3 ข้อง่ายๆ รู้ไว้ก่อนทำสัญญามัดจำรถมือสอง
“สัญญามัดจำรถมือสอง” เป็นขั้นตอนหลังจากที่คุณเจอรถมือสองคันที่ถูกใจ และคุณจะซื้อรถคันนั้นผ่านสินเชื่อหรือซื้อผ่านไฟแนนซ์รถมือสอง ต้องมีการวางเงินจองก่อนเพื่อรอสินเชื่ออนุมัติ 3-7 วันทำการ และสิ่งที่ต้องระบุหรือเขียนเพิ่มเติมไว้ในสัญญาเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เราจะพาไปดูสิ่งที่คุณต้องทำเมื่อจะจองรถ วางมัดจำ รายละเอียดที่ต้องระบุไว้ในสัญญาว่าควรจะมีอะไรบ้าง
1. เลือกเต้นท์ที่จะซื้อรถด้วย ความน่าเชื่อถือสำคัญที่สุด
ก่อนที่จะทำสัญญา สิ่งแรกเลยคือเลือกเต้นท์ที่จะซื้อรถกับเขา ต้องน่าเชื่อถือ ก็เหมือนคุณซื้อของทั่วไป ถ้าร้านดี บริการดี ของมีคุณภาพก็น่าซื้อของด้วย แต่ถ้าร้านไหนขี้โกงก็ไม่มีใครอยากซื้อของด้วย ถูกไหม
นี่คือการยกตัวอย่างกรณีที่คุณเข้าไปซื้อรถกับเต้นท์รถมือสอง ซึ่งทางเต้นท์จะอำนวยความสะดวกให้กับคุณในด้านต่างๆ เช่น การจัดการเอกสารสำหรับการขอไฟแนนซ์ แต่คุณก็อย่าวางใจเต้นท์ทั้งหมดว่าจะมีการจัดการต่างๆ อย่างซื่อตรงทุกเต้นท์ เต้นท์ที่น่าเชื่อถือก็มีเยอะ ที่ขี้โกงก็มี จึงควรเลือกเต้นท์ที่มีความ “น่าเชื่อถือ” สักหน่อย
เลือกซื้อรถจากเต้นท์ที่น่าเชื่อถือดีที่สุด
ตรวจสอบชื่อเต้นท์นั้นๆ บน Internet ว่าเคยมีวีรกรรมที่เคยทำไว้กับลูกค้าคนอื่นๆ ที่เคยซื้อรถด้วย จนต้องนำมาเขียนประจานบ้างหรือเปล่า ถ้าขึ้นชื่นเต้นท์เดียวกับที่คุณจะซื้อก็ควรเลี่ยงที่จะทำธุรกิจด้วย เงินเป็นแสนๆ และยังอยู่ในมือของเรา ยังไงก็อย่าเสี่ยงกับเต้นท์รถที่ไม่มีความน่าเชื่อถือน่าจะดีกว่า
>> 9 จุดตรวจสอบ ดูรถมือสองยังไงให้ได้รถสวย (และสภาพดี)
>> ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ยังไง ให้มั่นใจได้มากกว่า
2. อย่าเข้าไปทำสัญญาตอนเต้นท์ใกล้จะปิด หรือแบบเร่งรีบไม่ได้ตรวจสอบสัญญาให้ดี
ถามว่าเหตุผลเพราะอะไร ก็เพราะเวลาที่เต้นท์ใกล้จะปิด ทุกๆ อย่างมันจะดูเร่งรีบไปหมด จนคุณอาจลืมหรือขาดการตรวจสอบ ไตร่ตรองอย่างละเอียดเกี่ยวกับสัญญามัดจำรถมือสอง หรือสัญญาซื้อขายจนคุณผลเสียประโยชน์ หรือถ้ารถมีปัญหาหลังจากนั้นก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้กับทางเต้นท์เพราะไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย
ตรวจสอบรายละเอียดสัญญาให้ดี ไม่ต้องรีบ เพื่อผลประโยชน์ของคุณ
3. ต้องเขียนใบจองให้ละเอียด
ทางเต้นท์ต้องระบุรายละเอียดต่างๆ ในใบจองหรือสัญญามัดจำรถมือสอง ให้ครบ ถ้าไม่เขียนระบุให้ชัดเจน อย่าวางเงินมัดจำ!!
รายละเอียดที่ต้องระบุให้ชัดๆ ได้แก่ เงื่อนไขการจอง จะได้รับเงินจองคืนไหมถ้ากรณีไฟแนนซ์ไม่ผ่าน ถ้าคืน คืนเต็มจำนวน คืนแค่ครึ่งเดียวหรือไม่คืนเลย เรื่องนี้เป็นปัญหาที่คนซื้อรถมือสองเจอกันบ่อยๆ เพราะไม่ได้ระบุไว้ในสัญญา ผู้จองก็เรียกร้องอะไรไม่ได้ถูกยึดเงินมัดจำไปหมด
ระบุรายละเอียดให้ครบเป็นรายลักอักษร ดีที่สุด
>> เอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อ-ขายรถมือสอง
คืนเงินแค่ครึ่งเดียวคืออะไร?
ข้อนี้มีไว้ใช้สำหรับผู้ซื้อที่อาจจะรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าอาจจะติด blacklist รู้อยู่แล้วว่าขอไฟแนนซ์ไม่ผ่านก็ยังให้เต้นท์ทำเรื่องขอไฟแนนซ์ ทางเต้นท์จึงยินดีคืนเงินมัดจำแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเป็นค่าเสียเวลา
ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องระบุรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจนแค่ใบจองเท่านั้น ถ้ากรณีที่ไฟแนนซ์ผ่าน เงื่อนไขสำคัญอื่นๆ ที่ต้องถูกระบุไว้ด้วยเช่นกัน.ในสัญญาซื้อขาย เช่น ค่าดำเนินการต่างๆ ค่าโอน ค่าประกัน ค่าพรบ. ภาษี ต้องคุยกับทางเต้นท์และระบุให้ชัดไปเลยในสัญญาการซื้อขาย และสำคัญที่สุดคือการรับประกันรถ ต้องระบุไปเลยว่า รับประกันรถกี่เดือน ในกรณีใดบ้าง แบบใดบ้าง ถ้าไม่เช่นนั้นคุณอาจจะปวดหัวกับการซ่อมรถที่เพิ่งได้มา กับค่าซ่อมที่เกินคาดและไม่มีคนมารับผิดชอบ
เต้นท์รถมือสองที่ดีก็มี ที่หลังจากขายรถไปแล้วเกิดปัญหาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ ช่วยจ่ายค่าซ่อมให้แม้ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาแต่เช่ือได้เลยว่าไม่เป็นแบบนั้นทุกเต้นท์หรอกครับ อย่าวางใจ ต้องมีสัญญาระบุให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า สบายใจมากกว่าเยอะ
ยังยืนยันเสมอครับ ว่าซื้อรถมือสองกับเต้นท์รถ ไม่ใช่เรื่องแย่อย่างที่ใครๆ หวาดกลัวขนาดนั้นถ้าเรารู้รายละเอียดรู้ทันเพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีเต้นท์ไหนที่โกงเราได้ง่ายๆ หรอกครับ ยิ่งถ้ามีสัญญาที่เป็นรายลักอักษรแล้ว ยิ่งง่ายที่จะเอาผิดกับพวกเต้นท์ที่ดำเนินธุรกิจอย่างไม่สุจริต ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในเรื่องการทำสัญญาไม่ว่าจะสัญญาจองหรือสัญญาซื้อขายก็กำเงินในมือคุณที่จะซื้อรถก้าวออกมาจากเต้นท์นั้นเลยดีกว่าครับ รถมือสองคุณภาพดีมีอยู่มากในตลาดรถมือสอง เลือกรถที่ดี จากผู้ซื้อที่มีมาตฐาน ไว้ใจได้ดีที่สุดครับ
