Honda jazz 2018 vs Honda civic 2018 คันไหนดีกว่ากัน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 11 ก.ย 2561
แชร์ 2

รถยนต์ยอดนิยมในกลุ่ม B และ C Segment อย่าง Honda Jazz และ Honda Civic รุ่น 2018 ก็สวยกันทั้งสองรุ่น จนบางทีก็ตัดใจไม่ถูกว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ถ้าสมมติว่ามีเงินพอที่จะซื้อได้ทั้งสองรุ่นนี้ จะซื้อรุ่นไหนดีเพราะอะไรนะ

หากนับยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยต่อปีทั้งหมด แบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากเรื่องยอดขายมากเป็นอันดับหนึ่งคือToyota ส่วนคู่แข่งที่ตามมาติดๆ คือ Isuzu และ Honda มีลูกค้าบางกลุ่มที่หลงใหลในแบรนด์นั้นๆแล้วก็ใช้แบรนด์นั้นๆมาตลอดไม่ว่าจะเปลี่ยนรถมากี่คัน โดยเฉพาะ3แบรนด์นี้ ผมเองก็เคยเจอผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ทั้งสามนี้ชนิดที่เรียกว่าแบรนด์คู่แข่งจะทำรถมาดีมาสวยแค่ไหนก็ยังใช้แบรนด์ที่ตัวเองภักดีเรื่อยมา

Honda นับเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่มีความเก่าแก่และประวัติอันยาวนานและถึงแม้จะไม่มีรถปิ๊กอัพในตลาดประเทศไทยแต่ก็สามารถทำยอดขายหายใจรดต้นคอเจ้าตลาดอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง รถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยของ Honda คือ Honda City อาจจะเป็นเพราะราคาไม่แพงและประสิทธิภาพก็พอเหมาะ แต่สำหรับคนที่ชอบรถ Hatchback Honda City อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะทาง Honda เองก็ยังไม่ได้ทำ City รุ่น Hatchback ออกมา ทำให้คนที่ชอบความสปอร์ตไสตล์ Hatchback ต้องหันไปมอง Honda Jazz ที่เหมือนเป็นพี่น้องฝาแฝดกับ Honda City เป็นหลัก นอกจากนั้นทาง Honda เองก็มีรถยนต์รุ่นในตำนานที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกเรื่อยมาคือ Honda Civic ที่มีขนาดตัวถังและเครื่องยนต์ใหญ่กว่า Honda Jazz และ Honda City แถมปัจจุบันนี้ยังมีให้เลือกทั้งรุ่น Sedan และ Hatchback อีกด้วย วันนี้เราจะมาดูความแตกต่างของทั้ง Honda Jazz และ Honda Civic กัน

เปรียบเทียบ Honda Jazz กับ Honda Civic เลือกคันไหนเพราะอะไรดี

เปรียบเทียบ Honda Jazz กับ Honda Civic เลือกคันไหนเพราะอะไรดี

เปรียบเทียบราคา Honda Jazz และ Honda Civic

ราคาของ Honda Jazz ที่มีทั้งหมด6รุ่นย่อย มีราคาเริ่มต้นที่ 555,000 บาท ในขณะที่ Honda Civic มีราคาเริ่มต้นที่ 869,000 บาท จากทั้งหมด5รุ่นย่อยรวมทั้งSedanและHatchback แค่รุ่นเริ่มต้นก็ถือว่าราคาต่างกันมากอยู่เพราะส่วนต่างราวๆ 300,000 บาทนี่ก็แทบจะเอาไปดาวน์รถใหม่อีกคันได้เลย

สำหรับรุ่นท็อปของ Honda Jazz คือ754,000 บาท และ Honda Civic รุ่นท็อปเป็น Sedanราคาก็ไปแตะล้านแล้วที่ 1,199,000 บาท นั่นทำให้ช่วงราคาต่างกันมากขึ้นไปอีกในรุ่นท็อปคือห่างกันถึง 445,000 บาท ก็เกือบๆครึ่งล้านเข้าไปแล้ว ดังนั้นจะเลือกคันไหนด้วยเหตุผลอะไรตามไปชมกันครับ 

รับข้อมูลรายละเอียดดูได้ในหมวดราคา: ราคารถ Honda 2020

เปรียบเทียบขุมกำลัง Honda Jazz และ Honda Civic

Honda Jazz เป็นรถยนต์กลุ่ม B-Segment ที่มีเครื่องยนต์มาตรฐาน 4สูบ 16วาล์ว ขนาด1.5 ลิตร i-VTEC ที่เหมือนกันทั้งหมดในบรรดา 6 รุ่นย่อย ทำให้ราคาแต่ละรุ่นต่างกันที่ฟังก์ชั่นอื่นๆนอกเหนือจากตัวเครื่อง มีกำลัง 117 แรงม้าที่ 6000รอบต่อนาที และให้แรงบิด 146 นิวตัน-เมตร ซึ่งขุมกำลังนี้ก็นับว่าเพียงพอสำหรับคนที่ต้องการมีรถยนต์ขับไปทำงานใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ขณะที่ Honda Civic นั้นมีขุมกำลังเครื่องยนต์คล้ายกันในรุ่น Hatchback คือเครื่องยนต์มาตรฐาน 4สูบ 16วาล์ว ขนาด1.5ลิตร ต่างกันที่เป็นเครื่องยนต์แบบ VTEC TURBO ทำให้ได้กำลังแรงม้ามากกว่าที่ 173 แรงม้าที่5500รอบต่อนาที และแรงบิดมากกว่าที่ 220 นิวตัน-เมตร ส่วน Honda Civic Sedan มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบคือแบบ Turbo ที่เป็นเครื่องยนต์เดียวกับรุ่น Hatchback อีกแบบคือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 4สูบ i-VTEC ที่ให้กำลัง 141แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 174นิวตัน-เมตร ในด้านขุมพลังแล้วคงต้องยอมยกให้ Honda Civic Turbo ที่เครื่องเล็กแต่ให้กำลังได้มากกว่า ใครที่ชอบเครื่องแรงๆ Honda Civic Turbo ตอบโจทย์นี้ได้เต็มๆ

ดูเพิ่มเติม
>> 
เปรียบเทียบ Nissan Almera กับ Honda City ซื้อคันไหนดี ?
>> Honda เดินหน้าผลิตรถยนต์ไฮบริดในไทย

Honda Jazz กับเครื่องยนต์ 1.5ลิตร แรงพอสำหรับชีวิตประจำวัน

Honda Jazz กับเครื่องยนต์ 1.5ลิตร แรงพอสำหรับชีวิตประจำวัน

Honda Civic เครื่องยนต์ 1.8ลิตร และ 1.5ลิตร Turbo แรงถึงใจไปอีกระดับ

Honda Civic เครื่องยนต์ 1.8ลิตร และ 1.5ลิตร Turbo แรงถึงใจไปอีกระดับ

เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอก Honda Jazz และ Honda Civic

ภายนอกของ Honda Jazz โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและไฟหน้าที่มองแล้วรู้เลยว่าวิศวกรได้คิดมาแล้วที่จะทำให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะช่วงต่อกันระหว่างไฟหน้าและกระจังหน้าโครเมี่ยมทำให้ดูลื่นไหลเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่ไฟหน้าซ้ายยาวไปจนถึงไฟหน้าขวา ไม่เพียงเท่านั้นยังเชื่อมโยงให้เข้ากับรอบคันรถได้อีกด้วย สังเกตด้านข้างของตัวรถที่ประตูทุกบานจะมีลายเส้นตามแนวนอนที่สอดรับกับไฟหน้าให้เห็นภาพรวมกลมกลืนทั้งคันอีกด้วย ส่วนHonda Civicจะมีกระจังหน้าโครเมี่ยมที่เห็นพื้นผิวของโครเมี่ยมมากกว่าและเป็นฐานรองให้กับโลโก้ด้านหน้ารถพอดี ขนาดของพื้นผิวโครเมี่ยมก็พอๆกับความโฉบเฉี่ยวของไฟหน้าทั้งซ้ายขวาทำให้มองด้านหน้าแล้วกลมกลืนกันไปในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนท้ายของรถก็ออกแบบให้คงความเป็น Civic ได้ไม่ว่าจะเป็น SedanหรือHatchback นับว่า Honda คัดสรรแนวคิดในการออกแบบรถของตัวเองได้ดีจริงๆทั้ง Honda Jazz และ Honda Civic

ภายนอกของ Honda Jazz ที่ลงตัวรอบคัน

ภายนอกของ Honda Jazz ที่ลงตัวรอบคัน

ภายนอกของ Honda Jazz ที่ลงตัวรอบคัน

ภายนอก Honda Civic ที่ทำได้ดีไม่แพ้รุ่นน้อง

ภายนอก Honda Civic ที่ทำได้ดีไม่แพ้รุ่นน้อง

เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายใน Honda Jazz และ Honda Civic

สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นสิ่งคู่รถกลุ่ม B-Segment คือเบาะยังคงเป็นแบบผ้า แต่ก็ดีตรงที่โดนแดดแล้วไม่ร้อน ข้อเสียคือทำความสะอาดยากกว่าเบาะหนัง นั่นก็คือทุกรุ่นย่อยของ Honda Jazz เป็นเบาะผ้าทั้งหมด ส่วน Honda Civic จะมีเฉพาะรุ่นล่างสุดเท่านั้นที่เป็นเบาะผ้า นอกนั้นจะเป็นเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในบางจุดรวมไปถึงพวงมาลัยก็หุ้มหนังเช่นกัน ส่วนดีไซน์ภายในต้องบอกเลยว่า Honda ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องความสวยงามภายในที่ออกแบบเน้นสีดำเพื่อความหรูหราทั้ง Honda Jazz และ Civic โดยที่มุมมองต่างๆจากหน้าจอทั้งเครื่องเสียงและหน้าจอ MID ที่มิเตอร์ก็ออกแบบให้องศารับกับผู้ขับมากที่สุด ทำให้ภายในของทั้ง 2 รุ่นนี้มีกลิ่นอายที่คล้ายกันอยู่มากจะต่างกันก็เรื่องของวัสดุนั่นเอง

ภายใน Honda Jazz ที่เป็นเบาะผ้าพร้อมสีโทนดำให้ความหรูหรา

ภายใน Honda Jazz ที่เป็นเบาะผ้าพร้อมสีโทนดำให้ความหรูหรา

Honda Civic ที่ใช้สีโทนดำพร้อมวัสดุที่หรูหรามากขึ้นเช่น เบาะหนัง, พวงมาลัยหุ้มหนัง

Honda Civic ที่ใช้สีโทนดำพร้อมวัสดุที่หรูหรามากขึ้นเช่น เบาะหนัง, พวงมาลัยหุ้มหนัง

เปรียบเทียบอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Honda Jazz และ Honda Civic

เรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเครื่องเสียงต้องบอกเลยว่าอะไรที่ Honda Jazz มี Honda Civic ก็มีครอบคลุมหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัส, Bluetooth, สวิทช์ควบคุมที่พวงมาลัย, การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน, Paddle Shift, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, ช่องต่อ HDMI, USB ส่วนสิ่งที่ Honda Civic มีมากกว่าหลักๆจะเป็นเรื่องความสามารถที่เพิ่มขึ้นเช่น รองรับระบบ Apple CarPlay จำนวนลำโพงที่มีมากถึง 8 ตำแหน่ง (หน้า4หลัง4) และระบบนำทางที่มีในรุ่นท็อปของ Honda Civic อีกระบบหนึ่งที่น่าสนใจและมีในHonda Civicทุกรุ่นย่อยแต่ไม่มีในHonda Jazzก็คือระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท เรียกได้ว่าถ้านับความครบครันแล้วก็ถือว่าสูสีกันทั้งคู่ต่างกันตรงประสิทธิภาพ

หน้าจอสัมผัสใน Honda Jazz

หน้าจอสัมผัสใน Honda Jazz

หน้าจอสัมผัสใน Honda Civic

หน้าจอสัมผัสใน Honda Civic

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Honda Jazz และ Honda Civic

สำหรับระบบความปลอดภัยในยุค 2018 กลุ่ม B-Segment และ C-Segment ก็ถือว่ามีระบบความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety บางอย่างก็ได้กลายเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยไปแล้วทั้ง2Segment เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA), สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ กล้องมองหลังปรับมุมมองได้3ระดับ, ถุงลมคู่หน้า และม่านถุงลมด้านข้างก็มีให้ในรุ่นท็อปของทั้ง Honda Jazz และ Honda Civic เรียกได้ว่ารุ่นน้องอย่าง Honda Jazz ก็ใส่ระบบความปลอดภัยตามรุ่นพี่มาติดๆ ส่วนสิ่งที่รุ่นพี่อย่าง Honda Civic มีมากกว่าก็คือ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา(Honda Lane Watch), ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

กล้องมองหลังปรับมุมได้ 3 ระดับทั้ง Jazz และ Civic

กล้องมองหลังปรับมุมได้ 3 ระดับทั้ง Jazz และ Civic

Honda Lane Watch ที่ช่วยให้มองเห็นมุมที่อยู่ในจุดอับสายตา (ในรูปกล้องซ้ายจะทำให้มองเห็นคนที่ยืนอยู่)

Honda Lane Watch ที่ช่วยให้มองเห็นมุมที่อยู่ในจุดอับสายตา (ในรูปกล้องซ้ายจะทำให้มองเห็นคนที่ยืนอยู่)

เปรียบเทียบภาพรวม Honda Jazz และ Honda Civic

ในแง่ของความสวยงามออกแบบมาได้ดีทั้งคู่เมื่อเทียบกับคู่แข่งในSegmentเดียวกันเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าแน่นอน แต่ถ้าเทียบกันเองระหว่าง Honda Jazz และ Honda Civic เรื่องความสวยงามก็มีกลิ่นอายของ Honda ที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนเลย ส่วนเรื่องความสะดวกสบายนั้นถือว่าอุปกรณ์พื้นฐานมาพร้อมกันทั้งคู่อยู่ที่ประสิทธิภาพที่ทาง Honda Civic อาจจะเหนือกว่าเช่นเรื่องเครื่องเสียงที่น่าจะได้มิติของเสียงมากกว่า หรือเรื่องความสะดวกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ในระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศ ถ้าชอบความสะดวกสบายเป็นหลัก Honda Civic จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า สำหรับเรื่องความปลอดภัยด้านพื้นฐานไม่ได้หนีกันมากจะต่างกันตรงที่ Honda Civic มีเทคโนโลยีใหม่ๆใส่มาด้วยเช่น Honda Lane Watch ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยราคาที่ต่างกันราว400,000บาทสำหรับรุ่นท็อปก็ต้องหันกลับมาดูที่ใจเราว่าต้องการความหรูหราสะดวกสบายพร้อมกับขุมกำลังที่มากขึ้นหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ก็เลือกไปทาง Honda Civic ได้เลยเพราะหรูกว่า เทคโนโลยีใหม่กว่า และเครื่องแรงกว่าแบบเห็นๆ ส่วนใครที่จะเก็บเงิน  400,000บาท ไปใช้แต่งรถ Honda Jazz ในแง่มุมอื่นๆโดยไม่ได้สนเรื่องความแรงของเครื่องและเทคโนโลยีใหม่ๆมากนัก การเลือก Honda Jazz ก็นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากตัวเลือกหนึ่งพร้อมกับแบรนด์ที่ไว้วางใจได้ในตลาดประเทศไทย

เพื่อนๆชาว Chobrod คงเห็นความต่างของ Honda Jazz และ Honda Civic ได้ชัดเจนขึ้นแล้วนะครับว่าจุดแตกต่างของรถทั้งสองรุ่นนี้จะตอบโจทย์ความต้องการของเราได้หรือไม่ เพราะต่อให้จ่ายเงินมากกว่าหรือน้อยกว่าแต่มันไม่ตอบโจทย์ สุดท้ายซื้อมามันก็ไม่ใช่อยู่ดี หวังว่าข้อมูลตรงนี้จะช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ