Review Chevrolet Camaro 2018 แบบย่อ
ข้อมูลทั่วไป
Chevrolet Camaro 2018
ไม่มีรถรุ่นไหนที่จะสัมผัสได้ถึงความสนุกในการขับขี่เท่า Chevrolet Camaro แล้ว เครื่องยนต์ทรงพลังและแชสซีส์อันโดดเด่นให้ประสบการณ์ที่มีแค่รถสปอร์ตราคาแพงเท่านั้นที่ให้ได้เท่านี้ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V6 355 แรงม้า และ V8 455 แรงม้า เมื่อนำไปใส่ในรุ่น 1LE แล้วทำให้ Chevrolet รุ่นนี้น่าเกรงขามไปอีก ซึ่งในรุ่น 1LE เพิ่มอุปกรณ์เพื่อเน้นการขับขี่ในสนามแข่งและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แต่รุ่นพื้นฐานเครื่อง 4 สูบดูน่าเกรงขามน้อยลงไป
ภายนอก
รีวิวภายนอก Chevrolet Camaro 2018
ภายนอกของ Chevrolet Camaro 2018
Chevrolet Camaro 2018 มีให้เลือกทั้งแบบคูเป้ 2 ประตู และเปิดประทุนหลังคาพับ (convertible) มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าแตกต่างจากรุ่นเล็กอย่าง V-8 SS รถสปอร์ตรุ่น 4 สูบและ 6 สูบมีท่อสูบต่ำและกว้าง ไฟหน้าตัดหมอกแนวตั้ง ส่วนรุ่น SS เป็นแนวนอน ลูกกรงต่ำรูใหญ่ และช่องระบายอากาศในกระโปรงที่คล้ายรูจมูก
รุ่น RS เพิ่มล้อแม็ก 5 ช่องขนาด 20 นิ้ว ลูกกรงเฉพาะรุ่น สปอยเลอร์หลังแนวเอกลักษณ์ (เฉพาะคูเป้) และไฟหน้า HID ส่วนในรุ่น 1LE มีฝากระโปรงสี satin black ล้อแม็กหลอมอลูมิเนียม 20 นิ้ว และชุด aero เฉพาะรุ่น
ขนาดตัวถังยาว 188.3 นิ้ว กว้าง 52.9 นิ้ว ฐานล้อยาว 110.7 นิ้ว
ภายใน
รีวิวภายใน Chevrolet Camaro 2018
ภายในของ Chevrolet Camaro 2018
Chevrolet Camaro 2018 มีเบาะทำอย่างดีเพื่อรั้งผู้โดยสารด้านหน้าไว้ เบาะผ้าจาก Recaro มีคุณสมบัติช่วยในการเข้าโค้งยากๆ ดีไซน์แผงควบคุมดูสะอาด และมีกลุ่มแผงเกจวัดพร้อมหน้าจอปรับแต่งได้ขนาด 8 นิ้ว อ่านได้ง่ายๆ แต่ดูรก ภายในป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ แต่ยังได้ยินเสียงแหลมๆ จากลม และเสียงเบาคงที่จากยางเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง มีกล้องมองท้ายรถ พร้อมระบบสอดส่อง blind-spot และการจราจรท้ายรถ แต่ทัศนียภาพในการขับแย่เพราะหน้าต่างแคบ
ภายในให้ระบบปรับอากาศ หน้าต่างแบบพาวเวอร์ หน้าต่างหลังละลายน้ำแข็งได้ และระบบเบาะพาวเวอร์สำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ท้ายรถสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้แค่ 4 ใบ เมื่อพับเก็บเบาะหลังแล้วจะสามารถเก็บสัมภาระได้ 9 ใบ ถังกลางคอนโซลรถตื้น แล้วที่เก็บข้างประตูใช้การไม่ได้
อุปกรณ์อํานวยความสะดวก
ภายในให้จอสัมผัส 7 นิ้ว ใช้วิทยุ SiriusXM ได้ฟรี 1 ปี ให้ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน OnStar Guidance 3 เดือน มีระบบนำทาง ระบบสเตอรีโอระดับพรีเมียมของ Bose และที่ชาร์จไร้สาย แต่ขอบจอพลาสติกดูราคาถูก มุมใต้จอไม่สวยงาม ระบบ Chevrolet MyLink ตอบสนองได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนมาก ใช้การได้โดยไม่ต้องโหลดนาน มีเน็ต 4G/LTE ในรถ หรือเปิดไวไฟได้ รองรับทั้งแอนดรอยด์ ออโต้และแอ็ปเปิ้ล คาร์เพลย์ ใช้บลูทูธทั้งเปิดเพลงและคุยโทรศัพท์ได้ มีช่องเสียบสาย AUX และ USB มีระบบสั่งการด้วยเสียง และสามารถใช้ระบบดูสภาพการจราจรและอากาศแบบ Real-Time ได้
การทำงาน
รีวิวขุมกำลัง Chevrolet Camaro 2018
เครื่องยนต์ใน Chevrolet Camaro 2018
Chevrolet Camaro 2018 ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รุ่น SS ใช้เครื่องยนต์ V8 455 แรงม้า แรงบิด 455 ปอนด์-ฟุต พร้อมระบบเข้าเกียร์อัตโนมัติเมื่อเข้ารอบที่เหมาะสม (เฉพาะรุ่น V6 V8) เหยียบคันเร่งจาก 0-60 ได้ในเวลา 5.2 วินาที มีท่อไอเสียแบบทำงานคู่ ให้เสียงสตาร์ทรถเหมือนเสียงฉลามคำราม สามารถลดเสียงได้โดยเปลี่ยนไปใช้โหมดท่อไอเสีย แป้นคลัทช์และเกียร์ธรรมดาช่วยส่งกำลังต่อเครื่องยนต์กำลังคู่ขนานอัตราเร่งกดขนาดใหญ่ มีระบบ aero ช่วยในการขับขี่ (เฉพาะรุ่น V6 V8) โดยการเพิ่ม downforce ระบบสั่นสะเทือนที่แข็งแรงขึ้น ยาวกว้างขึ้นและเกาะถนนได้ดีขึ้น เข้าโค้งได้คล่องแคล่วในทางคดเคี้ยว ขับได้ดั่งใจหวังบนถนนขรุขระ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์มีไฟฟ้าช่วยทำให้การตอบสนองแม่นยำ และระบบเบรก จานเบรก 4 ใบ ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Brembo
ระบบความปลอดภัยให้ถุงลมนิรภัยด้านหน้ารถและข้างประตูหน้า แต่ระบบภายในรถถือว่าน้อยมาก นอกจากเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ไฟวิ่งเวลากลางวัน และระบบเปิดท้ายรถฉุกเฉิน
รีวิวทั่วไป
สำหรับ Chevrolet Camaro 2018 ออกวางจำหน่ายทั้งรูปแบบ 2 ประตู และเปิดประทุนในราคาที่แตกต่างกันไปดังนี้
- Coupé 2.0L Turbo SIDI engine 26,900$ (ประมาณ 8.74 แสนบาท)
- Coupé 3.6L V6 DI engine 28,395$ (ประมาณ 9.22 แสนบาท)
- Coupé 6.2L V8 DI engine 37,995$ (ประมาณ 1.24 ล้านบาท)
- Coupé 6.2L supercharged V8 DI engine 63,795 (ประมาณ 2.08 ล้านบาท)
- Convertible 2.0L Turbo SIDI engine 32,900$ (ประมาณ 1.07 ล้านบาท)
- Convertible 3.6L V6 DI engine 34,395$ (ประมาณ 1.12 ล้านบาท)
- Convertible 6.2L V8 DI engine 43,995$ (ประมาณ 1.43 ล้านบาท)
- Convertible 6.2L supercharged V8 DI engine 69,795$ (ประมาณ 2.27 ล้านบาท)
มีสีให้เลือกแบ่งออกเป็นสีปกติ 7 สีคือ Arctic Blue Metallic, Black, Mosaic Black Metallic, Nightfall Gray Metallic, Red Hot, Silver Ice Metallic และ Summit White กับอีก 3 สีที่คิดราคาเพิ่ม 395$ คือ Bright Yellow, Garnet Red Tintcoat และ Hyper Blue Metallic โดยที่สี Krypton Green จากรุ่น 2017 ยกเลิกไปแล้ว
แม้ว่าจะเป็นรถสปอร์ตขาซิ่งระดับแนวหน้าของโลก แต่ด้วยราคาที่สูง (ถ้ารวมภาษี) และความปลอดภัยที่ยังพึ่งพาไม่ได้ ทั้งระบบก็น้อย แถมมองทางยังยากอีก Chevrolet Camaro 2018 ไม่น่าเป็นตัวเลือกที่ใช่ยกเว้นว่าจะต้องการรถที่ขับเอามันอย่างเดียว แต่ถ้าผู้ใช้รถที่ต้องการรอบด้าน โดยเฉพาะสายเดินทางหรือสายครอบครัว คู่แข่งอย่าง Ford Mustang หรือรถรุ่นที่ถูกลงไปอย่าง Mazda MX-5 น่าลงทุนกว่ามากๆ
สนใจซื้อหรือเช็คราคา Chevrolet Camaro มือสองได้ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม:
>>>Chevrolet กระบะ Holden Colorado SportsCat 2018 รุ่นพิเศษดีเซลดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร
