เปรียบเทียบรถ 7 เบาะน่าใช้ Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V คันไหนใช่สำหรับรถครอบครัวยุคใหม่ที่สุด?

เปรียบเทียบรถ 7 เบาะน่าใช้ Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V คันไหนใช่สำหรับรถครอบครัวยุคใหม่ที่สุด?

วันนี้ Chobrod ขอพาทุกคนที่รักครอบครัว และกำลังมองหารถสักคันที่ไปไหนไปกันทั้งบ้าน ไม่มีหวั่น แม้วันคนมาก อย่าเถียงว่า Crossver เพียวๆ อย่าง Honda HR-V หรือ Toyota C-HR ภายในนั่งสบายกว่าเมื่อเทียบกับรถ 7 ที่นั่ง MPV (แมจะนั่งแค่ 5) และจะดีกว่าไหม? ถ้าได้รถนั่งสบายๆ ถึง 7 ตำแหน่งแล้ว แถมยังให้อารมณ์ความเป็น Crossover ด้วยในตัว ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V Chobrod จะนำมาเปรียบเทียบให้รู้กันว่าคันไหนใช่ และควรจะมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวของคุณ

พิกัดเครื่องยนต์และขนาดใกล้ที่เคียง พร้อมการใช้งาน 7 เบาะจุดใจไปไหนไปกัน

1.เปรียบเทียบภายนอก Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

Mitsubishi Xpander

แม้ตัวจริงในไทยยังไม่มา แต่ความถวิลหาอยากรับรถรุ่นนี้มีมากหลายหลาก Xpander ที่ทำยอดขายถล่มถลายในประเทศเพื่อนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอินโดฯ หรือฟิลิปปินส์ จากจำนวนการจองที่มากแบบตลาดแตก พาให้การมาถึงของ Xpander ในไทยดีเลย์ไปด้วย ด้วยดีไซน์สุดล้ำที่มากับแนวคิด Dynamic Shield Design ของ Mitsubishi สานต่อความงดงาม ล้ำสมัยแบบสุดโต่งของรุ่นต้นแบบอย่าง XM Crossover MPV แบบถอดร่างอวตารกันมา ระดับไฟสามชั้นไล่มาตั้งแต่ฝากระโปรงกับไฟหน้าแบบ LED พร้อมกับโคมไฟ LED Daytime Running ไล่ลงมาตรงกลางจะไฟหน้าขนาดใหญ่ และล่างสุดกับไฟตัดหมอก ซุ้มล้อขนาดใหญ่ทำให้พาคิดไปว่ารถรุ่นนี้เป็น Crossover ก็ผิดไม่ ประกอบเข้ากับเส้นสายที่ด้านข้างอย่างลงตัว บรรจบที่กับไฟท้ายแบบ LED ที่ถอดแบบดีไซน์จากเช่นเดียวกับ XM Crossover MPV มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วรัดด้วยยางแก้มสูงขนาด 205/55 เพื่อให้อารมณ์ความเป็นรถ SUV มีมากขึ้น

ดูเพิ่มเติม:
>> Mitsubishi Xpander 2018 ส่งออกมาจากอินโดนีเซีย คาดว่าจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้
>> มาแล้วอีกประเทศ Mitsubishi Xpander 2018 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในฟิลิปปินส์

XM Crossover MPV ตัวต้นแบบของ Xpander

จนมาเป็น Xpander ที่ดีไซน์ไม่แตกต่าง มาในแบบ Copy And Paste

Honda BR-V

จากความสำเร็จของ SUV ภายในค่ายทำให้ Honda ประเทศไทยต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัว Honda BR-V เพื่อหวังครอบคลุมผู้ใช้งานที่ต้องการแค่มากกว่าความสวย แต่อรรถการใช้งานประโยชน์รอบด้าน ด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่เน้นความสปอร์ต กระจังโครเมี่ยมพิมพ์นิยมดีไซน์ Solid Wing จาก Honda ผสานกับไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่ภายในโคมแบบ LED และลงล่างสุดที่ไฟตัดหมอก เส้นสายลูกเล่นเริ่มมาตั้งแต่กันชน ไปจนข้างตัวรถ ซุ้มล้อสีดำด้านขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่จนหน้ากลัวดูเป็นรถออฟโรดหรือบางเกินไปจนดูไร้ที่มา ทำให้รู้สึกถึงความเป็นรถครอสโอเวอร์ได้อย่างดีเยี่ยม หลังคาลาดลงพร้อมราวหลังคาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ทุกรุ่น ไฟท้ายแบบยาวจากฝั่งถึงอีกฝั่งให้อารมณ์ความเป็นรถยุโรปได้ไม่น้อย ล้อใช้เป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วที่มากับยางขนาด 195/60

BR-V เน้นมาในความเป็นครอสโอเวอร์ที่ตัวรถใหญ่ขึ้นตามจำนวนเบาะ

เทียบมิติของตัวรถภายนอก Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

• ความยาวตัวถัง (mm.) ::   Mitsubishi Xpander(4475), Honda BR-V(4456)
• ความกว้างตัวถัง (mm.) ::  Mitsubishi Xpander(1750), Honda BR-V(1735)
• ความสูงตัวถัง (mm.) :: Mitsubishi Xpander(1700), Honda BR-V(1666)
• ระยะฐานล้อ (mm.) :: Mitsubishi Xpander(2775), Honda BR-V(2655)

เทียบมิติของทั้งสองรุ่น Xpander ใหญ่กว่าทุกมิติ

มิติตัวถังใกล้เคียงพอฟัดพอเหวี่ยงทั้งคู่ แม้เรื่องดีไซน์ในบางจุดของ Xpander เช่นเรื่องความชันของฝากระโปรงจะทำให้รถดูใกล้เคียงความเป็น MPV อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังแฝงความเป็นครอสโอเวอร์มาให้อยู่พอสมควรกับบางจุดดีไซน์ และสำหรับของ BR-V ก็เช่นเดียวกัน ความหนาของสัดส่วนพื้นที่กระจกประตู เมื่อมองจากด้านข้าง อาจทำให้รู้สึกแปลกๆ ทำให้ความเป็นสปอร์ตลดลง แต่ยังมีดีที่โป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ และความลาดชันของหลังคาเข้ามาช่วยทำให้รถดูดียิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกความเป็นครอสโอเวอร์ได้มากกว่า Xpander โดยรวมถือว่าสวยไม่แพ้กัน เจ้าหนึ่งดีไซน์ล้ำแบบเอนไปทาง MPV อีกฝ่ายสวยแบบเฉพาะตัวให้ความเป็นครอสโอเวอร์มากกว่า ยกนี้จึงให้เสมอกัน กินกันไม่ลงจริงๆ

2.เปรียบเทียบภายใน Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

Mitsubishi Xpander

ภายในที่ดีไซน์ใหม่หมด ไม่อิงรุ่นไหนที่เคยมีมา ผสานการตกแต่งด้วยวัสดุที่หลากหลายทั้งลายไม้ เปียโนแบล็ค และหนังให้เข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หรือจะเลือกอีกหนึ่งเฉกที่ดูทันสมัยกว่าที่เน้นไปกับสีดำ-เทาก็สามารถ เรื่องความสะดวกสบายจากความกว้างภายในตัวรถคือจุดเด่นสำคัญกับเบาะนั่งแบบ 3 แถว 2,3 สามารถปรับพับให้ราบเรียบลงไปได้เมื่อครั้งต้องการบรรทุกสิ่งของปริมาณมากๆ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารเบาะหลังอีก 4 ช่อง เย็นสบายแบบทั่วถึง ครบครันทุกการใช้งานด้วยอุปกรณ์ความสะดวกบวกความบันเทิงมากมายดังต่อไปนี้

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
• ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Operation System (KOS)
• ปุ่ม Push-Start
• หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ สี 3 มิติ
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส Touchscreen (ไม่ระบุขนาดหน้าจอ)พร้อมเชื่อมต่อทุกความบันเทิง USB, Bluetooth
• ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
• เบาะนั่ง 7 ตำแหน่ง
• เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60 : 40 (ตรงกลางพับเป็นที่วางแขน), เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับ 50 : 50

2 สไตล์การตกแต่งภายใน พร้อมรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายของ Xpander

Honda BR-V

พร้อมด้วยดีไซน์ในแบบฉบับของค่าย ทำให้รู้สึกได้ทันทีที่เข้าไปนั่งว่านี่แหละคือภายในของ Honda ที่มากับโทนสีตกแต่งด้วยสีดำ เน้นความล้ำสมัยควบไปกับความหรูเรียบ ด้วยเบาะหนังแท้ผสมวัสดุสังเคราะห์ พวงมาลัย หัวเกียร์ก็ถูกแต่งด้วยการหุ้มหนังมาให้ด้วย ดีเด่นตรงที่มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) ติดเครื่องเปิดแอร์รอไว้ได้ เครื่องเสียงภายในให้มาพร้อมรองรับทั้งระบบ iOS และ Android เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้ตามต้องการทั้ง Bluetooth, HDMI, USB และ AUX โดยอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน BR-V มีดังต่อไปนี้

• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
• ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator)
• เครื่องเสียงรองรับได้ทั้ง iOS, Android และ HDMI
• เบาะนั่ง 7 ตำแหน่งในรุ่น SV (มีรุ่นเบาะ 5 ตำแหน่งให้เลือกด้วย)
• เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60 : 40 (ตรงกลางพับเป็นที่วางแขน), เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับไปข้างหน้าแบบ 50 : 50

7 ที่นั่งพร้อมลูกเล่นการใช้งานพอกันสำหรับ Honda BR-V แต่รายละเอียดของในเรื่องความกว้างอาจเป็นรอง Xpander

แม้จะออกแบบมาได้สวยด้วยตัวเลือกของสีภายในสองเฉด สีเบจและสีดำใน Xpander แต่ถ้ามองในเรื่องความหรูหราทาง BR-V ดูจะมี ความได้เปรียบอยู่นิดๆ อีกทั้งเรื่องวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งหรือใช้งาน เช่นเบาะหุ้มหนัง หรือแม้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่ทาง BR-V ให้มาคือตัวเรียกคะแนนชิงความได้เปรียบได้เป็นอย่างดี แต่ถ้ามองในเรื่องความกว้างของภายใน อิงตามมิติตัวถังซึ่งระยะฐานล้อ Xpander ยาวกว่าถึง 100 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าพื้นที่ในห้องโดยสาร พื้นที่วางขาของเบาะแถวหลังทั้งตอน 2,3 จะมีให้มากกกว่าด้วย ถ้ามองในแง่ความเป็นรถ 7 ที่นั่งที่ราคาระดับนี้ สำคัญในการใช้งานและการตัดสินใจซื้อคือเรื่องของความกว้างภายในห้องโดยสารเป็นหลัก ยกนี้จึงต้องยกให้ Mitsubishi Xpander เป็นฝ่ายเข้าวินไปตามเงื่อนไขข้อกำหนด

3.เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

Mitsubishi Xpander

ในเรื่องขุมกำลัง Xpander มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4A91 ความจุ 1.5L MIVEC แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed ระบบกันสะเทือนด้านหน้าใช้เป็นแบบแมคเฟอสันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชันบีม เบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์ และหลังเป็นดรัมเบรก

เครื่องเล็กไปหรือเปล่า? กับม้าแค่ 104 ตัวใน Xpander แต่ถ้าแค่ขับใช้งานไม่เร่งรีบก็พอไหว

Honda BR-V

BR-V มาพร้อมเครื่องยนต์รหัสที่สาวก Honda คุ้นเคย L15Z1 เบนซิน 4 สูบ 1.5L SOHC 16 วาล์ว พร้อมหัวฉีดอีเล็กโทรนิกส์ PGM-FI ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า Drive-By-Wire (DBW) เด่นที่ระบบแปรผันวาล์วแบบ i-VTEC กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 117 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับการใช้น้ำมัน E85 ระบบกันสะเทือนแม็กเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้า และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape เบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์ และหลังเป็นดรัมเบรก

เครื่องแรงม้าให้มามากกว่า สำหรับ Honda BR-V

ให้มาค่อนข้างจะสูสีทั้งระบบกันสะเทือนช่วงล่าง และระบบเบรก ต่างที่เครื่องยนต์เพียงเล็กน้อยที่แรงม้า และแรงบิดซึ่งดูเหมือนว่า BR-V จะมาเหนือกับแรงม้าที่เยอะกว่าถึงสิบกว่าตัว นั่นหมายถึงอัตราเร่งทั้งตอนที่ผู้โดยสารเยอะๆ 5 คน 7 คนก็ต้องดีกว่าในตอนขับขี่ ลองไปดูที่น้ำหนักตัวรถกันเพิ่มเติมว่าแต่ละรุ่นน้ำหนักแตกต่างกันมากแค่ไหน

• Mitsubishi Xpander น้ำหนักรถ ::1780 กิโลกรัม
• Honda BR-V น้ำหนักรถ ::1241 กิโลกรัม

แล้วเมื่อมองที่น้ำหนักตัวไม่น่าเชื่อว่า Xpander จะหนักกว่ามาก นั่นแสดงถึงความได้เปรียบของ BR-V ในเรื่องการขับขี่ อัตราเร่งแซงในบางจังหวะจะทำได้ดีกว่า แต่สำหรับบางคนที่มองในเรื่องการขับขี่เน้นใช้งานแบบเนิบๆ ไม่เน้นแรง ผู้ใหญ่นั่งเยอะค่อยๆ ไปกับเครื่องยนต์ที่ Xpander ให้มาก็ถือว่าเพียงพอ และแน่นอนว่าเครื่องยนต์เล็กแต่ตัวรถหนักกว่า เรื่องการกินน้ำมันก็ต้องมากกว่าด้วยเป็นธรรมดา ยกนี้ในเรื่องภาพรวมของเครื่องยนต์และสมรรถนะ BR-V ดูจะได้เปรียบกว่าเห็นๆ จึงต้องยกคะแนนในหัวข้อนี้ให้เป็นของ Honda BR-V เป็นฝ่ายชนะไป

4.เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

Mitsubishi Xpander

ระบบความปลอดภัย ต้องอิงจากเวอร์ชั่นในประเทศที่รุ่นนี้มีจำหน่ายแล้ว ซึ่งก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าเมื่อมาขายจริงในไทย ทางค่ายจะตัดฟีเจอร์อะไรออกไปบ้างหรือเปล่า ซึ่งคะแนนจากการทดสอบระดับความปลอดภัยในเรื่องของการชนของ Xpander ได้สูงระดับ 4 ดาวจาก ASEAN NCAP และระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจของ Xpander(เวอร์ชั่นจำหน่ายในฟิลิปปินส์) มีดังต่อไปนี้

• ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
• ไฟเบรคกระพริบฉุกเฉิน Emergency Stop Signal (ESS)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• กล้องมองหลัง

Xpander กับผลทดสอบการชนระดับ 4 ดาว

Honda BR-V

ในเรื่องทดสอบการชน BR-V ทำได้ดีกว่าระดับ 5 ดาวโดยผลการทดสอบจาก ASEAN NCAP พร้อมกับความปลอดภัยตามมาตรฐานรถยุคนี้ควรมีทั้งสิ้น โดยระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจของ BR-V มีดังต่อไปนี้

• ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)    
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• กล้องส่องภาพด้านหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
• ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock By Speed)

ทดสอบการชน BR-V คะแนนรวมได้มาตรฐาน 5 ดาวเหนือกว่า Xpander

เมื่อดูแล้วสิ่งที่ให้มากับทั้งสองรุ่น ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ความปลอดภัย มาตรฐานที่รถสมัยนี้ต้องมีเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรหวือหวาดูน่าสนใจกว่ากันเท่าไร หรือแม้แต่พวกเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเช่น กล้องช่วยจับเตือนก่อนการชน, ป้องกันการขับออกนอกเลนถนน นั่นเป็นเพราะทั้งสองรุ่นจำเป็นต้องคลุมราคาให้ตัวรถไม่แพงเกินไป ให้อยู่ในระดับกลางที่ทุกครอบครัวเอื้อมถึงและตัดสินใจซื้อได้ง่าย การจะมีระบบความปลอดภัยล้ำๆ แม้จะทำให้รถดูโดดเด่นกว่าคู่แข่งก็จริง แต่มันก็ทำให้ราคาค่าตัวแพงกว่าคู่แข่งด้วยเช่นกัน ยกนี้ตีไปให้ว่าเสมอกัน กินกันไม่ลงอีกยกสำหรับ Mitsubishi Xpander และ Honda BR-V

5.สรุปคันไหนดีระหว่าง Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V

ฝ่ายหนึ่งตัวจริงยังไม่มีวางขาย อีกฝ่ายทำตลาดได้สักระยะ สำหรับ Xpander ที่มีดีที่น่าตา และดีไซน์ จนยอดจองตลาดแตก แต่นั่นก็ไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าเมื่อนำมาขายเมืองไทยแล้วยอดขายจะเปรี้ยงป้าง สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงรถประเภท “กำกวม” อย่าง BR-V ที่ต้องการควบตลาดทั้ง Crossover และ MPV 7 ที่นั่ง จะพบว่ายอดขายไม่ได้เด่นดังเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับยอดขายของรถที่เป็น Crossver จริงๆ แต่เมื่อนำยอดขายไปเทียบกับตลาด MPV 7 ที่นั่งก็ยังถือว่า BR-V อยู่ในระดับสูสีกับที่หนึ่งในตลาดอย่าง Toyota Sienta แสดงให้เห็นว่า ยังมีลูกค้าที่หลายๆ คนสนใจในรถประเภท 7 ที่นั่งอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังอยากได้รถดีไซน์เท่ๆ สวยๆ แบบ Crossover อยู่ ซึ่งเมื่อ Xpander ลงจอดทำตลาดที่ไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไร (คาดว่าจะไม่เกินในปี 2018 นี้) จะกลายมาเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่แย่งยอดขาย BR-V ได้อย่างแน่นอน

7 ที่นั่งสไตล์ไหนโดนใจคุณที่สุดจะเป็น Xpander หรือ BR-V

ซึ่งเมื่อมองที่รายละเอียด ของทุกด้านเปรียบเทียบแล้ว ภายใต้เงื่อนไขของคำว่า “ภายในกว้างสบาย” Xpander เด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ในเรื่องเครื่องยนต์จะด้อยกว่าที่กำลังเมื่อเทียบกับ BR-V แต่เป็นรถครอบครัวจะเอาแรงแค่ไหนเชียว? ในเรื่องน้ำหนักตัวรถที่มากกว่า BR-V ซึ่งอาจจะทำให้กินน้ำมันมากกว่า ต้องดูผลการทดสอบอัตราการกินน้ำมันที่ชัดเจนอีกที หรือแม้แต่เรื่องของดีไซน์ภายนอกที่อาจจะให้ความเป็นครอสโอเวอร์น้อยหน่อย และมีกลิ่นอายความเป็น MPV มากกว่า จึงขอสรุปแบบชัดเจนไปเลยว่าทั้งสองรุ่นนี้เมื่อเทียบกันระหว่าง Mitsubishi Xpander กับ Honda BR-V ใครที่อยากได้รถภายในกว้าง ดีไซน์สวยล้ำทั้งนอกและใน ไม่ติดเรื่องความแรง และสดใหม่กว่าจิ้มเลือกไปที่ทาง Mitsubishi Xpander ส่วนใครที่อยากได้รถให้พอนั่ง 7 คนได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเป็นรถครอสโอเวอร์ให้จิ้มเลือกไปที่ทาง Honda BR-V

ดูเพิ่มเติม:
>> เล็ง! 5 จุดเด่น Mitsubishi Xpander 2018 ที่หลายคนรอคอย
>> รอหน่อย Mitsubishi Xpander 2018 มาไม่ทันเปิดตัวมอเตอร์โชว์

แล้วคุณละเลือกชอบคันไหนสำหรับรถ 7 ที่นั่งสวยๆ อุปกรณ์ครบตามเทรนด์ ทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัยมั่นใจได้ บอกกับเรา Chobrod หน่อยใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย