ISUZU D-MAX 1.9 – ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ ISUZU D-MAX 1.9 ที่รวมความแกร่งระดับตำนานเข้ากับดีไซน์ให้สวยสดุดตายิ่งขึ้น จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ภายนอก

2016 Isuzu D-MAX Cab 4 1.9 Ddi S Blue Power โฉบเฉี่ยว เร้าใจ ให้อารมณ์สปอร์ต ออกแบบล่าสุด เพื่อตอบรับขุมพลังใหม่โดยเฉพาะ โฉมหน้าใหม่หมดจด ภายใต้แนวคิด Strong Emotional และ Sporty ด้วยเส้นสายแห่งดีไซน์ ที่ให้ความรู้สึกทรงพลัง พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้ายิ่งขึ้น สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ในแบบชีวิตเมือง

Isuzu D-MAX 1.9 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยเครื่องยนต์ดีเซล1,900 ซีซีที่ล้ำสมัย พร้อมพัฒนาระบบส่งกำลังใหม่หมดเพื่อรองรับขุมพลังใหม่ ด้วยเกียร์เดินหน้า 6 สปีดเพื่อที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรถปิกอัพในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญสูงสุด 3 ด้านในการคิดค้นและพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ซูเปอร์คอมมอนเรล รุ่นใหม่ นั่นคือ กำลังเครื่องยนต์สูงสุด ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด

ภายนอก D-MAX 1.9 ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์โคมรมดำ พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ Built-in กระจังหน้า มีทั้งแบบโครเมี่ยมและสีเทา เสริมความหนักแหน่นมั่นคงและบ่งบอกตัวตน โคมไฟหน้าออกแบบรับกับกระจังหน้าอย่างลงตัว และเป็นการกลับมาอีกครั้งของไฟตัดหมอกทรงกลม พร้อมกรอบโครเมี่ยมรูปตัว C ทำให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้น ส่วนฝากระบะท้าย มีดีไซน์เส้นสายใหม่ พร้อม Built-in Spoiler

Isuzu D-MAX 1.9 ใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบ 6 ก้าน พร้อมยางขนาด 255/60R18 (รุ่น Z-Prestige) ล้อขนาด 16 นิ้ว 2 ดีไซน์ใหม่ ยางขนาด 245/70R16 (รุ่น V-Cross กับ Hi-lander รุ่น Z) ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน พร้อมยางขนาด 215/70R16 (รุ่น Cab4 และ Spacecab 4×2)

–  สติกเกอร์ 4×4 ลวดลายใหม่ (เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
–  เสาอากาศแบบ Shark Fin สีเดียวกับตัวรถ
 
มิติตัวถังรถกระบะ ISUZU D-MAX 1.9 Ddi Blue Power Hi-Lander 4 ประตู 6 Auto มากับขนาดเท่ากับ All New D-MAX เดิม แต่ความยาวมากขึ้นเป็น 5,200 มม. (เดิม 5,190 มม.) ความกว้าง 1,860 มม. ความสูง 1,795 มม. น้ำหนักรถเปล่า 1940kg ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร มิติกระบะภายใน เริ่มที่ความยาว 1,485 มม. ความกว้าง 1,530 มม. ความสูง 465 มม. ได้ผลิตจากวัสดุที่มีความคงทนมาก ทนการกัดกร่อน ทนต่อการขีดข่วนและมีความยืดหยุ่นสูง  ฐานล้อ 3,095 มม. ความสูงจากพื้น 235 มม. แต่น้ำหนักมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ๆ รวมถึงชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับขนาดยาง 18 นิ้วใหม่ ทำให้มีน้ำหนักถึง 1,830 กก.
 

ภายใน
 

คอนโซลกลางติดตั้งด้วยเครื่องเล่น DVD มีการเปลี่ยนจอสัมผัสใหม่ เป็นขนาด 8 นิ้ว แถมย้ายปุ่มการทำงานไปยังใต้หน้าจอ พร้อมช่องเสียบ USB และใหม่ช่องเสียบ HDMI และในเวอร์ชั่นรุ่นท็อป ติดตั้งระบบความบันเทิงใหม่ล่าสุด ISUZU Connect World สามารถเชื่อมต่อ Smart Phone ที่รองรับทั้งระบบปฎิบัติการ IOS กับ Android ได้ ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายเช่น ระบบนำทาง I Smart Navi Thailand ฟังก์ชั่นคลิ๊ปวีดีโอผ่าน Smart Phone (Video Player) ฟังก์ชั่นฟังเพลงผ่าน Smart Phone (Music Player) เป็นต้น โดยต้องโหลดแอฟผ่านทางสมาร์ทโฟนของคุณเอง ส่วนลำโพงยังคงใช้ 8 ตัวเหมือนเดิมแต่ได้ย้ายตำแหน่งลำโพงบนหลังคาใหม่ ในชื่อว่า Roof Speaker ซึ่งที่ย้ายตำแหน่งลำโพงบนหลังคาใหม่นี้ ทาง ISUZU กลับบอกว่า เพื่อความสวยงามและเพิ่มมิติเสียงอย่างเต็มรูปแบบและเท่าที่ฟังเสียงเพลงตลอดการเดินทาง ยอมรับเลยว่า เสียงดีในระดับหนึ่งโดยไม่ต้องเสียสตางค์ หาลำโพงดีๆยี่ห้อดังๆ อีกต่อไป
 

เครื่องยนต์

อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ (Isuzu D-Max 1.9 Ddi Blue Power) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่  รหัส RZ4E-TC ขนาด 1,900 ซีซี  และระบบเทอร์โบแปรผัน VGS 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังแรงม้าเพิ่มขึ้น 10%  แรงบิดเพิ่มขึ้น 9%  เร็วขึ้น 8%  น้ำหนักเบากว่าเดิม 20%  ค่ามลพิษดีขึ้น 21%  และประหยัดน้ำมันขึ้น 19%  (รุ่น 4JK1-TCX 2.5 ลิตร 136 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที) พร้อมอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 : 175 กรัม/กม.
 
หนึ่งความพิเศษ เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ นั่นคือระบบ ISS (Idling Stop/Start System) หรือระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ โดยระบบนี้จะตัดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วขณะ และกลับมาทำงานโดยอัตโนมิตเมื่อแตะคันเร่ง เหตุผลที่มีระบบนี้ มีกันสองประการทั้งลดมลพิษ และความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

หนึ่งเรื่องที่ยอมรับในฐานะผมใช้รถ ISUZU นั่นคือการเก็บเสียงของรุ่น 1.9 Ddi Blue Power Hi-Lander 4 ประตู 6 Auto ที่เงียบขึ้น และดีกว่าในยุค D-MAX เจนเก่า จนถึง All New D-MAX ในช่วงรอบเดินเบา แต่ พอช่วงความเร็วสูงๆราวๆ 120 กม./ชม. ขึ้นไป อาจมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาบ้าง รวมถึงเสียงเทอร์โบที่ทำงานตลอดเวลาอาจสร้างความรำคาญบ้างในการขับขี่ แต่ภาพรวมก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง แต่อย่างใด ยังสามารถฟังเพลง ดูหนัง พูดคุยได้เต็มที่

และแน่นอนว่าดีแม็กซ์รุ่นนี้ก็จะมาทำให้ผู้คนชื่นชอบและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเช่นเคย เพราะการได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานที่ไม่เพียงแค่การออกแบบเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ตอบสนองทุกการเร่ง คล่องตัวสูง แข็งแกร่ง และประหยัดกว่าเดิมนั่นเอง
 

>> ดูเพิ่มเติม: ISUZU D-Max Hi-Lander 2017 รุ่นพิเศษใหม่ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 890,000 บาท