Toyota Supra การกลับมาของความคลาสสิครูปโฉมใหม่

รูป Toyota GR Racing Concept

Toyota Supra เปิดตัวครั้งแรก ปี 1978 ในฐานะของรุ่นย่อยในสายพันธุ์รถสปอร์ต Celica แล้วรุ่นใหม่นี้จะถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 และเป็นตัวแทนของรุ่นล่าสุดคือ JZA80 ที่เลิกผลิตไปในปี 2002 โดย 2 รุ่นแรกจะถูกขายในฐานะที่เป็นรุ่นย่อยของ Celica ต้องรอรุ่นที่ 3 ทาง Toyota ถึงแยก Supra ออกมาเป็น Nameplate เดี่ยวๆ สำหรับทำตลาดในฐานะรถสปอร์ตรุ่นใหญ่สุดที่มีอยู่ในตลาด ณ ตอนนั้น 

Toyota Supra ปี 1978

หลังจากยุติบทบาทในการทำตลาดไปเมื่อปี 2002 ทางโตโยต้าเคยคิดที่จะนำ Toyota Supra กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นคือช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 ราวๆ ปี 2007-2008 แต่ท้ายที่สุดโครงการก็ถูกพับไปเพราะวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน และตลาดใหญ่ยักษ์อย่างสหรัฐอเมริกาก็เกิดวิกฤตการณ์ Hamburger Crisis จนทำให้กลุ่มลูกค้าหลักของ Supra ชะลอการตัดสินใจและเชื่อว่าถ้าเปิดตัวออกมาในช่วงนั้นโอกาสที่จะไม่ประสบความสำเร็จจะมีสูงมาก สปอร์ตทั้ง 2 รุ่นก็เลยต้องถูกพับโครงการไป และกว่าจะกลับมาได้ก็ต้องรอกันอีกร่วมๆ 10 ปีเลยทีเดียว

สิ่งที่น่าสนใจคือ ข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่ว่า Supra ใหม่อาจจะแชร์พื้นฐานเดียวกับรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดอย่าง Z4 รหัสตัวถัง G29 ของค่าย BMW เพราะมีข่าวว่าตัวรถจะได้รับการผลิตที่โรงงานเดียวกันกับ BMW ในออสเตรีย โดยเมื่อดูจากสเป็กของ Supra ใหม่กับ Z4 แล้วจะมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,470 มิลลิเมตร ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ

Toyota supra A90

ในรุ่นใหม่ของ Toyota Supra จะถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 โดยใช้รหัสตัวถัง A90 โดยยึดพื้นฐานของการเป็นสปอร์ต GT แบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง โดยจะมีความยาว 4,380 มิลลิเมตร กว้าง 1,865 มิลลิเมตร และสูง 1,290 มิลลิเมตร โดยตัวรถจะมีน้ำหนักราวๆ 1.4-1.5 ตันและยังใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียงเหมือนเดิมแต่ตามข่าวที่ระบุจะไม่ใช่ขุมพลัง JZ หรือบล็อกที่ทางโตโยต้าพัฒนาขึ้นมาเอง แต่เป็นการหยืบยืมมาจาก BMW

เครื่องยนต์บล็อกนี้มีความจุ 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ และรีดกำลังออกมาได้ถึง 335 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 46.2 กก.-ม. ขับเคลื่อนล้อหลังและส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะและมีการปรับอัตราทดเกียร์ต่ำให้สั้นเพื่ออัตราเร่งที่ดี โดยใช้เวลาเพียง 4.1 วินาที สำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุดถูกล็อกเอาไว้ที่ 155 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้ หรือ Adaptive Variable Suspension ที่สามารถปรับได้ทั้งแบบ Normal และ Sport ส่วนพวงมาลัยแม้ว่าจะใช้เพาเวอร์ไฟฟ้า แต่ก็มีการปรับอัตราทดเฟืองแบบแปรผัน หรือ Variable Ratio เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งานบนท้องถนน

ส่วนการทำตลาดจะเริ่มในช่วงกลางปีนี้ที่สหรัฐอเมริกา และตามด้วยยุโรป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 49,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.6 ล้านบาทเท่านั้น

Toyota supra A90

ดูเพิ่มเติม

• ตำนานคืนชีพ! Toyota Supra Gen.5 เปิดตัวแล้วที่ดีทรอยท์
• รวมภาพรถ Off Road และเรื่องราวของรถ Off Road ที่น่ารู้

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้