เปิดผ้าคลุม "Ford Puma" ครอสโอเวอร์ไซส์เล็กลุยตลาดรถยุโรปปีหน้า

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 28 มิ.ย 2562

พาไปส่อง Ford Puma ครอสโอเวอร์ขนาดมินิที่ได้แรงบรรดาลใจจาก SUV ซึ่งฟอร์ดดีไซน์ออกมาได้สวยลงตัว พร้อมลุยตลาดรถยุโรปปีหน้าเลย

เหมือนกับว่าปี 2020 หรือปีหน้านี้เอง น่าจะเป็นปีทองของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐอเมริกาอย่าง "ฟอร์ด" กันได้เสียที เพราะช่วงหลังเรามักจะเห็นฟอร์ดเริ่มปล่อยรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดรถทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกามากขึ้น และแน่นอนว่ามันคู่ไปกับข่าวคราวการปรับกลยุทธ์เพื่อพยุงองค์กรของฟอร์ดเอง ทั้งการปิดโรงงานผลิตบางส่วนในยุโรป และเลิกผลิตรถยนต์บางรุ่นที่ไม่ได้รับกระแสนิยม โดยเฉพาะรถยนต์นั่งทั้งหลาย

และล่าสุดฟอร์ดก็สร้างไฮไลท์ให้กับวงการรถยนต์อีกครั้ง เพราะสร้างรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาสู่ตลาดและทำออกมาได้สวยงามอีกด้วย กับครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่จะเข้ามาเขย่าตลาดยุโรปในไม่ช้า นั่นคือ "Ford Puma"

เต็มๆ ตากับ

เต็มๆ ตากับ "Ford Puma" ที่กูรูรถยนต์ยุโรปให้คะแนนดีไซน์กันระดับสูงทีเดียว

Ford Puma ถูกหมายมั่นว่าจะเป็นรถยนต์อีกรุ่นของฟอร์ดเข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กทั้งในทวีปยุโรปและตลาดรถสหรัฐฯ และมันยังเป็นโฉมใหม่ของ "Ford Puma" ที่ไม่ได้ปรับโฉมมานานถึง 16 ปี เพราะรุ่นล่าสุดที่ทำกันออกมาคือตั้งแต่ปี 2002 เลยทีเดียว

สำหรับ "Ford Puma" มีแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Ford fiesta แต่เหมือนจะยกสูงขึ้นเล็กน้อย โดยฟอร์ดเลือกให้โรงงานประกอบ Craiova ของ Ford ในโรมาเนียเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับรถยนต์ในกลุ่ม B-car คันนี้ หัวใจสำคัญแม้จะถูกสร้างบนแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Ford fiesta แต่ระบบช่วงล่างของ Ford Puma จะเป็นช่วงล่างแบบคานแข็ง บวกกับโช็คอัพที่ใส่เข้ามาในขนาดใหญ่ซึ่งฟอร์ดบอกว่านี่คือช่วงล่างที่ดีที่สุดของรถกลุ่มนี้

ถือเป็นครอสโอเวอร์ที่มีขนาดเล็ก และน่าจะลุยตลาดรถยุโรปได้อย่างดี

ถือเป็นครอสโอเวอร์ที่มีขนาดเล็ก และน่าจะลุยตลาดรถยุโรปได้อย่างดี

ขุมกำลังเครื่องยนต์ของ Ford Puma เป็นแบบไฮบริดภายใต้รหัสเครื่องยนต์คือ EcoBoost Hybrid 48 V ซึ่งเป็นระบบพลังงานไฮบริดเชื่อมกับระบบไฟฟ้าแบบรวมสายพานให้กำลัง 11.5 กิโลวัตต์ เสริมด้วยเชื้อเพลิงนำมันเบนซินเป็นตัวขับเคลื่อนด้วย เครื่องยนต์ตัวนี้จะเป็นแบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร

นอกไปจากเครื่องยนต์ไฮบริดแล้ว Ford Puma ยังมีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกอย่างเดียวเหมือนกัน คือเครื่องยนต์เบนซินแบบ EcoBoost แบบดั้งเดิมและเครื่องยนต์ดีเซล Ford EcoBlue ส่วนระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกกันทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดในทุกรุ่นเครื่องยนต์แบบไม่มีกั๊ก

แต่ที่เพิ่มเข้ามาและน่าจะเป็นออพชั่นที่ถูกอกถูกใจคอรถยนต์สมัยใหม่ สำหรับ Ford Puma เพราะมันมีระบบควบคุมความเร็วแบบครูยซ์คอนโทรลซึ่งก็หาไม่ได้มากนักในรถรุ่นเล็กอย่างครอสโอเวอร์คันเล็กแบบนี้ รวมถึงยังมีระบบเทคโนโลยีจำกัดึความเร็วเข้ามาเพิ่มเติม และฟอร์ดยังเคลมด้วยอีกว่า Ford Puma จะเป็นคันแรกของโลกในตลาดครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่จะมีระบบแฮนด์ฟรีช่วยในการขับขี่ แถมเบาะที่นั่งยังมีระบบนวดอีกด้วย

ถือเป็นการปฏิวัติดีไซน์รถยนต์นั่งของฟอร์ดไปเลยกับ Ford Puma ที่ทำให้เห็นชัดว่าฟอร์ดก็ยังไม่ยอมแพ้กับตลาดรถ

นอกไปจากนี้ ฟอร์ดยังระบุในข้อมูลรถยนต์คันใหม่ของ Ford Puma ด้วยว่า รถยนต์คันนี้จะเป็นการปฏิวัติอย่างจริงจังของรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก เพราะคันนี้จะมีโซลูชั่นการจัดเก็บของด้านหลังที่ฟอร์ดบอกว่ามันคือนวัตกรรมพื้นที่เก็บสัมภาระเลยทีเดียว เพราะ Ford Puma มีพื้นที่เก็บของได้มากถึง 465 ลิตร ในขณะที่ห้องเก็บสัมภาระสามารถบรรจุกล่องขนาด 1 ยาว 120 มม. กว้าง 970 มม. และสูง 430 มม. ที่นั่งพับเป็นแถวที่สอง

ภายในห้องโดยสารยังมีอีกหนึ่งกลไกที่น่าสนใจคือการจัดเก็บของที่ถูกเรียกว่า "Ford MegaBox" ที่เหมือนกับกล่องเก็บความเย็นสามารถบรรจุได้ถึง 80 ลิตร ตั้งอยู่ใต้บริเวณเก็บสัมภาระด้านหลังของรถที่จะเพิ่มช่องทางการเก็บของสำหรับรถยนต์ได้มากขึ้นอีกด้วย

ดูเพิ่มเติม
>> รถครอบครัวสายแรง "Ford Focus ST Wagon 2019" เปิดตัวที่อังกฤษ
>> จัดหนัก เปิดตัว "Ford Ranger" 6 รุ่นย่อยพร้อมหน้าปัดทีเด็ด "ภาษาไทย"

Ford MegaBox ช่องลับเก็บของได้มากขึ้น

Ford MegaBox ช่องลับเก็บของได้มากขึ้น

ส่วนภายในห้องโดยสารของ Ford Puma ถูกออกแบบมาได้สวยไม่น้อยทีเดียว แผงคอนโซลกลางจะเด่นด้วยจอทัชสกรีนแสดงผลทุกอย่างของรถ และระบบความบันเทิงยังรองรับApple CarPlay/Android Auto สามารถเลือกออปชั่นเป็นชุดเครื่องเสียง Bang & Olufsen 10 ลำโพง กำลังขับรวม 575 วัตต์ได้อีกด้วย ส่วงพวงมาลัยมาในแนวสปอร์ตอย่างแท้จริงเพราะเป็นสามก้านพร้อมมัลติฟังก์ชั่นด้านล่างตัดขอบ เพิ่มความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

เรื่องความปลอดภัยถือเป็นอีกมาตรฐานที่ถูกติดตั้งเข้ามาอย่างเต็มพิกัดใน Ford Puma ทั้ง ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision Assist with Pedestrian Detection, ระบบเบรกป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ Post-Collision Braking, ระบบช่วยหักหลบฉุกเฉิน Evasive Steering Assist, ระบบเตือนขับขี่ผิดทาง Wrong Way Alert

ภายในดีไซน์ได้ล้ำสมัยอย่างมาก

ภายในดีไซน์ได้ล้ำสมัยอย่างมาก

ถือเป็นรถยนต์อีกคันที่ตลาดรถยุโรปกำลังจับตามองหลังมีการประกาศว่าจะเข้าสู่ตลาดรถในปี 2020 นี้ เพราะรูปทรงการดีไซน์และขนาดของตัวรถที่ไม่ใหญ่จนเกินไปน่าจะสร้างการตอบรับจากผู้บริโภคชาวยุโรปได้ไม่ยาก ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะช่วยให้ฟอร์ดกลับมาผงาดอีกครั้งแน่ๆ ว่าแต่คอรถยนต์ชาวไทยเห็นแล้วเชื่อได้เลยว่าอยากครอบครองแน่นอน