามประเทศ เรื่องความนิยมบนถนนเมืองไทยคงไม่ต้องกล่าวอ้างมากมายให้เจ็บคอ Honda Jazz กับโฉมล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อปี 2014 แล้วไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปีที่แล้ว ที่มากับขนาดเครื่องยนต์ในคลาสเดิม 1.5L ขนาดเครื่องยนต์ที่ใช้มาอย่างยาวนาน ส่วนทางฝั่ง Toyota Yaris ซึ่งมาใหม่ได้น่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยการลดขนาดเครื่องยนต์มาอยู่ที่ 1.2L ขายแข่งตลาด อีโค คาร์เต็มตัวตั้งแต่เวอร์ชั่นก่อนหน้า และที่สำคัญสำหรับเวอร์ชั่นนี้ในเรื่องยอดขายก็ไปได้สวยอีกด้วย
เปิดราคา Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
ราคาของทั้งสองรุ่น ณ ขณะนี้ (08/2018) สำหรับ Honda Jazz จะอยู่ระหว่าง 555,000 - 754,000 บาทเป็นรุ่น 1.5 RS+ ที่ราคาสูงสุด 754,000 บาท และ Toyota Yaris ราคาจะอยู่ระหว่าง 489,000 - 619,000 บาท ตัวท็อปจะเป็นรุ่น 1.2 G วันนี้กับการเปรียบเทียบของเราจะพาไปดูความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้กันอย่างละเอียด จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
เปรียบเทียบภายนอก Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
Honda Jazz 2018 RS+ กับการออกแบบภายนอกที่ต้องการสื่อถึงความปราดเปรียว กะทัดรัดในการใช้งาน ที่ด้านหน้ากับกระจังสีดำเงา Gloss Black ตัดด้วยเส้นโครเมี่ยมบาง ๆ ขนาบข้างด้วยไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์แบบฮาโลเจนที่ให้มาพร้อมไฟวิ่งกลางวัน Daytime และไฟตัดหมอกที่ด้านล่างบริเวณกันชน ส่วนของกันชนออกแบบมาได้โฉบเฉี่ยวเร้าใจไม่น้อย กระจกมองข้างสีดำยิ่งทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้น สปอยเลอร์หลังก็ดูเข้ากันเมื่อมองจากด้านท้ายรถ ไฟท้ายให้มาเป็นแบบ LED ล้อที่ใช้เป็นล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 5 ก้านคู่ขนาด 16 นิ้ว
ดูเพิ่มเติม
>> 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์วันที่ 20 ส.ค. - 26 ส.ค. 2018
>> 4 รถ Honda มือสอง รถบ้านรถเต็นท์เลือกได้เลย ราคาไม่เกิน 3 แสน!
ภายนอกของทั้งสองรุ่น ทำออกมาได้ดีสวยทั้งคู่
สำหรับ Toyota Yaris 2018 ในรุ่น G กับความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดจากรุ่นเดินที่ส่วนของภายนอกทำได้ออกมาพริ้วไหวยิ่งขึ้นกว่าโฉมก่อนหน้า แบบไม่ทิ้งคราบเก่าเดิม ๆ เริ่มตั้งแต่ส่วนของไฟหน้าที่มาแบบโปรเจคเตอร์พร้อม LED Light Guiding พร้อมไฟวิ่งกลางวันซ่อนไว้ โดดเด่นที่สุดที่ส่วนของกันชน ที่มาพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่สีดำเงาดีไซน์สปอร์ต พร้อมไฟตัดหมอกขนาบทั้งสองข้าง มือเปิดประตูแบบโครเมี่ยมดูเข้ากันได้ดีที่เส้นสายการออกแบบด้านข้างตัวรถ ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED Light Guiding ล้อที่ให้มาเป็นล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
เปรียบเทียบมิติตัวรถระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
จุดเด่นของที่ภายนอก Honda Jazz (RS+)
จุดเด่นของที่ภายนอก Toyota Yaris (G)
เปรียบเทียบภายในระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
Honda Jazz 2018 กับส่วนของภายใน การใช้วัสดุ Piano Black แซมด้วยสีเงินเมทัลลิกยิ่งช่วยให้การออกแบบที่สวยลงตัวอยู่แล้วดูดียิ่งขึ้น เบาะนั่งเป็นผ้าแบบสปอร์ต ระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัส มี Paddle Shift มาให้สับเกียร์สนุกกว่าถึง 7 Speed และ Cruise Control ขับทางไกลสบายกว่า มาตรวัดเป็นแบบเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว (Advanced Touch) พวงมาลัยมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์มาให้ครบ รองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone ช่องเสียบ HDMI และ Bluetooth แต่ไม่รองรับ AUX ลำโพงให้มา 6 จุด
ใช่ ! ที่การออกแบบของ Toyota Yaris 2018 ก็ทำออกมาได้ดีด้วยโทนการตกแต่งด้วยสีดำตัดกับสีเงิน รอยปักเดินตะเข็บ (หลอก ๆ) ที่แผงคอนโซลหน้าคือสิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับรุ่นนี้ในเรื่องของภายใน แต่ถ้าพูดถึงฟังก์ชั่นการใช้งานก็มาให้ครบเว้นเสียแต่ไม่มีหน้าจอสัมผัสต้องไปติดเพิ่มเอง อุปกรณ์ที่น่าสนใจของภายในก็จะมี มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะ MID เครื่องเล่นวิทยุ CD, MP3, WMA พร้อมช่องต่อ USB, AUX และการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ลำโพง 4 จุด ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอ LCD ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ และเบาะนั่งให้มาเป็นแบบผ้าธรรมดา
เปรียบเทียบภาย Honda Jazz Toyota Yaris
จุดเด่นของที่ภายใน Honda Jazz (RS+)
จุดเด่นของที่ภายใน Toyota Yaris (G)
น่าผิดหวังสำหรับภายในของ Toyota Yaris 2018 ดีไซน์ทุกอย่างสวยหมดแล้ว แต่ติดอยู่ที่ว่า “ทำไม !” จะต้องมากับ “ตะเข็บหลอก” ที่คอนโซลหน้านี้มาด้วย คิดว่าผู้ใช้รถจะปลื้มใจมากหรือที่ให้มาหลอก ๆ แบบนี้ เปลี่ยนไปใช้การตกแต่งด้วยวัสดุประเภทอื่นยังจะดีเสียกว่า ส่วน Honda Jazz 2018 แม้ดีไซน์จะไม่หวือหว่ากว่าอะไรนัก แต่ก็ยังมีดีที่การใช้งานครบครัน ทั้งระบบความบันเทิงหน้าจอสัมผัส, Paddle Shift, Cruise Control จึงไม่ยากที่จะตอบว่าในเรื่องของภายในห้องโดยสาร คะแนนในยกนี้จึงต้องให้ Honda Jazz 2018 เป็นฝ่ายเข้าวินไป
เปรียบเทียบเครื่องยนต์ระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
Honda Jazz 2018 มากับเครื่องยนต์ไซส์มาตรฐานที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เจ็นแรกบนถนนเมืองไทยจนตอนนี้ กับเครื่อยนต์รหัส L15 ขนาด 1.5L แบบเบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC ให้กำลังม้าอยู่ที่ 117 ตัว แรงบิดสูงสุดที่ 146 Nm จับคู่การทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E85
Toyota Yaris 2018 กับขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า ภายใต้รหัส 3NR-FE ขนาด 1.2L เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 86 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 108 Nm ส่งกำลังผ่านเกียร์ Super CVT-i พร้อม Shift Lock รองรับน้ำมันสูงสุดประเภท E20
เปรียบเทียบพละกำลังเครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่น
เปรียบเทียบสมรรถนะระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
เปรียบเทียบความปลอดภัยระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
Honda Jazz 2018 (RS+) จุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยมีดังต่อไปนี้
Honda Jazz ความปลอดภัยถือว่าใช้ได้ ไม่ขี้เหร่ อุปกรณ์ทันยุคทันสมัย
Toyota Yaris 2018 (G) จุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยมีดังต่อไปนี้
ความปลอดภัยดีเกินตัว กับถุงลมที่ให้มาถึง 7 จุดสำหรับ Toyota Yaris
ในเรื่องความปลอดภัยให้มาโดดเด่นไม่แพ้กัน Toyota Yaris 2018 เหมือนจะดีเด่นเกินตัวเสียด้วยซ้ำ มอบความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยถุงลมมากถึง 7 จุด มากกว่า Honda Jazz อยู่หนึ่งจุดที่บริเวณกันเข่าคนขับกระแทก นอกนั้นแล้วใกล้เคียงไม่หนีกันมากนัก ทั้งตัวระบบที่ช่วยในการขับขี่ปลอดภัย ควบคุมการทรงตัวก็มีมาให้ทั้งคู่หรือจะเป็นระบบช่วยออกตัวเมื่อทางลาดชัน ขับขึ้นสะพานขึ้นห้างก็ไม่มีปัญหาปลอดภัยทั้งสองรุ่น แม้จะเป็นรถที่ระดับคลาสเล็กกว่าแต่ทำมาได้ดีเกินตัวสำหรับ Toyota Yaris 2018 จึงต้องยกคะแนนให้เป็นฝ่ายเข้าวินไปสำหรับยกนี้
สรุปซื้อคันไหนดีกว่ากัน ? ระหว่าง Honda Jazz 2018 กับ Toyota Yaris 2018
Toyota Yaris 2018 ถูกลดชั้นลดคลาส ตัดอุปกรณ์ที่ควรจะมีเพื่อไม่ให้ราคาสูงเกินหน้าตาของคลาสเกินไป จึงทำให้อุปกรณ์ที่ว่า “ของมันต้องมี” หลายอย่างไม่ได้มาด้วย แต่ถ้าแค่การใช้งาน “เบื้องต้น” ก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้ารถคันนี้ที่คุณจะซื้อเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลักหรือมีรถอีกคันของที่บ้านไว้สำหรับออกนอกเมืองขับไกล ๆ แล้ว วันทำงานก็ขับ Toyota Yaris นี้ไป ประหยัดน้ำมันคุ้ม ๆ ด้วยเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า อัตราเร่งไม่รีบร้อนอะไรมากนักแต่ก็แรงใช้ได้ ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในวันที่ถนนเมืองไทยเร่งได้ไม่ค่อยมากนัก
แต่ถ้าจะเลือกซื้อมาเป็นรถพระเอกของบ้าน มีรถอยู่คันเดียว “ไปไหนไปกัน” ครบครันทุกการใช้งาน กินน้ำมันไม่เกินคู่เปรียบเทียบมากนัก แต่ครอบคลุมทุกการขับขี่ จะขับทางไกลต่างจังหวัดอัตราเร่งก็อุ่นใจกว่า จะแซงแต่ละทีพอไว้ใจได้หรือจะเอาไปขึ้นดอยที่เส้นทางชันขึ้นมาหน่อยก็ไม่ต้องรุ่นหนัก ๆ เหมือนเครื่องยนต์ขนาด 1.2L Honda Jazz 2018 น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายให้กับทุกคุณที่กำลังมีความต้องตามที่กล่าวมา
สรุปรวมจุดเด่นของทั้งสองรุ่น
ถ้าคุณแยกประเด็นการใช้งานได้ชัดเจน คำตอบในเรื่องนี้ก็จะชัดเจนขึ้นเช่นกัน ว่าคันไหนที่น่าจะถูกจริตคุณได้มากที่สุด กับราคาที่ต่างกันหลักแสนบาท จะจ่ายแพงกว่าเพื่อไปซื้อ Honda Jazz ไหม ? จำเป็นมากแค่ไหน? เราได้แยกประเด็นจุดเด่นข้อสังเกตในแต่ละรุ่นไว้ให้แล้ว คำตอบสุดท้ายคือคุณเท่านั้นแหละที่จะรู้และเป็นคนเลือก ไม่มีใครถูกใครผิดเพราะแต่ละคนเงื่อนไขการจ่ายเพื่อซื้อรถแตกต่างกัน เลือกให้ถูกต้องที่ความเป็นคุณดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม
>> แต่งรถให้ได้ดั่งใจสไตล์ Toyota Yaris ATIV
>> เหตุผล? ที่คนไทยส่วนใหญ่ เลือกใช้ยนตรกรรมจากญี่ปุ่น
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่