Five Fact : มีอะไรดีที่น่าดูในอเนกประสงค์ใหม่หมด All-New Nissan Terra คันนี้

Five Fact : มีอะไรดีที่น่าดูในอเนกประสงค์ใหม่หมด All-New Nissan Terra คันนี้

กับทางเลือกในการใช้งานที่ปรับได้ตามอัธยาศัย พร้อมสรรพสำหรับทุกคนในครอบครัว ใกล้แล้วที่จะให้คนไทยได้สัมผัสตัวจริงกัน จากจุดเริ่มต้นที่รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจตลาดแดนมังกร สู่เสียงฮือฮา ตอบรับดีเยี่ยมพาระบาดอยากขับกันไปทั่วเอเชีย และ 5 สิ่งที่น่าสนใจใน All-New Nissan Terra มีอะไรบ้างเราไปดูกันได้เลย 

ดูเพิ่มเติม
>> มาไทยแน่ปีนี้! Nissan Terra PPV เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการที่ฟิลิปปินส์
>> จากกระบะ สู่เอสยูวี Nissan Terra 2018 พร้อมขุมพลัง 181 แรงม้า

1. Nissan Terra จากแพลตฟอร์มที่มั่นใจได้ของ Navara
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น SUV ในแบบ PPV นั่นคือการสื่อถึงที่มาที่ไปว่ารถรุ่นนี้ มีพื้นฐานโครงสร้างตัวรถมาจากกระบะในค่ายอย่าง Nissan Navara แพลตฟอร์มซึ่งที่ถูกนำไปใช้สำหรับกระบะพรีเมี่ยมอย่าง “เบนซ์” ใน Mercedes-Benz X-Class น่าจะเป็นการการันตีถึงคุณภาพที่คุณจะได้รับจากรถคันนี้ ว่าสมรรถนะการใช้งานย่อมมีดีไม่ต่าง ซึ่งมิติตัวรถของ Nissan Terra เทียบกับมีมิติรุ่นอื่นๆ ในตลาดมีดังต่อไปนี้ 

• Nissan Terra กว้าง x ยาว X สูง, ฐานล้อ (mm) : 4885 x 1865 x 1835, ฐานล้อ 2850 
• Toyota Fortuner กว้าง x ยาว X สูง, ฐานล้อ (mm) : 4795 x 1855 x 1835, ฐานล้อ 2750
• Mitsubishi Pajero Sport กว้าง x ยาว X สูง, ฐานล้อ (mm) : 4785 x 1815 x 1805, ฐานล้อ 2,800
• Isuzu MU-X กว้าง x ยาว X สูง, ฐานล้อ (mm) : 4825 x 1860 x 1860, ฐานล้อ 2,845
• Ford Everest กว้าง x ยาว X สูง, ฐานล้อ (mm) : 4,893 x 1,862 x 1,837, ฐานล้อ 2,850 

Terra ดูดีใช้ย่อย พอแข่งกับ PPV จากค่ายอื่นได้แบบสบายๆ 

โดย Terra คันนี้จะมากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-Time พร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายหลัง Diff-Lock ความแตกต่างที่สำคัญคือเรื่องของด้านหลัง จะใช้ช่วงล่างเป็นแบบ Five-Link Suspension (คอยล์สปริง) ดังนั้นมั่นใจได้ในเรื่องความนิ่มนวลเมื่อยามโดยสาร Terra คันนี้ย่อมมอบความรู้สึกที่ดีกว่ากระบะ Navara อย่างแน่นอน 

 2. มากับตัวเลือกเครื่องยนต์ และเกียร์ที่มากกว่า
All-New Nissan Terra ถูกสร้างมาเพื่อรองรับได้กับเครื่องยนต์หลายลูก หลายขนาดที่ใกล้เคียง สำหรับเวอร์ชั่นแดนมังกร จะมากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4L พร้อมฝูงม้า 184 ตัวทำงานร่วมกับเกียร์สองทางเลือกทั้งแบบธรรมดา 6 Speed และเกียร์อัตโนมัติ 7 Speed พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนเวอร์ชั่นฟิลิปปินส์ จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5L รหัส YD25 DDTi แบบสี่สูบเทอร์โบ พร้อมกำลังม้ากว่า 190 แรงม้ากับแรงบิดโหดๆ ที่ 450 Nm ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 Speed พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อครบๆ อีกเช่นกัน

เครื่องยนต์ในไทยน่าจะเป็นตัว 2.3L

ส่วนไทยเวอร์ชั่นที่กำลังจะเปิดตัวนั้นคาดว่า ตัวเครื่องยนต์จะใช้เป็นตัวเครื่องยนต์ดีเซล รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3L DOHC Twin-Turbo พร้อม Intercooler ให้แรงม้าและแรงบิดคล้ายกับเวอร์ชั่นฟิลิปปินส์อยู่ที่  190 แรงม้า และแรงบิดอยู่ที่ 450 Nm เรี่ยวแรงเทียบเท่ากับเวอร์ชั่นกระบะ Navara รวมไปถึงเกียร์ก็เป็นแบบอัตโนมัติ 7 Speed เช่นกัน คงต้องรอวันเปิดตัวมาถึง แล้วมาลุ้นกันอีกทีว่าสเปคเครื่องยนต์อย่างเป็นทางการของ Nissan Terra ไทยเวอร์ชั่นคันนี้โดยละเอียดจะเป็นอย่างไร เหมือนของเวอร์ชั่นประเทศไหน

3. อุปกรณ์บางอย่างที่ตกหล่น 
แม้เวอร์ชั่นที่ทำตลาดในเอเชียของ All-New Nissan Terra จะมาพร้อมทั้งกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในระดับ “เลอค่า” มากมายเพื่อความสุข อเนกประสงค์สำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวสองที่คอนโซลกลาง, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังบนเพดาน, แอร์อัตโนมัติแบบ Dual-Zone, ระบบ infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อม Apple CarPlay และ Bluetooth, พวงมาลัยพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น, ระบบความปลอดภัยด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor (AVM) และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (ที่คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย, หัวเข่าคนขับ) แต่ก็มีอุปกรณ์บางอย่างที่ Terra พลาดไป ไม่นำมาใช้ เช่น “ซันรูฟ” อุปกรณ์ที่ดูไม่ค่อยสำคัญ แต่ของมันต้องมี! หรือจะเป็นตัวเบรกมือไฟฟ้า ที่ในคู่แข่งรุ่นสำคัญอย่าง Mitsubishi Pajero Sport มีมาให้ แต่ All-New Nissan Terra กลับยังไม่ให้มา 

อุปกรณ์ครบถ้วนเกือบสมบูรณ์ น่าจะมีซันรูฟมาให้ จะ Perfect กว่านี้

4. คู่แข่งไม่ใช่น้อยๆ ไม่เจ๋งจริง อยู่ยาก! 
สำหรับเวอร์สยามประเทศกับการมาของ All-New Nissan Terra อาจจะทำให้ตลาดรถประเภท SUV ที่มีพื้นฐานจากกระบะคึกคักมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าแน่นอนว่าเช่นกันว่าตลาดนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยกลียบกุหลาบกับคู่แข่งมากมาย ที่แต่ละตัวเลือกขึ้นชื่อว่า “ทีเด็ด” แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในตลาดอย่างเหนียวแน่น ยากที่ใครจะโค่นได้อย่าง Toyota Fortuner, สปอร์ตล้ำออพชั่นแน่นอย่าง Mitsubishi Pajero Sport, PPV หรูวินเทจขวัญใจพ่อยก แม่ยกสายกระบะอย่าง Isuzu Mu-X, ลุคอเมริกันสไตล์ ใหญ่ ล่ำ อย่าง Ford Everest ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มากับความโดดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่าง 

คู่แข่งของ Terra มีไม่น้อยเลยในตลาด

ไปดูยอดขายย้อนหลังของตลาดรถประเภท PPV กัน 3 อันดับว่ารุ่นไหนบ้างจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ All-New Nissan Terra
ปี 2015 

• อันดับ 1 Toyota Fortuner ขายได้ 31,005 คัน
• อันดับ 2 Mitsubishi Pajero Sportขายได้ 18,975 คัน
• อันดับ 3 Isuzu Mu-Xขายได้ 12,524 คัน

ปี 2016 

• อันดับ 1 Toyota Fortuner ขายได้ 28,050 คัน
• อันดับ 2 Mitsubishi Pajero Sportขายได้ 15,592 คัน
• อันดับ 3 Isuzu Mu-Xขายได้ 8,855 คัน

ปี 2017 

• อันดับ 1 Toyota Fortuner ขายได้ 23,470 คัน
• อันดับ 2 Mitsubishi Pajero Sportขายได้ 14,454 คัน
• อันดับ 3 Isuzu Mu-Xขายได้ 12,371 คัน

3 อันดับหลักๆ คือด่านทดสอบสำคัญสำหรับ Nissan Terra ในการจะเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด อาจจะยากสักหน่อยถ้ามองไปที่อันดับหนึ่งซึ่งนำโด่งโดย Toyota Fortuner คงมองได้ที่ลำดับรองลงมา อย่างที่บอกว่าแถวนี้ “เถื่อน” ไม่เจ๋งจริงอยู่ยาก แต่ถ้าทางค่ายทำราคาออกมาได้น่าสนใจ พร้อมกับดึงดูดด้วยออพชั่นที่แน่นกว่า เรื่องดีไซน์ก็ถือว่าสวยใช่ย่อยอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ที่ Terra จะอยู่ในตลาดนี้ได้แบบยาวๆ มีเจ็นต่อไปออกมาขายต่อเนื่อง

5. i-RVM
กระจกมองหลังแบบใช้กล้องแสดงภาพ Intelligent Rear View Mirror (i-RVM) คือเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ และยังไม่เคยมีใช้มาก่อนกับรถยนต์ในเมืองไทย ความพิเศษของในระบบนี้ คือการช่วยแก้ปัญหาของผู้ขับขี่ กับรถที่มีพื้นที่มีห้องโดยสารยาวๆ ศรีษะของผู้โดยสารหรือสิ่งของขนาดใหญ่อาจบดบังทัศนวิสัยเมื่อมองกระจกหลัง ระบบสามารถกดปุ่มเปลี่ยนเป็นแสดงภาพมาจากกล้องที่ติดไว้ด้านหลังรถแทนได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นในเรื่องความปลอดภัย Terra ยังมากับพิมพ์นิยมที่รถตัวท็อปยุคนี้ “ควรมี” อีกหลายอย่างอีกเช่น 

• ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor (AVM)

กระจกมองหลังแบบใช้กล้องแสดงภาพ Intelligent Rear View Mirror ช่วยให้การขับขี่สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น

และทั้งหมดคือ Five Fact ที่น่าสนใจและมีดีของรถรุ่นนี้ All-New Nissan Terra เข้าคิวรอเปิดตัวอีกหนึ่งรุ่น ที่กำหนดช่วงเวลาเปิดตัวมาแล้ว เป็นช่วงเดือนสิงหาคม แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดระบุวันที่แน่ชัดออกมาชัดเจนแต่อย่างใด ยังไงก็รอติดตามข่าววันเปิดตัวได้อีกที โดยเรา Chobrod เราจะนำมาบอกกับคุณให้รู้ก่อนใคร รอติดตามกันได้เลย และอย่าลืมบอกกับเราหน่อยว่า All-New Nissan Terra คันนี้ถูกใจโดนใจคุณที่ตรงไหน และเพราะอะไรใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย

ดูเพิ่มเติม
>> All New Nissan Altima หรืออีกชื่อของ Teana เปิดตัวที่ New York Auto Show 2018
>> Isuzu Mu-X กับ Mitsubishi Pajero Sport อเนกประสงค์ PPV ต้องเลือกคันไหน

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่