8 รถมือสองน่าซื้อในราคาไอโฟน X เครื่องหิ้ว

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 21 ก.ย 2560
แชร์ 20

สร้างกระแสไปทั่วโลกกับการเปิดตัวโทรศัพท์ยอดนิยมอย่าง ไอโฟน กับรุ่นใหม่ตัวท็อปอย่าง “ไอโฟน X” หรือชื่อเรียกว่า ”ไอโฟน 10” ที่เปิดตัวมาพร้อมกับราคาสูงสุดเท่าที่เคยมีไอโฟนมา และแน่นอนว่าแม้ประเทศไทยจะไม่ใช่กลุ่มประเทศแรกที่จะได้สัมผัสไอโฟนรุ่นนี้ ก็มีบริการเครื่องหิ้วสำหรับใครที่ต้องการจะเป็นเจ้าของก่อนใครในไทยด้วย ที่ทาง MBK เผยราคารุ่นท็อปสุด ไอโฟน X 256GB ราคาหิ้วมาแล้วที่สูงถึง 102,000 บาท

ซึ่งถ้าลองมาคิดกันกับรถมือสอง เงินจำนวนสูงถึง 102,000 บาทนี้ จะซื้อรถมือสองน่าใช้รุ่นไหนได้บ้างใน Chobrod.com เราไปดูกัน

8. Toyota Soluna

เก๋งซีดานยอดนิยมรุ่นหนึ่งในยุคช่วงปี 1999 ที่ยังมีให้เห็นวิ่งกันอยู่มากในท้องถนนเมืองไทย ขนาดตัวรถที่กระทัดรัด เรียบง่าย เป็นซีดานรุ่นท้ายๆ ก่อนที่ทางโตโยต้าจะเริ่มปรับขนาดรถเก๋งให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งแต่ก่อนรถเก๋งซีดานที่ผลิตออกมาจะคันไม่ใหญ่มาก เน้นการขับขี่ใช้งานที่คล่องตัวเป็นหลักเหมือนกับ Toyota Soluna รุ่นนี้

เครื่องยนต์ขนาด 1.5L 93 แรงม้า DOHC ระบบเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดและเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เพียงพอที่จะสามารถขับเคลื่อนตัวถังที่ไม่ใหญ่มากนี้ มีอัตราเร่งใช้งานทันใจได้เหลือเฟือ อีกทั้งเรื่องความประหยัดคุ้มค่าก็ไม่เป็นรองรุ่นไหนเหมือนกัน

Toyota Soluna
Toyota Soluna

ความนิยมของรถรุ่นนี้ในยุคนั้นคือการสร้างปรากฎการณ์ทุบสถิติยอดจองในวันเปิดตัว 3 วัน 10,000 คัน และยังขายดีอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นเรื่องอะไหล่สำหรับคนที่จะหารุ่นนี้มาใช้ก็ไม่ต้องห่วง

7. Toyota Corolla (โฉมสามห่วง )

เป็นโฉมต่อเนื่องมาจาก Corolla โฉมโดเรม่อนที่เหล่าช่าง หรือผู้ใช้รถนิยมเรียกกันว่า “โฉมสามห่วง” เพราะเป็นรถโฉมแรกของ Corolla ที่ตราสัญลักษณ์ยี่ห้อ วงรีไขว้สามวง (สามห่วง) ถูกนำมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ติดอยู่ที่กระจังหน้าของรถ ต่างกับรุ่นก่อนหน้าที่เคยมีมา

Toyota Corolla (โฉมสามห่วง)
Toyota Corolla (โฉมสามห่วง )

กับตัวเลือกเครื่องยนต์ที่มีมาให้ 2 ขนาดคือ 1.3L และ 1.6L ในโฉมนี้ ระบบเกียร์ก็มีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ เรื่องการใช้งานความทนทานคงไม่ต้องพูดกันเยอะ เพราะเราจะเห็นรถรุ่นนี้วิ่งอยู่มากตามท้องถนน แม้สภาพรถอาจจะเจอคันที่สวยๆ ยากหน่อย แต่เรื่องการใช้งาน ความคงทน กับตัวเลือกในด้านอะไหล่ถ้าซื้อมาใช้เป็นรถมือสองก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก

6. Honda City Type Z

เป็น City รุ่นแรกที่ถูกผลิตและจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการซึ่งเป็น Generation ที่ 3 ของ City เป็นคู่แข่งสำคัญอย่างรุ่น Toyota Soluna แต่การออกแบบของ City Type Z มีขนาดที่ใหญ่กว่านิดหน่อยแต่ไม่มาก รูปทรงเรียบง่าย เส้นสายตัวรถได้รับอิทธิพลมาจากรุ่น Civic EG หรือโฉมเตารีด ไม่น้อย จึงไม่น่าแปลกถ้ามองด้านข้างผ่านๆ ก็จะนึกว่าเป็น Honda Civic แตกต่างก็คงจะเป็นที่ไฟหน้าและไฟท้ายที่มีขนาดใหญ่กว่า

Honda City Type Z
Honda City Type Z

เครื่องยนต์มีทั้งขนาด 1.3L และ 1.5L ซึ่งในตอนแรกที่นำมาจำหน่ายเป็นเครื่องหัวฉีดและต่อมาเป็นเครื่อง VTEC คงทนทุกรูปแบบการใช้งานรถทั่วไป ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกนัก สำหรับรถรุ่นนี้ อู่ซ่อมรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้และอะไหล่มีเยอะ

5. Honda Civic (โฉมตาโต)

ในยุคนั้นการออกแบบไฟหน้าตาเพชร เป็นที่นิยมกับรถรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นที่เปิดตัวออกมา รวมถึง Honda Civic ในโฉมตาโตหรือ Civic EK ที่มีจุดเด่นในเรื่องของ ไฟหน้าตาเพชรขนาดใหญ่ จนขับไปที่ไหนใครก็จำรุ่นนี้ได้ ซึ่ง Honda ก็ยังเคยผลิตรถรุ่นนี้ให้กับ Isuzu ขายเป็นรถเก๋งในชื่อรุ่น “Vertex” ซึ่งเป็นรถเก๋งรุ่นเดียวของ Isuzu แต่ว่าไม่ได้รับความนิยมจึงค่อยๆ หายไปจากตลาดรถเมืองไทย

Honda Civic (โฉมตาโต)
Honda Civic (โฉมตาโต)

กับช่วงเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์แบบคาร์บูเรเตอร์มาเป็นแบบหัวฉีด เครื่องยนต์ 1.6L ใน Civic โฉมนี้ก็จะเป็นคาร์บูเรเตอร์ในรุ่นแรกๆ ที่แนะนำและเครื่องยนต์ใหม่แบบหัวฉีดในช่วงก่อนปรับโฉม ทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดามีมาให้เลือกทั้งสองแบบ

ถ้าจะมองหารถมือสองรุ่นนี้ก็หารุ่นที่เป็นหัวฉีดจะดีกว่า ใหม่กว่า การใช้งานจะคุ้มค่าประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า เรื่องอะไหล่ก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีทั้งอู่ซ่อมอู่แต่งของเครื่องยนต์ Honda รุ่นนี้อยู่มากมาย

4. Nissan Sunny (โฉม B16)

ภายนอกดูภูมิฐาน หรูหรา แตกต่าง และรูปทรงดูใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าที่มีขายในไทย Nissan Sunny B14 ซึ่งได้รับความนิยมสูงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นรถขนาดกลางแต่ให้ความรู้สึกดูเป็นรถผู้ใหญ่มากกว่ารถขนาดเดวกันจากค่ายอื่น ไม่วัยรุ่นมากนัก เป็นอีกตัวเลือกที่ดี สำหรับคนที่ต้องการรถประเภทนี้กับชุดไฟหน้าและกระจังที่คล้ายกับนำรุ่นใหญ่อย่าง Nissan Cefiro มาย่อส่วนให้ดูเล็กลง รวมถึงตัวรถโดยรวมแล้ว ความหรูหรา ดูภูมิฐานน่าจะเป็นนิยามที่เหมาะสมกับรถรุ่นนี้มากที่สุด

Nissan Sunny (โฉม B16)
Nissan Sunny (โฉม B16)

กับเครื่องยนต์ขนาด 1.8L 4 สูบ 16 วาล์ว 115 แรงม้าแรงบิด 163 นิวตัน-เมตร จุดเด่นหนึ่งคือเสา A ของรุ่นนี้จะแข็งแรงมากเมื่อเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ดี เบาะหน้านั่งสบาย ระบบเบรคดีตอบสนองเร็วทันใจเอาอยู่และอีกอย่างที่สำคัญคือระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล ไม่กระด้าง

3. Nissan Cefiro (โฉม A32)

เป็น Cefiro โฉมที่สองที่จำหน่ายในเมืองไทย ที่ลดความสปอร์ตให้น้อยลงจากโฉมก่อนหน้า A31 และเพิ่มความหรูหราดูแพงให้มากขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากล้อหลังมาเป็นขับเคลื่อนล้อหน้าตามความนิยมของรถเก๋งซีดานในช่วงนั้น

Nissan Cefiro A32
Nissan Cefiro A32

ความหรูหราที่มีมากขึ้น ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นแต่ยังคงความนุ่มหนึบของช่วงล่าง การขับขี่มั่นใจได้เกาะถนนดี ตามประสารถขนาดใหญ่ แต่การกินน้ำมันก็สูงมากเช่นกัน คนที่ใช้รถรุ่นนี้ส่วนใหญ่จึงหันไปคบหากับระบบเชื้อเพลิงแบบแก๊ส ได้ทั้งขับดีและประหยัดครบ ตอบโจทย์ความสมบูรณ์แบบของรถสักคันได้เป็นอย่างดี

2. Mitsubishi Lancer (โฉมท้ายเบนซ์)

รุ่นที่มีฉายาเป็นของตัวเองที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า “โฉมท้ายเบนซ์” กับไฟท้ายมีลักษณะเป็นก้อนสามเหลี่ยมรูปทรงคล้ายกับ Benz C-Class โฉม W202 ต่างกับโฉมก่อนหน้าที่เป็นแถบคาดยาว Lancer เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้มาหลาย Generation แล้วและรุ่นนี้ก็น่าใช้ไม่แพ้โฉมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

Mitsubishi Lancer (โฉมท้ายเบนซ์)
Mitsubishi Lancer (โฉมท้ายเบนซ์)

กับเครื่องยนต์ที่มีทั้งขนาด 1.5L, 1.6L และ 1.8L เลือกใช้งานได้ตามความชอบ ตัวถังสำหรับคนชอบแต่งก็นำอุปกรณ์แต่งจากรุ่น Evolution เข้ามาใส่ได้แทบทั้งคันเพิ่มความสวยและความแรงได้ตามชอบ หรือถ้าใช้งานปกติในครอบครัวก็ทนทาน อะไหล่หาง่ายไม่แพ้กัน

1. BMW Series 3 (โฉม E36)

ถ้าจะแทนมูลค่าของของไอโฟน X ราคาเครื่องหิ้ว ตอนนี้ก็สามารถซื้อรถยุโรปอย่าง BMW มือสองสักคันได้แล้วกับ Series 3 โฉม E36 รถซีดานขนาดกลางน่าใช้งาน มั่นใจได้ทั้งสมถรรณะของช่วงล่างและเครื่องยนต์ ภายในกว้างชวางนั่งสบาย ส่วนเรื่องอะไหล่และอู่ซ่อมก็หายห่วง ตัวเลือกทั้งอะไหล่เทียบและอะไหล่มือสองมีให้คุณซื้อหาได้อย่างเหลือเฟือ

BMW Series 3 (โฉม E36)
BMW Series 3 (โฉม E36)

E36 คือรหัสของโฉมนี้ที่ถูกปรับ พัฒนาต่อมาจากโฉม E30 ตัวถังรถมีขนาดใหญ่ขึ้น ดูทันสมัยกว่ารุ่นก่อนหน้าอีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันของรุ่นนี้คือ ”โฉมนกแก้ว” กับเครื่องยนต์ขนาด 1.6L ที่มีมากอยู่ในตลาดรถมือสอง และยังมีเครื่องยนต์ขนาดอื่นๆ ที่ใหญ่กว่าแรงกว่าให้เลือกอีกด้วย

นานาจิตตังสำหรับความชอบคงประเมินราคาไม่ได้ ต่อให้โทรศัพท์หนึ่งเครื่องราคาเป็นแสน แต่ถ้าคนชอบและกำลังเงินถึง ก็ซื้อได้ไม่ยาก แต่สำหรับบางคนเงินแสนอาจจะต้องเก็บเป็นปีๆ หรือสามารถซื้อรถยนต์ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สักคัน นำมาใช้ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้หลายชีวิต เรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนและความพร้อมของเงินในกระเป๋าเป็นสำคัญ

>> ดูเพิ่มเติม:

- เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถมือสองอายุ 10 ปี

- ซื้อรถเต้นท์หรือเล่นรถบ้าน? คิดสักนิดก่อนจะซื้อรถมือสอง