ลอสแอนเจลิสได้ชื่อเป็นเมืองที่มีจราจรติดขัดมากที่สุดในโลก บริษัท Inrix ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมเห็นว่าในความเป็นจริงการขยายระบบขนส่งสาธารณะอาจไม่ช่วยแก้ไขปัญหา และยังจะทำให้มีรถวิ่งบนท้องถนนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
การขยายระบบขนส่งสาธารณะอาจไม่ช่วยแก้ปัญหารถติดอย่างที่คิด
ข้อมูลบริษัท Inrix เปิดเผยว่า ประชาชนนครลอสแองเจลิสใช้เวลาอยู่บนท้องถนนในช่วงเร่งด่วนเฉลี่ย 102 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งสูงกว่าทุกเมืองในโลก วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า บนท้องถนนนานขึ้นร้อยละ 67 ส่วนช่วงเวลาเร่งด่วนตอนค่ำ ผู้ขับขี่ต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานขึ้นร้อยละ 84
สำนักข่าว CNN รายงานว่านครนิวยอร์กและซานฟรานซิสโกก็มีปัญหารถติดอยู่ในระดับเดียวกับลอสแอนเจลิส ในนครนิวยอร์กมีประชากรแออัดกระจุกตัวอยู่ในใจกลางเมืองเท่านั้น ส่วนลอสแอนเจลิสมีประชากรและสิ่งก่อสร้างกระจายตัวหนาแน่นเท่าๆกันทั้งหมด ปัญหารถติดจึงเกิดขึ้นทั่วเมือง ขนาดพื้นที่ของนิวยอร์กและซานฟรานซิสโกก็มีขนาดเล็กกว่าลอสแอนเจลิสมาก เวลาบนท้องถนนในช่วงเร่งด่วนจึงน้อยกว่าด้วย
ปัญหารถติดไม่ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของเมืองอย่างเดียว เพราะยังขึ้นอยู่กับอัตราส่วนประชากรมีรถยนต์ส่วนตัว ปัจจุบันลอสแอนเจลิส เคาน์ตีเขตเดียวก็มีถนนรวมกันยาวถึง 10,460 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่าถนนในทั้งเมืองพอร์ตแลนด์หรือเดนเวอร์เสียอีก แต่ยิ่งมีการขยายถนนมากขึ้นคนยิ่งเอารถออกมาวิ่งมากขึ้นตามไปด้วย เพราะยิ่งมีถนนรองรับได้มากคนยิ่งจะนำรถออกมาใช้เยอะ การแก้ปัญหาด้วยการขยายระบบขนส่งสาธารณะอาจจะไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหา คนยังนิยมใช้รถส่วนตัวมากกว่า เพราะให้ความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว ความเป็นเจ้าของ และความเคยชิน
เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ประชากรมีคุณภาพแต่การขยายระบบขนส่งสาธารณะอาจไม่ช่วยแก้ปัญหารถติดในอนาคต นายแมคเนลลี เผยว่านครลอสแอนเจลิสเลือกที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองทั้งหมดทเพื่อเอื้อให้รถยนต์เป็นใหญ่ จึงเป็นเรื่องยากหากจะเปลี่ยนแปลง นอกจากจะหามาตรการอื่นเข้ามาช่วยสนับสนุน เช่น เก็บภาษีมากขึ้น จำกัดจำนวนคนที่ซื้อรถยนต์ส่วนตัว
ดูเพิ่มเติม: