สุดยอดสปอร์ตคาร์ระดับ 500 ม้าการันตีปี 2018

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 14 พ.ค 2561
แชร์ 1

จะเข้ากลางปีแล้ว พร้อมกับข่าวสารในโลกยานยนต์มากมายทั้งรถซีดาน รถครอบครัว รถกระบะแต่ถ้าว่าด้วยเรื่องรถสปอร์ตตัวแรงที่เปิดตัวมาไม่นานมานี้ รุ่นไหนฮาร์ดคอร์ ดิบ และแรงสุด ที่ม้าระดับ 500 ตัวการันตีว่ามีให้ใช้แน่นอน เชื่อได้เลยว่าหนุ่มๆ ที่ชื่นชอบในเรื่องรถ ก็คงอยากจะรู้ว่าในปี 2018 นี้มีสปอร์ตตัวแรงรุ่นไหนบ้านที่หน้าสนใจ วันนี้ Chobrod จะพาไปติดตาม

สุดยอดสปอร์ตคาร์ระดับ 500 ม้าการันตี ปี 2018

สุดยอดสปอร์ตคาร์ระดับ 500 ม้าการันตี ปี 2018

และ 5 โมเดลที่เราจะนำเสนอนี้ แต่ละคันล้วนขึ้นชื่อในเรื่องความแรง โหด-ดิบ-เถื่อน ระดับม้าไม่ต่ำกว่า 500 ตัวทั้งสิ้น เว้นวรรคจากเงื่อนไขความประหยัดน้ำมัน ปล่อยผ่านในเรื่องการนั่งสบายหรูหรา Luxuly เงียบสนิทออกไปให้หมด แล้วมาสั่นสะท้ายกัลเสียงเครื่องยนต์เร้า ดูในเรื่องความแรงกันแบบเน้นๆ พร้อมความตื่นตาตื่นใจที่คุณจะไม่ได้สัมผัสกันง่ายๆ ในรถ SUV หรือ Sedan ทั่วไป สูดหายใจให้เต็มปอดแล้วพร้อมหลังติดเบาะไปกับแรงทอร์คจากสุดยอดสปอร์ตคาร์เหล่านี้กันได้เลย

Porsche 911 GT2 RS

การให้ความสำคัญในเรื่องของการขับขี่ที่สนุกกว่า และลงตัวกับ Performance จากพื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับรุ่น 911 Turbo ส่งผลให้รถรุ่นนี้ได้รับถูกจับตามองเป็นอย่างมาก คำตอบสุดท้ายที่มาจากคำถามมากมายว่าสปอร์ตคันไหนมันใช่ที่สุด และควรค่าแก่การจ่ายเงินก้อนโต เพื่อผลตอบแทนในเรื่องของสมรรถนะ ความแรง และความตื่นเต้นทุกเสี้ยวเวลาที่เท้าสัมผัสกับคันเร่ง คำตอบก็อยู่ที่รถคันนี้แหละกับ Porsche 911 GT2 RS

Porsche 911 GT2 RS แรงสุดในศักดินา 911


Porsche 911 GT2 RS แรงสุดในศักดินา 911

กับน้ำหนักตัวที่ถูกปรับปรุงให้เหลือเพียง 1470 กิโลกรัม ไม่ยากเลยที่เครื่องยนต์ขนาด 3.8L แบบ 6 สูบนอน ทวิน-เทอร์โบชาร์จบล็อคนี้ พร้อมกับม้าอีกถึง 700 ตัว พุ่งทะยานออกไปอย่างง่ายดาย กับความสามารถในการควบคุมอันยอดเยี่ยมไม่แพ้สปอร์ตหรูรุ่นอื่นๆ ผลจากการจัดการในเรื่องของน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็น และบาลานซ์ระหว่างเครื่องยนต์กับตัวรถให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ส่งให้ Porsche 911 GT2 RS คันนี้ที่ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นแท่นเป็นรถ จาก Porsche ในโหมด 911 ที่แรงสุดในขณะนี้เลยทีเดียว

McLaren 675 LT

หนึ่งในรถหลายคนถวิลหา ไม่ต้องพิมพ์นิยมอย่างใครทั้ง Ferrari, Lamboghini แต่ชื่อนี้ก็สร้างความน่าเกรงขามได้พอๆ กันกับ McLaren 675 LT ที่สานต่อความร้ายกาจต่อจาก 650S ซึ่ง LT นี้ย่อมาจาก “Long Tail” เผยโฉมมาตั้งแต่ช่วงปี 2015 งานเจนีวามอเตอร์โชว์ แต่ยังสร้างเสียงฮือฮาได้ตลอดกับรุ่นใหม่ สีใหม่ที่มีการอัพเดทอยู่ทุกปี
ดูเพิ่มเติม:
>> 
เปิดตัว! Porsche 911 Turbo S รุ่นพิเศษ สีทองเมทัลลิคสุดหรู
>> “รถสปอร์ตในฝัน” ราคาไม่ถึงล้าน รุ่นไหนบ้างที่ตรงใจคุณ

McLaren 675 LT พัฒนาปรับปรุงจนเป็นหนึ่งซูเปอร์คาร์ที่เบาสุด

McLaren 675 LT พัฒนาปรับปรุงจนเป็นหนึ่งซูเปอร์คาร์ที่เบาสุด

กับพลังอันเกี้ยวกราดจากเครื่องยนต์บล็อก V8 ขนาด 3.8L พร้อมอัดลมด้วยใบพัดจากทวินเทอร์โบที่ทาง McLaren เผยว่านี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า 650S รวมไปถึงน้ำหนักตัวที่เบากว่ารุ่น 650S ถึงกว่า 100 กิโลกรัม และขึ้นชื่อว่าเบาที่สุดเมื่อเทียบกับรถซูเปอร์คาร์ด้วยกันหลายๆ รุ่น เมื่อแตะคันเร่งเพื่อปล่อยฝูงม้ากว่า 666 ตัว อาจทำให้ใครที่นั่งในรถรู้สึกหวิวๆ ได้ตลอดเวลา กับความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาไม่ถึง 3 วิ! และความเร็วสูงสุดที่ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น่าจะเป็นเครื่องหมายเตือนให้เหล่า Supercar ทั้งหลายที่เจอ McLaren 675 LT คันนี้อยู่บนท้องถนนอย่าคิดไปแหยมด้วยน่าจะดีกว่า

Lamborghini Huracán Performante

เจ้ากระทิงตัวดุคันนี้ถูกเผยโฉมเมื่อช่วงปี 2017 ที่เจนีวามอเตอร์โชว์ ที่มาพร้อมกับชิ้นส่วน และโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันแบบเฉพาะของ Huracán Performante เองที่ช่วยลงน้ำหนักไปได้กว่า 40 กิโลกรัม

อาจจะดูเหมือน Lamborghini ทั่วๆ ไป แต่ Performante คันนี้แตกต่างที่รายละเอียด

อาจจะดูเหมือน Lamborghini ทั่วๆ ไป แต่ Performante คันนี้แตกต่างที่รายละเอียด

เครื่องยนต์ที่ถูกปรับปรุงใหม่จากรุ่น Huracán เดิม บล็อก NA ไม่มีเทอร์โบเข้ามาช่วยแบบ V10 แต่พละกำลังช้างสารที่รีดออกมาก็ปาเข้าไปกว่า 640 แรงม้าแล้ว และแรงบิดอีกมากถึง 600 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที กับนำ้หนักสุทธิของเจ้า Performante คันนี้หนักเพียง 1,382 กิโลกรัมอัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 2.9 วินาที พร้อมกับความเร็วสูงสุดที่ทำได้มากกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของ น่าจะทำให้คุณพอนึกออกว่าเจ้า Lamborghini Huracán Performante คันนี้แรงแบบฮาร์คอร์มากแค่ไหน  

BMW M4 GTS

กับ 700 คันในโลก และในไทยมีเพียงแค่ 2! น่าจะบอกได้กลายๆ แล้วว่ารุ่นนี้พิเศษสุดแค่ไหน อีกหนึ่งรุ่นฉลองครบรอบ 30 ปีในรถตระกูล M ที่เริ่มแรกมาตั้งแต่ E30 M3 ปี 1988 ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของจำนวนตัวรถเท่านั้น แต่ยังหมายถึงจำนวนแรงม้าที่มหาศาลอีกด้วยกว่า 500 แรงม้า ที่มาพร้อมกับแรงบิด 600 นิวตันเมตร และจับคู่การทำงานกับระบบเกียร์คลัตช์คู่ M DCT 7 Speed

ตัวรถถูกสร้างจากวัสดุสุดล้ำอย่าง CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) เชื่อใจได้ในเรื่องแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา บวกกับการตกแต่งที่ภายในให้ความรู้สึกว่ากำลังนั่งอยู่บนรถแข่งยังไงยังงั้น เมื่อความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เวลาเพียง 3.8 วินาที กับความเร็วสูงสุด ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ไม่แปลกหรอกที่ใครได้นั่งอยู่ใน M4 GTS คันนี้แล้วจะรู้สึกว่ากำลังเป็นนักแข่งมืออาชีพ

BMW M4 GTS สปอร์ตคูเป้ ที่เรี่ยวแรงไม่ยิ่งหย่อนกว่ารถซูเปอร์คาร์เลย

BMW M4 GTS สปอร์ตคูเป้ ที่เรี่ยวแรงไม่ยิ่งหย่อนกว่ารถซูเปอร์คาร์เลย

Mercedes-AMG GT R

อัพเกรดความแสบสันต่อเนื่องให้กับตระกูล AMG GT ที่มาในรูปลักษณ์สีเขียวด้าน ที่ถ้าไม่ใช่รถจากค่ายดาวสามแฉกละก็ คงไม่น่ามองได้ขนาดนี้ รูปทรงอันโดดเด่นต่างๆ ถูกเก็บไว้ แต่ปรับในเรื่องรายละเอียดการตกแต่งเล็กๆ รอบคัน กับแรงม้าที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอยู่ที่ 585 ตัว จากกำลังการผลิตของเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0L พร้อมกับแรงบิดที่มาให้กว่า 700 นิวตัน-เมตร และดีไซน์ภายในยังไม่ทิ้งซึ่งความหรูกับเบาะที่นั่งแบบ AMG Sports Bucket seats วัสดุหุ้มด้วยหนัง Nappa และเส้นใยแบบ DINAMICA Microfibre พร้อมกับชุดตกแต่ง AMG Interior Night package ที่ใช้เป็นสีส้มตัดเข้ากับสีดำเพิ่มมิติความโดดเด่น มาพร้อมกับความแรงระดับ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 318 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Mercedes-AMG GT R มากับรูปทรงคลาสสิก หน้ายาว-หลังสั้น สไตล์ AMG GT

Mercedes-AMG GT R มากับรูปทรงคลาสสิก หน้ายาว-หลังสั้น สไตล์ AMG GT

และทั้งหมดคือสุดยอดรถสปอร์ตเน้นแรงไม่เน้นคุยที่น่าสนใจในปี 2018 นี้ พร้อมจะลุยไปกับแรงม้าไม่ต่ำกว่า 500 ตัวทั้งสิ้น ทุกจินตนาการในเรื่องความแรงทั้ง 5 โมเดลนี้สั่งได้! ซึ่งแน่นอนว่าต้องแลกมาด้วยระดับค่าตัวที่สูงลิบมากเช่นกัน

และอย่าลืมบอกกับเรา Chobrod หน่อยใน 5 โมเดลนี้ คันไหนโดนใจคุณเป็นที่สุดที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย รวมไปถึงติดตามข่าวสารรถยนต์จากทั่วทุกมุมโลกที่น่าสนใจได้ที่ chobrod.com