ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม “Tesla” ประกาศเพิ่มทุนอีก 6.4 หมื่นล้านบาทหลังขาดทุนไป 27% ไตรมาสแรกปีนี้ นักวิเคราะห์คาดเพราะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าแข่งดุ ทำให้ยักษ์ใหญ่รายนี้อยู่เฉยไม่ได้
ในที่สุดยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของโลก ซึ่งเป็นแบรนด์ที่น่าจะเรียกว่า “ไม่มีใครไม่รู้จัก” ก็คงได้ สำหรับ Tesla รถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา แต่ข่าวคราวล่าสุดที่เกิดขึ้นกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าค่ายนี้ ไม่อาจถูกเรียกได้ว่าเป็นข่าวที่สู้ดีมากนัก
เพราะหลังจากที่ไตรมาสแรกของปี 2019 ที่ผ่านมา Tesla ตกอยู่ในภาวะขาดทุนอย่างหนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะผลพวงจาก “ผู้เล่นหน้าเก่า” ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กระโจนมาจับการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง และมาพร้อมกับการผันเปลี่ยนทิศทางบริษัทจากเดิมที่เน้นหนักในรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงก็หันมาทุ่มให้มากขึ้นกับเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไฟฟ้า ผลที่ว่าจึงทำให้ Tesla ขาดทุนไปไม่น้อย
หุ้นของ Tesla ที่ตกลงทำให้ต้องมีการเพิ่มทุนเข้ามาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
อีกทั้ง ช่วงหนึ่งของต้นปีที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและในฐานะซีอีโอของ Tesla ก็ออกมายอมรับโต้งๆ ว่าจะอาจจะต้องมีการ “เพิ่มทุน” จากผู้ถือหุ้นของ Tesla ด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะดูเหมือนว่า Tesla กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะถึงขนาดลงทุนระดับอภิมหาโปรเจกด้วยการสร้างโรงงานผลิตขนาดใหญ่ที่ประเทศจีนมาแล้ว
และข่าวล่าสุดก็บังเกิดขึ้นเป็นความจริงว่าต้องเพิ่มทุนเข้าให้จนได้ เพราะ Tesla ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็ประกาศเพิ่มทุนกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 64,000 ล้านบาท เพื่อพยุงบริษัทต่อไป และส่วนหนึ่งก็เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้ ว่าท้ายสุดก็จะ “ไม่ทิ้งกัน” เป็นแน่ๆ
ดูเพิ่มเติม
>> Tesla Model Y รถเอนกประสงค์ SUV ขนาดกะทัดรัด เตรียมเผยโฉมให้ชมกันแบบชัดๆ ก่อนวันที่ 14 มีนาคมนี้!!
>> "เราจะฆ่า Tesla” วลีทองคำจาก วิลเลี่ยม ลี ผู้ขอปั้นรถไฟฟ้า “Nio”
ทุนอีกมูลค่า 6.4 หมื่นล้านบาทจึงเทเข้าสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla
ข่าวการเพิ่มทุนของ Tesla ด้วยมูลค่าสูงถึง 64,000 ล้านบาท เกิดขึ้นเพราะก่อนหน้านี้มีนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงนักลงทุนเองที่มองว่า สภาวะที่บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้อาจประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน หลังจากงบไตรมาสล่าสุดบริษัทกลับมาขาดทุนอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงไปแล้ว 27% นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา
สื่อต่างประเทศหลายสำนักมองถึงสาเหตุที่ Tesla ต้องเพิ่มทุนอีกหนึ่งสาเหตุอาจเกิดจากแรงกดดันจากอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะเหตุผลนี้เองทำให้ Tesla ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป และเป็นอีกเส้นทางที่เลี่ยงไม่ได้จะต้องเพิ่มทุนเข้าไปในสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ ซึ่งผลที่ว่าก็ไม่ใช่แค่เพราะเกิดการขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 นี้เท่านั้น
อีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Tesla จำต้องสู้ศึกรถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งกันอย่างดุเดือด
แต่รายละเอียดการเพิ่มทุนครั้งนี้ประกอบไปด้วย การออกหุ้นเพิ่มทุน มูลค่ากว่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่ากว่า 1,350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Tesla ยังให้สิทธิ์สถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสามารถลงทุนได้อีกสูงสุด 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ สถาบันการเงินหลักๆ ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายให้ Tesla เพิ่มทุนประกอบไปด้วย Goldman Sachs และ Citi รวมไปถึงผู้ช่วยจัดจำหน่ายอื่นๆ เช่น Bank of America, Deutsche Bank, Morgan Stanley รวมไปถึง Credit Suisse ซึ่งเม็ดเงินในส่วนนี้มีความไม่แน่นอน
แน่นอนว่าโรงงานผลิตของ Tesla จะต้องเดินหน้าต่อเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากตลาดรถก็ต้องการแบรนด์นี้ไม่น้อย
Bruce Clark นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Moody’s สถาบันวิเคราะห์เศรษฐกิจและการเงินชื่อดัง มองว่า เม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนคาดว่าส่วนหนึ่งจะนำไปจ่ายหนี้ของบริษัทที่ครบกำหนดในเดือนพฤศจิกายนมูลค่าเกือบๆ 18,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือคาดว่าจะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายกำลังการผลิต Model 3 ในทวีปยุโรป
ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะกับรถยนต์ไฟฟ้าของโลก เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Tesla ก็คือผู้ผลิตสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่หมายมั่นจะเจาะกลุ่มตลาดรถของเมืองจีนให้ได้ ดังนั้นการเพิ่มทุนครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณว่า Tesla จะพร้อมสู้เต็มกำลังบนการแข่งขันด้านรถยนต์ไฟฟ้า
ดูเพิ่มเติม
>> Volvo ท้าชน Tesla ส่ง “Polestar 2” ชิงตลาดรถ
>> Apple จ้างอดีตวิศวกรระบบส่งกำลัง Tesla ลุยทีมพัฒนารถ Apple ในโปรเจค Titan
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้