ข้อผิดพลาด ที่จะทำให้การลงขายรถของคุณ ได้ราคาไม่ดีตามที่ตั้งไว้

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 11 มิ.ย 2563
แชร์ 3

ลิสต์ข้อผิดพลาดทั้งหลาย ที่มักจะเกิดขึ้นสำหรับการลงขายรถ ข้อควรระวังต่าง ๆ ที่ทางผู้ขายรถหลายคนชอบมองข้าม มาดูกันว่าจะลงขายรถราคาดี ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

ในปัจจุบันการขายรถสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปขายที่เต็นท์หรือลงประกาศขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งการตั้งราคาขายก็สามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองเช่นกัน แต่การลงขายรถนั้น ใช่ว่าจะเพียงกำหนดราคาขายแล้วก็จบ เพราะมีหลาย ๆ อย่างที่ทางผู้ขายต้องระวังให้ดี เพราะไม่อย่างนั้น การลงขายรถของคุณ อาจไม่ได้ราคาดีตามที่คิด Chobrod รวบรวมข้อผิดพลาด ที่จะทำให้การลงขายรถของคุณ ได้ราคาไม่ดีตามที่ตั้งไว้

ไม่นำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนด

รถยนต์เมื่อมีการใช้งานต่อเนื่องทุกวัน ก็จะมีการเสื่อมสภาพของตัวถังและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นธรรมดา และเมื่อถึงระยะตามที่กำหนด ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจเช็กสภาพและซ่อมบำรุง โดยมาตรฐานทั่วไปแล้ว รถยนต์มีกำหนดการเข้ารับการตรวจสภาพตามระยะดังนี้

ควรนำรถเข้าเช็กสภาพตามระยะ
ควรนำรถเข้าเช็กสภาพตามระยะ

  • การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง :จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ ปกติจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อรถสิ่งถึงระยะที่ 5,000 - 10,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 6 เดือน หรือถ้าใช้งานบ่อยก็อาจจะเปลี่ยนทุก ๆ 3 เดือน
  • ชุดระบบระบายความร้อน : ประกอบไปด้วย หม้อน้ำ, วาล์วน้ำ, ปั๊มน้ำ, ท่อยาง และพัดลมระบายความร้อน ซึ่งทำงานร่วมกันนับตั้งแต่เริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ซึ่งควรได้รับการตรวจสภาพและรับการบำรุงรักษาในทุก ๆ 3 ปี เพื่อให้ชุดระบบระบายความร้อนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • น้ำมันเกียร์ :จะช่วยลดแรงเสียดทาน และลดการสึกหรอของเกียร์ อีกทั้งช่วยลดเสียงดังและการสั่นสะเทือนในเรือนเกียร์ รวมไปถึงช่วยชำระล้างเศษโลหะที่ติดค้างจากการสั่นสะเทือนและเสียดสีภายในจากหน้าฟันเกียร์ ที่สำคัญป้องกันการเกิดสนิม ซึ่งสำหรับเกียร์ธรรมดา รอบการเปลี่ยนควรอยู่ในระยะ 1 ปี ต่อ 1 ครั้ง หรือถ้ารถใช้งานบ่อยก็อยู่ในรอบ 6 เดือน สำหรับเกียร์อัตโนมัติ รอบการเปลี่ยนถ่ายควรอยู่ที่ 30,000 - 40,000 กิโลเมตร ถ้าวิ่งบ่อย ก็เป็นรอบ 10,000 - 20,000 กิโลเมตร หรือประมาณปีละ 1 ครั้ง
  • น้ำมันเบรก :ตามอายุการใช้งานของน้ำมันเบรกอยู่ที่ 80,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 ปี ขึ้นอยู่กับว่าระยะใดถึงก่อน แต่ถ้าโดยทั่วไปแล้ว เมื่อพ้น 3 ปี ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกทันที เพราะอาจจะเสื่อมคุณภาพการใช้งานไปแล้ว หรือหากพบว่ามีคราบดำในน้ำมัน หรือมีสีขุ่นไม่ใส รวมไปถึงมีอาการเบรกจม อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นอาจหมายความว่าน้ำมันเบรกอาจจะเสื่อมสภาพและควรได้รับการเปลี่ยนแล้ว
  • ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า :ควรตรวจระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์เดือนละครั้ง และ ตรวจระดับน้ำพวงมาลัยเพาเวอร์ ในขณะที่เครื่องเย็นโดยดูที่ด้านข้างของกระปุกน้ำมัน ระดับน้ำมันควรอยู่ที่ไม่เกินขีดระดับสูงสุด และระดับต่ำสุด ถ้าระดับน้ำมันอยู่ต่ำกว่าขีดสุด ให้เติมน้ำมันจนระดับอยู่ที่ขีดสูงสุด และชุดระบบพวงมาลัยควรเข้าการตรวจสภาพในระยะ 50,000 กิโลเมตร
  • แผ่นกรองอากาศรถยนต์ :ทำหน้าที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์  โดยทั่วไประยะการเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์อยู่ที่ 20,000 กิโลเมตร แต่หากรถผ่านการใช้งานมาหนัก สามารถเปลี่ยนก่อนถึงระยะดังกล่าว

ทั้งหมดคือจุดสำคัญเบื้องต้นที่ผู้ใช้รถต้องให้ความสำคัญในการเข้าตรวจเช็กสภาพ หากพลาดจุดนี้ไป นั่นหมายถึงการที่คุณละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจใส่รถเท่าที่ควร ซึ่งการละเลยเหล่านั้นจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านสภาพรถ และทางผู้ซื้อเองก็จะพิจารณาจากจุดนี้ด้วย หากรถมีสภาพเสื่อมโทรม ก็อาจทำให้ราคาตกได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นเช็กสภาพเครื่องยนต์ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ และอย่าลืมเก็บเอกสารการเข้ารับการบำรุงด้วย เพื่อใช้ยืนยันว่ารถของคุณผ่านการดูแลบำรุงรักษาเป็นอย่างดี

ดูเพิ่มเติม
>> คุณรู้ดีแค่ไหน ? 10 เทคนิคดูแลรักษารถยนต์ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
>> ขัดไฟหน้ารถยนต์อย่างไร ? ให้สว่างใส หายหมอง

ไม่ใส่ใจรักษาความสะอาดรถยนต์

การดูแลรักษารถยนต์ เป็นเรื่องที่คนรักรถต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน เพราะการบำรุงดูแลให้รถมีความสะอาด นอกจากจะยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยคงสภาพรถให้ดูเหมือนใหม่ ดูราคาไม่ตก โดยจุดที่ควรดูแลรักษาหลัก ๆ มีดังนี้

หมั่นทำความสะอาดรถยนต์ทั้งภายนอกและภายใน
หมั่นทำความสะอาดรถยนต์ทั้งภายนอกและภายใน

  • สีตัวถัง : สีตัวถังถือจุดขายของรถ ควรดูแลให้ดูสะอาดสดใสตลอดเวลา ด้วยวิธีการล้างที่ถูกต้อง ควรล้างรถสัปดาห์ละครั้ง หรือเมื่อสีตัวถังเริ่มมีคราบสกปรก พบรอยขีดข่วน นอกจากการล้างรถแล้วยังมีการดูแลรักษาสีรถอีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การขัดเคลือบสี การทำเคลือบแก้ว การเคลือบเงา วิธีเหล่านี้จะช่วยให้รถมีสีสวยสดเหมือนใหม่อยู่เสมอ
  • ยาง-ล้อ รถยนต์ : เป็นจุดที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วง จึงควรหมั่นตรวจสอบยางรถยนต์อยู่เป็นประจำ ควรตรวจสอบความดันลมยางทุก ๆ  2 ถึง 4 สัปดาห์ เพื่อให้การขับขี่มีความปลอดภัยในทุกเส้นทาง และทำให้อายุการใช้งานยางยาวนานมากขึ้น และเมื่อผ่านการใช้งานรถไปสักระยะ ควรนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพดอกยาง เพื่อเช็กสภาพการพร้อมใช้งานของรถ
  • ชุดไฟรถยนต์ : รถยนต์เมื่อใช้งานไปสักระยะ จะมีอาการเสื่อมสภาพและคราบเหลืองที่จะทำให้การส่องสว่างของหลอดไฟลดประสิทธิภาพลง โดยหมั่นขัดโคมไฟหน้า ชำระล้างคราบสกปรก หรือถ้าหลอดไฟเสื่อมหรือพังแล้ว ก็นำไปเปลี่ยนหลอดใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนด้วยตัวเองหรือเข้าเปลี่ยนที่ศูนย์บริการก็ได้ ที่สำคัญไฟที่ใช้ ห้ามดัดแปลงแบบผิดกฎหมาย
  • ส่วนอื่น ๆ  : ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องดูแลและรักษาความสะอาด ทั้งภายนอก ภายใน เช่น ที่ปัดน้ำฝน ขอบยาง เบาะนั่ง และอื่น ๆ ที่ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากพบว่าอุปกรณ์บางส่วนชำรุดหรือเสียหาย ให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยน เพื่อให้รถยนต์มีสภาพที่ดี พร้อมใช้งาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นด้วย

หากละเลยการดูแลความสะอาดส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ จะเห็นได้ชัดผ่านสภาพตัวรถที่จะดูเสื่อมโทรม ดูเก่า ไม่น่าใช้งาน และนี่คือสิ่งที่ทางผู้ขายเองต้องให้ความสำคัญ เพราะทางผู้ซื้อจะพิจารณาดูอย่างละเอียดแน่นอน ว่าราคารถจะคุ้มค่าต่อการใช้งานหรือไม่ พร้อมใช้งานเลยหรือเปล่า ถ้าหากพบว่าสภาพดูไม่ได้ ราคารถอาจจะถูกกดต่ำ หรือถูกปฏิเสธไม่เลือกซื้อไปเลยก็เป็นได้เช่นกัน

การตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ

อยากขายรถราคาดี จึงตั้งราคาดูน่าซื้อ หรือทำรถให้ดูสะอาดสวยงามแค่ไหน แต่ถ้ารถคันนั้นเข้าไปไม่ถึงกลุ่มผู้ใช้ ทำตลาดได้ไม่ดีก็คงไม่มีความหมาย ผู้ขายรถหลายคนพลาดที่ตรงจุดนี้ มาดูกันว่า การตลาดที่ผิดพลาดรูปแบบไหน ที่จะทำให้รถของคุณ ไม่สามารถขายได้ในราคาที่ต้องการ

เลือกใช้บริการเว็บไซต์ขายรถมือสองที่มีชื่อเสียง
เลือกใช้บริการเว็บไซต์ขายรถมือสองที่มีชื่อเสียง

  • ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียไม่เป็น : ในยุคปัจจุบัน เป็นยุคที่ผู้คนหันมาใช้งานระบบออนไลน์มากขึ้น การค้าขายก็เปลี่ยนเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ซื้อและผู้ขายหันมาปรับตัวในรูปแบบการค้าขายออนไลน์ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และนั่นคือจุดสำคัญ หากทางผู้ขายไม่รู้จักการใช้ Social Network หรือไม่รู้จักระบบดังกล่าว ประกาศขายก็อาจจะถูกเข้าถึงยาก ผู้ใช้หลายคนทำการประกาศขายสินค้าในบัญชีส่วนตัว แต่ไม่รู้จักการกระจาย และประชาสัมพันธ์สินค้า และนั่นทำผู้ซื้อไม่สามารถเข้าถึงโพสต์ที่ประกาศขายได้ ทำให้โอกาสขายถูกลดต่ำไปด้วย ดังนั้นผู้ใช้ในยุคใหม่ ควรที่จะศึกษาระบบการขายแบบออนไลน์ให้เป็น และรู้จักการโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าถึงของผู้ใช้ที่มากขึ้น
  • ไม่รู้จักการใช้งานเว็บไซต์ : เว็บไซต์รถมือสองออนไลน์ในปัจจุบัน มีให้เลือกมากมาย ถ้าจะให้ดีควรเลือกเว็บไซต์ที่ให้ประโยคแก่ผู้ขายมากที่สุด เหมือนดังเว็บไซต์ Chobrod.com ที่เปิดพื้นที่ให้ลงประกาศขายรถได้ฟรี ใช้งานง่าย การันตีการเข้าถึงผู้ใช้ ด้วยการแสดงผลในหน้าแรกของระบบการค้นหา หากเลือกใช้เว็บไซต์ที่มีผู้เข้าถึงน้อย ก็จะทำให้โพสต์ถูกเข้าถึงได้น้อย และนั่นก็หมายถึงโอกาสการขายรถที่น้อยลงด้วยเช่นกัน

หากคุณเองกำลังคิดจะขายรถ หรือมีแพลนที่จะลงขายรถ ลองศึกษาข้อมูลเหล่านี้ดูว่า มีจุดไหนที่คนขายแบบคุณมองข้าม หรือพลาดไปบ้าง เพื่อให้รถของคุณได้รับโอกาสการถูกเลือกซื้อจากผู้ขายได้มากขึ้น และหากอยากมองหาสื่อการประชาสัมพันธ์ หรือระบบการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เลือกใช้เว็บไซต์ Chobrod.com เว็บไซต์ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่จะช่วยให้การขายรถของคุณไม่ใช่เรื่องยาก และสามารถขายรถได้ไวและได้ราคาดีตรงตามความต้องการอีกด้วย

ดูเพิ่มเติม
>> อยากขายรถ ห้ามพลาด! CHOBROD แนะนำวิธีการเตรียมรถก่อนขายให้ได้ราคาดี
>> เอกสารที่ต้องห้ามพลาด เมื่อซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง

ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ