Porsche ขยายตลาดรถไฮบริดไปไกลขึ้นด้วย Cayenne E-Hybrid ที่ให้พลศาสตร์การขับที่ดีที่สุดด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
Porsche Cayenne E-Hybrid 2018
เครื่องยนต์ V6 3.0 (250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า) รวมกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า (100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า) เพื่อสร้างกำลังระบบ 340 กิโลวัตต์ (462 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรมีให้ในรถเหนือความเร็วคงที่ กลยุทธ์การเร่งตรงกับรุ่น 918 Spyder ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อินไฮบริดใน Cayenne สร้างอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5 วินาที และความเร็วสูงสุด 253 กม./ชม. พร้อมกับการเปิดตัว Cayenne E-Hybrid Porsche กำลังขยายความสบายและระบบช่วยเหลือในตระกูล Cayenne ด้วยตัวเลือกเสริมเช่น head-up display ใหม่, เบาะนวดนั่ง และล้อแม็กโลหะเบา 22 นิ้ว
กำลังระบบ 462 แรงม้าด้วยแนวคิดการเร่งเครื่องจาก 918 Spyder
ก้าวต่อไปในการเดินทางสู่รถยนต์ไฟฟ้าของ Porsche คือ Cayenne E-Hybrid ขณะที่สมรรถนะของเครื่องยนต์สันดาปพัฒนาพอสมควรจากรุ่นก่อนหน้าห้ากิโลวัตต์ (เจ็ดแรงม้า) ที่ 250 กิโลวัตต์ (340 แรงม้า) สมรรถนะของเครื่องไฟฟ้าสูงกว่าร้อยละ 43 ที่ 100 กิโลวัตต์ (136 แรงม้า) ทั้งสองรวมกันสร้างกำลังในระบบได้ 340 กิโลวัตต์ (462 แรงม้า) กลยุทธ์การเร่งเครื่องจากรุ่น 918 Spyder เป็นคุณสมบัติใหม่ ทำให้เครื่องยนต์ไฟฟ้าใช้ได้ในทุกโหมดการขับอย่างแน่นอนในชุดมาตรฐาน Sport Chrono Package เพื่อการเร่งสมรรถนะเพิ่มเติม หมายถึงว่าระบบแรงบิดสูงสุดใช้การได้ด้วยการเหยียบคันเร่ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในการขับและความต้องการของสมรรถนะ ผู้ใช้รถสามารถสามารถสร้างแรงบิดเสริมตลอดทั้งทุกความเร็ว ทำให้สร้างประสบการณ์ขับขี่ที่คล่องแคล่วและดีกว่า
การต่ออายุของระบบเพิ่มกำลังและชาร์จแบตระหว่างการเดินทางขึ้นอยู่กับโหมดการขับ ในโหมด Sport และ Sport Plus ที่เน้นสมรรถนะ โดยรวมแล้วพลังงานของแบตเตอรีใช้เพื่อเร่งเครื่องทั้งก้อนได้ ในโหมด Sport ต้องชาร์จแบตเตอรีมากตามความจุที่ต้องใช้ในการเพิ่มกำลังครั้งต่อไป ในโหมด Sport Plus แบตเตอรีถูกชาร์จได้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ได้ โหมดอื่นเสริมประสิทธิภาพการขับสูงสุด
Porsche Cayenne E-Hybrid 2018
ชาร์จแบตผ่านแอป Porsche Connect และบริการ Porsche Charging Service
ความจุของแบตเตอรีพัฒนาขึ้นอย่างมากใน Cayenne E-Hybrid พร้อมกับระยะการใช้ไฟฟ้าและการสำรองกำลังเสริม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ความจุเพิ่มขึ้นจาก 10.8 เป็น 14.1 กิโลวัตต์/ชม. เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 แบตเตอรีใช้ของเหลวเย็นเก็บอยู่ใต้พื้นโหลดในท้ายรถ มีแปดโมดูล โมดูลละ 13 เซลล์ปริซึมลิเธียมไอออน ภายใน 7.8 ชั่วโมง แบตเตอรีแรงสูงชาร์จเต็มผ่านการต่อขนาด 230 โวลท์ด้วย 10 แอมป์ ถ้าใช้ที่ชาร์จ 7.2 กิโลวัตต์และต่อความจุขนาด 230 ด้วยขนาด 32 แอมป์แทนการใช้ที่ชาร์จธรรมดา 3.6 กิโลวัตต์ แบตเตอรีชาร์จเต็มอีกครั้งในเวลาเพียง 2.3 ชั่วโมง
กระบวนการชาร์จแบตสามารถจัดการและสอดส่องได้ผ่าน Porsche Communication Management (PCM) และใช้งานระยะไกลได้ด้วยแอป Porsche Connect การปรับอากาศอิสระ เช่น ความร้อนและแอร์เมื่อปิดการเครื่องยนต์ ทำได้เป็นคุณสมบัติมาตรฐานและใช้สมาร์ทโฟนควบคุมได้เช่นกัน Porsche Connect ใช้ค้นหาและกรองสถานีชาร์จไฟฟ้าแล้วตั้งเป็นจุดหมายนำทางได้ บริการ Porsche Charging Service ใหม่มำให้ผู้ให้บริการเจ้าอื่นเข้าถึงสถานีชาร์จไฟสาธารณะได้ – โดยไม่ต้องลงทะเบียนกับผู้ให้บริการรายอื่นที่คล้ายกันเพิ่มเติม ระบบชำระเงินจะเข้าบัญชี Porsche ID โดยตรง
โมดุลไฮบริดใหม่และเกียร์ Tiptronic S สลับได้ไว
Porsche ได้ออกแบบระบบขับเคลื่อนใหม่ของ Cayenne E-Hybrid อีกครั้ง โมดุลไฮบริดมีการรวมกันขั้นสูงของเครื่องยนต์ไฟฟ้าและคลัทช์แยก ต่างจากระบบไฮโดรลิกไฟฟ้าพร้อมหัวฉัดหมุน คลัทช์แยกทำงานแบบเคมีไฟฟ้า ซึ่งให้ปฏิกิริยาเร็วขึ้นได้แน่นอน ระบบเกียร์ได้รุ่นใหม่ Tiptronic S พัฒนาใหม่เพื่อ Cayenne ทั้งตระกูลด้วยเกียร์แปดสปีด เกียร์อัตโนมัติไม่ได้ให้แค่การสตาร์ทรถที่สบายและลื่นไหลขึ้น แต่เข้าเกียร์ได้ไวขึ้นมากด้วย การแทรกแซงของแรงฉุดระหว่างเข้าเกียร์ถูกลดลงไปด้วย
แผงคนขับใน Porsche Cayenne E-Hybrid 2018
ระบบขับเคลื่อน all-wheel drive แบบยกตลอดเวลาและลากรถขนของได้ 3.5 ตัน
ด้วยระบบ Porsche Traction Management (PTM) Cayenne E-Hybrid มีระบบขับเคลื่อน all-wheel drive แบบยกตลอดเวลาด้วยคลัทช์หลายจานที่ทำงานด้วยไฟฟ้า ควบคุมด้วยแผนที่ ด้วยการแบ่งแรงบิดออกกว้างๆ ระบบให้ประโยชน์ชัดเจนในเรื่องพลศาสตร์การขับ, ความคล่องตัว, traction control และความสามารถในการขับออฟโร้ด เพราะแชสซีส์ใหม่ล่าสุด Cayenne E-Hybrid ให้พลศาสตร์การขับเหมือนรถสปอร์ตเช่นเดียวกับ Cayenne รุ่นโฉมใหม่ทุกรุ่น ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) มีให้เป็นมาตรฐาน จุดเด่นเสริมประกอบด้วยระบทรงตัวไฟฟ้า Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) และที่ต่อรถลากที่จุของได้ 3.5 ตัน
ออปชันใหม่ head-up display และล้อแม็กโลหะเบา 22 นิ้ว
ด้วยการเปิดตัว Cayenne E-Hybrid Porsche กำลังขยายระบบช่วยเหลือและจุดเด่นเสริมสำหรับนวัตกรรมมากมาย ครั้งแรกที่มี head-up display ในรถ Porsche แสดงข้อมูลการขับที่เกี่ยวข้องโดยตรงทุกอย่างสู่สายตาผู้ใช้รถในรูปแบบจอสี่สี จุดเด่นอื่นใน Cayenne มี Porsche InnoDrive ระบบช่วยคนขับดิจิตอลด้วยระบบคุมความเร็วคงที่, เบาะนวดนั่ง, กระจกหน้าอุ่น, ฮีทเตอร์อิสระพร้อมรีโมท และล้อแม็กโลหะเบา 22 นิ้ว
สรุปภาพรวมของ Porsche Cayenne E-Hybrid 2018
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
หรือถ้าหากว่าคุณสนใจรถยนต์ Porsche Cayenne E-Hybrid 2018 หรือข้อมูลเกี่ยวกับราคารถยนต์สามารถกดเข้าไปดูที่นี่