5 เหตุผลที่คนเลือกแฮทช์แบค 5 ประตูแทนซีดาน 4 ประตู!!!

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 10 พ.ย 2561
แชร์ 0

ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่ารถกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนยุคนี้ไปแล้ว และกว่าจะได้รถมาขับเป็นเต้าของซักคันก็ปวดหัวกันเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะเลือกรถยี่ห้อไหนแบบไหนดี ยิ่งรถยนต์สมัยนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลาย แถมมีตัวเลือกแบบต่างๆให้เลือกมากมาย ยิ่งเลือกยากเข้าไปใหญ่ และรถที่หลายคนกำลังลังเลก็คือ แฮชท์แบค 5 ประตูแทนซีดาน 4 ประตู

5 เหตุผลที่คนเลือกแฮทช์แบค 5 ประตูแทนซีดาน 4 ประตู!!!

5 เหตุผลที่คนเลือกแฮทช์แบค 5 ประตูแทนซีดาน 4 ประตู!!!

เชื่อว่าช่วงโบนัสออกปลายปีแบบนี้หลายคนก็คงกำลังคิดอยากจะเปลี่ยนรถใหม่ และรถที่เหมาะกับคนเมืองก็คงเป็นรถที่คล่องตัว และคำถามหนึ่งที่หลายคนต้องปวดหัวคงเป็นเรื่องของตัวถังที่หลากหลายขึ้น ที่มีให้เลือกทั้ง 4 ประตูซีดานแบบรุ่นที่เราเห็นกันปกติ พร้อมกันนี้ก็มีรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตู ที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นรุ่นยอดนิยมไปแล้ว วันนี้เราจะมาบอกเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกแฮทช์แบค 5 ประตูแทนซีดาน 4 ประตูกัน

1. ซีดาน 4 ประตูใช้งานได้ไม่หลากหลายเท่ากับแฮทช์แบค ไม่เหมาะกับคนที่มีชีวิตหลากหลาย ชอบขนนั่นขนนี่ ปรับนั่นปรับนี่ หลายคนเลยไม่อยากได้ เพราะความเป็นจริงแล้วรถยนต์ซีดานถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายความหรูหราในการเดินทาง ถ้าเน้นความสะดวกสบายก็โอเค แล้วในปัจจุบันนี้หลายค่ายก็ขยันใส่ฟังก์ชั่นเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น แต่เรื่องการใช้งานก็ยังไม่เท่าแฮทช์แบคอยู่ดี 

ซีดาน 4 ประตูใช้งานได้ไม่หลากหลายเท่ากับแฮทช์แบค
ซีดาน 4 ประตูใช้งานได้ไม่หลากหลายเท่ากับแฮทช์แบค

2. คำว่าเพิ่มพื้นที่ในรถซีดาน ถึงยังไงก็ยังไม่ดีเท่ากับแฮทช์แบค เพราะคำกล่าวที่บอกว่าเบาะพับ 60:40 ที่มาในรถซีดานนั้น ยังไงถึงคราวที่ต้องปรับพับเบาะหนักๆ ก็ยากที่จะใช้งาน ตอบโจทย์ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อีกด้านหนึ่ง การแบ่งห้องโดยสารกับห้องสัมภาระที่ชัดเจน ทำให้เก็บเสียงได้ดีกว่าที่เป็นแฮทช์แบค 

คำว่าเพิ่มพื้นที่ในรถซีดาน ถึงยังไงก็ยังไม่ดีเท่ากับแฮทช์แบค

คำว่าเพิ่มพื้นที่ในรถซีดาน ถึงยังไงก็ยังไม่ดีเท่ากับแฮทช์แบค

3. รถแฮทช์แบค 5 ประตูดูเข้ากับชีวิตคนเมืองมากกว่า หลายคนอาจบอกว่าซีดานก็โอเคไม่ได้แย่อะไร แต่ต้องยอมรับว่าคนในยุคปัจจุบันมีกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น การมีรถไม่ได้แค่มีเพื่อเดินทาง แต่ทำหลายหน้าที่ในคันเดียวได้ โดยเฉพาะเรื่องขนสัมภาระที่ดีกว่าซีดานหลายเท่าตัว ด้วยพื้นที่ที่ยาวกว่าซีดานเนื่องจากเปิดโล่งต่อเนื่องตั้งแต่พื้นจนถึงหลังคาเพดานห้องโดยสาร เลยตอบโจทย์ได้อย่างดี 

รถแฮทช์แบค 5 ประตูเข้ากับชีวิตคนเมืองมากกว่า

รถแฮทช์แบค 5 ประตูเข้ากับชีวิตคนเมืองมากกว่า

ดูเพิ่มเติม
>> พาไปดู 10 อันดับรถยนต์มือหนึ่งถูกที่สุดในไทย
>> ปี 2018 นี้รถยนต์รุ่นไหนที่ขายดีที่สุด ??

4. รถซีดานคล่องตัวไม่สูงเท่ากับแฮทช์แบค ด้วยทรวดทรงท้ายตัดของรถ ทำให้เร็วกว่า หากเป็นคนที่ชอลขับรถเร็วเน้นความคล่องตัวสูง รถแฮทช์แบคตอบโจทย์ได้ดีกว่าซีดาน เพราะท้ายจะไวกว่าซีดาน ช่วยทำให้ควบคุมรถและเข้าโค้งได้ดีกว่า เรียกได้ว่าขับสนุกกว่านั้นเอง 

รถซีดานคล่องตัวไม่สูงเท่ากับแฮทช์แบค

รถซีดานคล่องตัวไม่สูงเท่ากับแฮทช์แบค

5.ห้องโดยสารโปร่งกว่า ด้วยความที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า เลยทำให้รู้สึกว่าการขับขี่ในรถแฮทช์แบคโอเคกว่า ไม่รู้สึกอีดอัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ซีดานก็ออกแบบมาให้กว้างขวางพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่แล้ว แล้วด้วยการออกแบบของรถซีดานที่ออกแบบมาเพื่อความสบายอยู่แล้ว นี่อาจเป็นเหตุผลแค่ส่วนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วที่หลายคนเลือกแฮทช์แบคเพราะชอบความกว้างทุกส่วน พับเก็บเบาะได้ 

ห้องโดยสารแฮมช์แบคโปร่งกว่า

ห้องโดยสารแฮมช์แบคโปร่งกว่า

ความจริงแล้วรถแต่ละรุ่นแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เราไม่สามารถบอกได้ว่ารถแบบไหนดีที่สุด หรือแย่ที่สุด เพราะขึ้นกับการใช้งานของเรา ความเหมาะสมของเรา บางคนอาจชอบซีดาน แต่บางคนอาจชอบแฮทช์แบค อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะไม่ว่าจะใช้รถแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเอง แต่ถ้าอยากได้รถมือสองก็เข้าไปดูได้ที่ chobrod.com ตลาดรถยนต์มือสองที่มีให้เลือกมากมาย

ดูเพิ่มเติม
>> 8 รถมือสองราคาถูกดีที่สุดสำหรับการเป็นรถคันแรกของคุณ
>> ความแตกต่างระหว่าง Sedan & Coupe

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่