Five Fact : MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018 มีอะไรใหม่น่าสนใจบ้างต้องตามไปดู!

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 19 มิ.ย 2561
แชร์ 2

หนึ่งในรุ่นสร้างชื่อให้กับค่าย MG ประเทศไทย ด้วยความที่เป็นรุ่นแรกสุดที่ถูกเปิดตัวพร้อมกับขึ้นชื่อในเรื่องของ “ออพชั่น” ที่มีมาให้มากกว่าเทียบกับรุ่นอื่นค่ายอื่นในราคาที่เท่ากัน ทำตลาดมาจนถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ MG3 จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการเปิดตัวโฉมใหม่แบบ “บิ๊กไมเนอร์เชนจ์” ในวันที่ 21 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งการปรับใหญ่เปลี่ยนทั้งภายนอกภายในครั้งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างในความเปลี่ยนแปลง Chobrod Five Fact เราจะพาทุกคนไปชมพร้อมๆ กันได้เลย

Five Fact : MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018 มีอะไรใหม่น่าสนใจบ้างต้องตามไปดู!

Five Fact : MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018 มีอะไรใหม่น่าสนใจบ้างต้องตามไปดู!

1.เวอร์ชั่นเดียวกับแดนมังกร 
ก่อนหน้ามีภาพหลุดของรุ่นนี้มาจากประเทศจีน พร้อมการเปิดตัวไปแล้วเมื่อปี 2017 ในงาน Chengdu Auto Show 2017 ที่ประเทศจีน จนล่าสุดถึงทีเซอร์แรกที่ถูกปล่อยออกมาจาก MG ประเทศไทย พบว่าดีไซน์ไม่ต่างกัน ที่ทางค่ายพยายามยึดแนวทางการออกแบบยุคใหม่ของ MG นำมาใส่ไว้กับ MG3 คันนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมหน้าตาใหม่จึงละหม้ายคล้ายกับครอสโอเวอร์ที่มาแรงของค่ายอย่าง MG ZS ที่ทำยอดขายได้น่าประทับใจผู้บริหาร และทาง MG ก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่การมาของ MG3 ภายใต้แพทเทิร์นหน้าตาคล้ายๆ กันนี้จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น

ดูเพิ่มเติม
>> 
เจาะ 5 ปัจจัยว่าทำไม MG ZS ถึงขายดี
>> รวบรวม Comment ปัญหาจากลูกค้า MG ZS 2018 ออกดีไหม?

เทียบเวอร์ชั่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ กับโฉมเดิมแล้ว แตกต่างและสวยน่าขับขึ้นเยอะ

เทียบเวอร์ชั่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ กับโฉมเดิมแล้ว แตกต่างและสวยน่าขับขึ้นเยอะ

เทียบเวอร์ชั่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ กับโฉมเดิมแล้ว แตกต่างและสวยน่าขับขึ้นเยอะ

2.เป็นแค่บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ไม่ใช่โฉมใหม่หมด
ก้าวเข้าสู่ปีที่สี่หลังจากที่ทาง MG ประเทศไทย นำ MG3 มาเป็นรุ่นเบิกฤกษ์นำชัย เปิดตัวขายเป็นรุ่นแรกของค่ายในการทำการตลาดบนสยามประเทศของ MG ในความร่วมมือระหว่างไทย-จีน กับบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี และ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เป็นรถสำหรับคนรุ่นใหม่ สร้างตัวตนที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ดีไซน์และสีสันสดใสกับการออกแบบโดย UK TECHNICAL CENTRE ที่อังกฤษ และการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์เล็กน้อย ปรับราคา เพิ่มสีพิเศษอย่างที่ผ่านมาอาจไม่ทำให้น่าสนใจเท่าครั้งนี้ ที่มีการเปรียบแปลงหลายจุด จนหลายคนที่ได้เห็นครั้งแรก อาจเข้าใจผิดได้ว่าการมาของ MG3 ในครั้งนี้เป็นการโมเดลเชนจ์ ทั้งที่จริงแล้วโครงสร้างตัวถังพื้นฐานยังเหมือนเดิมหมดแทบทั้งสิ้น 

โครงสร้างหลักๆ ยังคงเป็นแบบเดิม แม้จะเปลี่ยนไปเยอะทั้งภายนอก และภายใน

โครงสร้างหลักๆ ยังคงเป็นแบบเดิม แม้จะเปลี่ยนไปเยอะทั้งภายนอก และภายใน 

ซึ่งดูได้จากเส้นสายของตัวรถด้านข้างที่ลากยาว ไปจนถึงลักษณะของเสา A,B และ C ของตัวรถที่เหมือนเดิมทั้งหมด แต่เปลี่ยนไปเยอะจนจำได้ยากถ้าไม่สังเกตดีๆ เพราะ MG เล่นปรับหน้าทั้งส่วนของกระจัง ไฟหน้า และกันชน รวมไปถึงด้านหลังที่ฝาประตูหลังเดิมยกออก มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้ายและกันชนก็ปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า แม้จะใหม่ไม่หมดแต่ก็เกิน 50% ที่ภายนอก จนเรียกได้ว่า บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ (Big Minor Change) ก็คงไม่ผิด จนทำให้คนที่เพิ่งได้รับรถโฉมเดิมก่อนหน้าไปอาจต้องมองค้อนใหญ่ ทุบโต๊ะบ่นอุบว่าทำไมไม่รออีกหน่อยกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

3. ภายในดีไซน์ใหม่หมด
อีกหนึ่งจุดที่ MG3 แตกต่างเกินกว่าที่จะใช้คำว่า ไมเนอร์เชนจ์ธรรมดาได้นั่นคือการมาที่ภายในดีไซน์แบบใหม่หมด แบบยกแดชบอร์ดคอนโซล และแผงประตูเดิมออกไป เข้ามาแทนที่ด้วยดีไซน์ใหม่ที่สดใสดูเฟรชเทียบเท่ากับคู่แข่งมากขึ้น ผสมผสานการใช้วัสดุและเพิ่มลูกเล่นกับลวดลายกราฟฟิก ลายเดียวกับที่ใช้บนตัวเบาะ พร้อมพวงมาลัยแบบ 3 ก้านดีไซน์เดียวกับที่ใช้ใน MG ZS รวมไปถึงช่องแอร์ทรงกลมที่ด้านข้างคนขับ และผู้โดยสารก็มาในอารมณ์เดียวกัน ปุ่มสั่งการต่างๆ ถูกปรับใหม่หมดเพื่อประโยชน์ในเรื่องสวยงาม และการใช้งานที่ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมไปถึงหัวเกียร์และฐานเกียร์ใหม่ จากอานิสงค์ของความเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบขับเคลื่อนซึ่งรายละเอียดนั้นอยู่ในข้อต่อไป 

รีเฟรชความสวยที่ภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่คอนโซลหน้า แผงประตู และเบาะนั่ง

4.เครื่องยนต์ลูกเดิม แต่เกียร์ลูกใหม่ 
จากเทคโนโลยีเจ้าปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้รุ่นนี้ปวดหัวในการใช้งานกับเรื่องของเกียร์ Selematic ที่การทำงานจะคล้ายกับเกียร์ธรรมดา แค่ระบบจะช่วยเหยียบคลัชให้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันเป็นระบบที่โบราณมีมานานแล้ว แต่ด้วยการใช้งานไม่เหมาะกับถนนเมืองไทยกับอาการงึกๆ งักๆ เวลาเกียร์ต่ำ ยิ่งเจอกับถนนรถติดๆ ขยับได้ทีละนิดยิ่งกระตุกหนัก ภาระหน้าที่จึงไปตกกับผู้ซื้อรุ่นนี้ที่ต้องปรับตัวเข้ากับการทำงานของระบบให้ได้ ทาง MG มองเห็นปัญหาที่จุดนี้จึง Back To Basic กลับมาใช้งานเป็นเกียร์อัตโนมัติธรรมดา 4 Speed แทนให้สำหรับ MG3 ไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะจับคู่กับเครื่องยนต์ลูกเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Multipoint EFi ขนาดความจุ 1.5L มาพร้อมกำลังม้า 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 Nm ที่ 4,500 รอบต่อนาที 

เกียร์เดิม Selematic เจ้าปัญหาและเป็นจุดด้อยของรุ่นถูกยกออกไป  แทนที่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed

เกียร์อัตโนมัติ 4 Speed 

5. ฉลาดและปลอดภัยขึ้นด้วย I-SMART และถุงลมเพิ่มขึ้นเป็น 6 ใบ
เมื่อมากับภายในใหม่แล้ว MG3 ก็จะมาพร้อมกับระบบ Infortainment ใหม่ๆ ที่ฉลาดล้ำตามยุคยิ่งขึ้นด้วยเช่นกันกับจอสัมผัสขนาดกว้างถึง 8 นิ้ว ที่ในเวอร์ชั่นจีนตามสเปคสามารถรองรับทุกการเชื่อมต่อที่ทันสมัยไว้อย่างครบครันทั้ง Apple CarPlay, Bluetooth, ระบบนำทาง, ระบบเชื่อมต่อ 4G/Wifi ในเวอร์ชั่นไทยต้องรอวันเปิดตัวว่าจะให้มาครบเหมือนกันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ระบบ i-SMART ที่มีประโยชนจ์ทั้งในเรื่องสั่งการทำงานต่างๆ ด้วยภาษาไทย ที่ได้สร้างชื่อให้ MG ZS ประสบความสำเร็จมาแล้วนั้น จะเข้ามาอยู่ใน MG3 คันนี้อย่างแน่นอน ทั้งการสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์เปิดแอร์รอ, คำสั่งล็อก และปลดล็อกประตู, เช็คสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงการเป็นผู้ช่วยในการค้นหาสถานที่ต่างๆ แนะนำที่เที่ยว กิน ช็อปฯ ตลอดเส้นทางการเดินทาง 

ระบบ i-SMART ที่ทำให้ตัวรถฉลาด สั่งการง่ายยิ่งขึ้น มาแน่กับ MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018

ระบบ i-SMART ที่ทำให้ตัวรถฉลาด สั่งการง่ายยิ่งขึ้น มาแน่กับ MG3 ไมเนอร์เชนจ์ 2018

ด้านความปลอดภัยจากเดิมที่รุ่นนี้มีถุงลมมาให้เพียงคู่หน้าเท่านั้น MG3 ไมเนอร์เชนจ์เวอร์ชั่นขายในจีนก็มีการปรับเพิ่มจำนวนถุงลมมาให้เป็น 6 ใบ ที่คู่หน้า, ด้านข้างเบาะหน้า และม่านถุงลมสองฝั่ง รวมไปถึงระบบความปลอดภัยสมัยที่นิยมที่รถยุคนี้ควรมีอาทิเช่น  

  • กล้องมองภาพด้านหลังและสัญญาณกะระยะ
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BAS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • ระบบควบคุมการทรงตัว
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง

ถุงลมยัดมาให้แบบจุใจถึง 6 จุด มั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ถุงลมยัดมาให้แบบจุใจถึง 6 จุด มั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

และทั้งหมดนี่คือ Five Fact ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ MG3 ที่ในเรื่องราคายังไม่มีข่าวตัวเลขออกมาแต่อย่างใด รวมไปถึงจำนวนรุ่นย่อยทั้งหมด ซึ่งคาดว่าราคาน่าจะมีการปรับขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน ถ้าอุปกรณ์ที่ให้มากับรถถูกเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ และเมื่อมาจนถึงเวอร์ชั่นไทยที่จะเปิดตัวในวันที่ 21 มิถุนายน 2018 จะมีการปรับเพิ่ม-ลดฟีเจอร์อะไรบ้างต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิด และทาง Chobrod จะนำรายละเอียดทั้งหมดมาฝากกัน 
ถ้าคุณสนใจรถมือสอง MG3 สามารถกดเข้าไปดูที่นี่

ดูเพิ่มเติม
>> 
New MG 3 เปิดตัวควบ 2 ชาติ! ไทยเตรียมเปิดตัวโฉมใหม่ MG 3 แฮทช์แบ็ค กลางปีนี้.. ขณะที่ จีน เผยโฉมแล้วเช่นกัน
>> เตรียมเปิดตัว MG3 2018 ในไทย ลุคใหม่ที่เข้มขึ้น

แท็ก MG ZS Five Fact