รีวิว Mercedes-Benz A-Class 2018 คอมแพ็คคาร์สไตล์ดุดัน

รูปลักษณ์ภายนอกได้ถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Sensual Purity ที่เน้นความเป็นเส้นสายโค้งม้นตลอดคัน จึงทำให้ Mercedes-Benz A-Class 2018 ดุดัน สปอร์ต และโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม กระโปรงหน้าลาดต่ำ ติดตั้งไฟหน้า LED และ ไฟ Daytime Ruinning ด้านข้างกระจังหน้า ซึ่งดีไซน์ไฟก็ใกลัเคียงกับ CLS รุ่นล่าสุดอีกด้วย 
ส่วนตัวถัง Mercedes-Benz A-Class 2018 มีความยาวอยู่ที่ 4,419 มิลลิเมตร กว้าง 1,796 มิลลิเมตร สูง 1,400 มิลลิเมตร ฐานล้อเพิ่มขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 30 มิลลิเมตร เป็น 2,729 มิลลิเมตร ทั้งยังมีได้ปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำสุดอยู่ที่ 0.26 ทำให้ช่วยลดแรงต้านลง 

ดีไซน์ภายอก Mercedes-Benz A-Class 2018 ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบให้หรูหรามากขึ้น แผงคอนโซลโดยสารได้ถูกตกแต่งให้เข้ากับความหรูหราของตัวรถ มีจอแสดงผลคู่ที่มีให้เลือกถึง 3รูปแบบ ทั้งขนาด 7 นิ้วและขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งยังมีไฟที่สร้างบรรยากาศในรถ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 64 เฉดสี นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังได้ออกแบบให้กว้างขี้น ทั้งช่องว่างระหว่างเบาะนั้ง และส่วนเก็บสัมภาระด้านท้ายที่สามารถจุได้ถึง 370 ลิตรมากกว่าเดิม 29 ลิตร 

การออกแบบภายใน Mercedes-Benz A-Class 2018 ที่หรูหรา

ดูเพิ่มเติม
>>Mercedes-Benz จัดทดสอบสภาพถนน 5 ทวีปทั่วโลกรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ
>>Mercedes A-Class L Sedan คอมแพ็กท์ตัวใหม่ยลโฉมแล้ว

Mercedes-Benz A-Class 2018 มีไฮไลท์อยู่ที่ระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ประมวลผลผ่าน AI สมองกลอัจฉริยะ สามารถเรียนรู้บุคลิกของตัวผู้ขับขี่  และสามารถเรียกระบบสั่งงานด้วยเสียงด้วยการพูดคำว่า "Hey Mercedes"  ทั้งยังติดตั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Semi-Autonomously)
นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE Plus, ระบบเบรกอัตโนมัติ Active Brake Assist, ระบบเตือนเมื่อผู้ขับเมื่อยล้า Attention Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และรักษาระยะห่าง Active Distance Assist DISTRONIC, ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา Blind Spot Assist, ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย Active Steering Assist, ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist, ระบบเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเกิดเหตุคับขัน Active Lane Change Assist, ระบบหยุดรถอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Active Emergency Stop Assist, ระบบจำกัดความเร็ว Active Speed Limit Assist, กล้องมองภาพรอบคัน 360 Degree Camera

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกใน Mercedes-Benz A-Class 2018 ที่ครบครัน

ขุมพลังของ Mercedes-Benz A-Class 2018 มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบตัวใหม่มีให้เลือกได้แก่ A200 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จรหัส M282 ขนาด 1.4 ลิตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร, A250 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จรหัส M260 ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร และ A180d เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส OM608 ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร พร้อมถัง AdBlue ขนาด 28.3 ลิตร 
โดยจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีดที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน รุ่น A180d และ A250 และเป็นอ็อพชั่นเสริมสำหรับรุ่น A200 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC และโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ทำให้การขับขี่นุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง

ขุมพลัง Mercedes-Benz A-Class 2018 ที่มีทั้งเบนซินและดีเซลให้เลือก

ราคาเริ่มต้นของ Mercedes-Benz A-Class 2018 อยู่ที่ 27,500 ยูโร ประมาณ 9.8 แสนบาท เป็นราคาในฝั่งยุโรป โดยเปิดให้จับจองตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และพร้อมที่จะส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ส่วนในไทยหากวางจำหน่ายเมื่อไหร่  ทาง Chobrod.com จะนำมาแจ้งให้ทราบ

ดูเพิ่มเติม
>>Mercedes ไฟฟ้าระดับ S-Class จะออกมาปี 2020
>>เคาะราคา Mercedes-AMG GT S Roadster 2018 ในยุโรปแล้ว