McLaren 600LT รถสปอร์ตกลิ่นอาย F1

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 10 ต.ค 2561
แชร์ 0

รถยนต์ที่น่าจับตามองที่สุดของ McLaren ในตอนนี้ ได้รับการพัฒนาโดยอัดวิชาความรู้พัฒนารถยนต์เครื่องเดิมให้มีกำลังแรงขึ้นจนลูกค้าติดใจ กลายเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า McLaren 600LT


VDO เปิดตัวของ McLaren 600LT

บริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตสัญชาติอังกฤษที่แบรนด์ไม่ได้เก่าแก่เทียบเท่าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีมาเกือบร้อยปี แต่ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลังมานี้คือ McLaren ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของการผลิตรถยนต์ที่เน้นการผลิตรถสปอร์ตที่นำมาใช้จริงวิ่งบนถนนในชีวิตประจำวันได้ แต่เทคโนโลยีในการผลิตมีพื้นฐานมาจากรถยนต์ฟอร์มูลาวัน ทำให้ไม่เพียงแต่มีเครื่องยนต์ที่แรงโดนใจผู้ขับเท่านั้นแต่ยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามเพรียวลมสมเป็นรถสปอร์ตอีกด้วย

สำหรับรถยนต์จาก McLaren ที่แรงสุดแพงสุดและได้รับการจับตามองมากที่สุดในแบรนด์ McLaren ตอนนี้คือ McLaren 600LT และด้วยคำถามง่ายๆคำเดียวที่ว่า “เราจะทำให้มันดีกว่านี้ได้อย่างไร” ก็ทำให้ McLaren 600LT กลายเป็นรถที่น่าจับตามองมากที่สุดของ McLaren ไปเลย ด้วยการพัฒนารถยนต์ที่อยู่บนพื้นฐานของ McLaren 570S ที่สร้างความประทับใจให้กับชาวโลกมาแล้วก่อนหน้านี้ McLaren 600LT ได้มาลบจุดอ่อนที่เหลืออยู่ของ 570S ออกไป โดยแนวคิดที่สำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นออกไป เพิ่มความคล่องตัวและการเกาะถนนของการขับขี่ เพิ่มความสามารถในการหยุดรถที่มั่นใจขึ้น และการพัฒนาสุนทรียภาพในการขับขี่ในทุกๆองศาของคันเร่งที่ยุบลงไป โดยสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้เป็นชิ้นส่วนใหม่มากถึง 23%  เมื่อเทียบกับพื้นฐานเดิม

McLaren 600LT ราคาเท่าไร

ปัจจุบัน McLaren 600LT ออกสู่ตลาดแล้วและมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 185,000 ปอนด์ หรือราวๆ 8ล้านบาท กำลังในการผลิตที่ทาง McLaren ตั้งไว้คือการผลิตในช่วงเวลา 12เดือนโดยไม่ระบุจำนวนที่แน่นอนว่าจะเป็นทั้งหมดกี่คัน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลามคม 2018 นี้เป็นต้นไป นั่นหมายความว่ารถคันนี้จะมีกี่คันบนโลกคงต้องรอดูกันอีกทีในช่วงปลายปี 2019

ภาพมุมเฉียงของ McLaren 600LT

ภาพมุมเฉียงของ McLaren 600LT

พื้นฐานสำคัญของ McLaren 600LT

McLaren นอกจากพัฒนา McLaren 600LT บนพื้นฐานของ McLaren 570S แล้วด้านการดีไซน์ยังมีแรงบันดาลใจสำคัญมาจาก F1 GTR Longtail รถแข่งในตำนานของ McLaren ที่ออกสู่สายตาชาวโลกตั้งแต่ปี 1995 และได้ลงแข่งขันในรายการต่างๆมากมายเช่น BPR Global GT Series, FIA GT Championship, JGTC, และ British GT Championship กลิ่นอายของรถแข่ง F1 GTR Longtail นี้เองที่เป็นประกายสำคัญในการออกแบบ McLaren 600LT ด้วยความเป็นรถสปอร์ตของมัน ในด้านน้ำหนักนั้นชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์แทบจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะมันช่วยลดน้ำหนักของรถยนต์ได้เกือบๆ 100กิโลกรัม น้ำหนักที่ลดไปได้มากจาก McLaren 570S ส่วนหลักๆคือโครงสร้างหลักของเบาะนั่งต่างๆที่กลายเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ล้ออัลลอยแบบ10แฉกที่ออกแบบมาให้ให้มีน้ำหนักเบาพิเศษ ระบบปรับอากาศ ระบบท่อไอเสีย ที่สามารถออกแบบให้มีรูปทรงที่ดีขึ้นเพื่อลดน้ำหนักลง และยังมียิบย่อยที่ยังไม่ได้กล่าวถึงอีก เฉพาะที่กล่าวถึงมานี่ก็ลดไปราวๆ 60กิโลกรัมแล้ว  ทำให้น้ำหนักโดยรวมของ McLaren 600LT คือ 1,247กิโลกรัม ส่วนความยาวของ McLaren 600LT มีความเพิ่มขึ้นจาก McLaren 570S ราว 75  มิลลิเมตร ก็เลยเป็น Longtail ที่ยาวขึ้นกว่าตัวพื้นฐาน McLaren 570S จริงๆ แม้จะแค่ราว 7 เซนติเมตรก็ตาม ทำให้มิติตัวรถมีความยาวรวม 4,604มิลลิเมตร กว้าง2,095มิลลิเมตร และความสูง 1,191มิลลิเมตร นอกจากนั้นสปอยเลอร์หลังและชิ้นส่วนอื่นๆด้านอากาศพลศาสาตร์ยังช่วยเพิ่มแรงกดอากาศ (Downforce) ให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยแรงกดประมาณ100กิโลกรัมที่ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่าอะไรทำให้ดีขึ้นได้ McLaren 600LT เอาหมด

McLaren 600LT เมื่อเข้าโค้ง

McLaren 600LT เมื่อเข้าโค้ง

บั้นท้ายที่น่าจับตาของ McLaren 600LT

บั้นท้ายที่น่าจับตาของ McLaren 600LT

ภายนอกที่ออกแบบจากแรงบันดาลใจสำคัญของ F1 GTR Longtail

ภายนอกที่ออกแบบจากแรงบันดาลใจสำคัญของ F1 GTR Longtail

ความสูงเมื่อเปิดประตูสูงถึง 1,973 มิลลิเมตร

ความสูงเมื่อเปิดประตูสูงถึง 1,973 มิลลิเมตร

เพิ่มเติม
>> 
ตามดูรถใหม่จาก Mercedes·ใน Paris Motor Show 2018
>> คันเดียวจบ Black Bird รถยนต์สำหรับการถ่ายหนังที่สามารถกลายเป็นรถอะไรก็ได้

ขุมกำลังของ McLaren 600LT

McLaren 600LT มีขุมกำลังเครื่องยนต์ 8สูบ ปริมาตร 3.8ลิตร ให้กำลัง 600แรงม้าที่7500รอบต่อนาที พร้อมด้วยเทอร์โบคู่ และคลัชต์คู่ 7สปีด ซึ่งเป็นตัวเดียวกับใน McLaren 570S แต่กลับมีกำลังที่มากกว่า กำลังของมันถูกพัฒนาให้มีมากขึ้นจาก 562แรงม้าต่อ443ปอนด์ กลายเป็น 592แรงม้าต่อ457ปอนด์ กำลังที่มากขึ้นนี้มาจากการปรับจูนเครื่องล้วนๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนหลักใดๆของเครื่องยนต์ นอกจากนั้นด้วยน้ำหนักของตัวรถ McLaren 600LT ที่ลดลงอีกก็สร้างกำลังได้มากขึ้นราวๆ 46แรงม้า ส่วนระบบส่งกำลังนั้นมีการปรับแต่งให้ตอบสนองเร็วขึ้นถึง 25% จากเทคโนโลยี Cylinder-cut และ Inertia-push ที่มีให้เห็นบ้างแล้วใน McLaren รุ่นอื่นๆ ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและเร็วจนความรู้สึกมนุษย์แทบจับไม่ได้ด้วยเวลาประมาณ 40-50 มิลลิวินาทีเท่านั้น ความเร็วที่ McLaren 600LT ทำได้จากหยุดนิ่งไปจนถึง 100กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 2.9วินาทีเท่านั้น และวิ่งไปถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เวลา 8.2วินาที และไปสุดที่ความเร็วสูงสุดที่ 328กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่

สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ใน McLaren 600LT ไม่ใช่ระบบอะไรที่ล้ำสมัยมากนักเพราะต้องการตอบสนองสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ของผู้ขับมากกว่าที่จะให้รถมาช่วยขับให้ จึงมีระบบหลักๆอย่างเช่น ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่, ระบบ Cruise Control, ระบบตรวจสอบลมยาง และระบบเบรกมืออิเล็กทรอนิกส์  

รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน

รูปลักษณ์ภายนอกยังคงกลิ่นอายของ McLaren เสริมทัพด้วยไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมด้วยระบบเปิดปิดและปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และใช้กระจกทุกบานที่ออกแบบมาให้เบาเป็นพิเศษ ส่วนโค้งตั้งแต่ฐานหน้ารถไล่มายังกระจังหน้าพาดผ่านไฟหน้าทั้งสองดวงยิ่งทำให้เห็นกลิ่นอายของ McLaren Longtail มากขึ้น และช่องระบายอากาศด้านข้างที่ออกแบบให้อากาศไหลผ่านได้มากขึ้นเพื่อการระบายความร้อนภายในของเครื่องยนต์ และจุดเล็กๆนี้เองที่ให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มีมากขึ้นด้วยเพราะไม่กี่มิลลิเมตรของช่องระบายอากาศก็สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญให้กับระบบระบายความร้อนได้เลย ส่วนภายในยืนพื้นหลักเป็นสีดำพร้อมกับรอยเย็บตะเข็บคู่ที่เบาะนั่งทั้ง2ที่นั่ง ตรงกลางเป็นหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีนขนาด7นิ้วที่วางในแนวตั้งเพื่อสร้างความโดดเด่น พร้อมระบบนำทางที่แสดงผลการเลี้ยวในทุกๆมุมถนน เหนือจอแสดงผลเป็นช่องลมของเครื่องปรับอากาศที่แยกอิสระซ้ายขวา

ภายในที่เน้นสีหลักเป็นดำ พร้อมกับหน้าจอในแนวตั้งแบบทัชสกรีน 7นิ้ว

ภายในที่เน้นสีหลักเป็นดำ พร้อมกับหน้าจอในแนวตั้งแบบทัชสกรีน 7นิ้ว

ภายในที่เน้นสีหลักเป็นดำ พร้อมกับหน้าจอในแนวตั้งแบบทัชสกรีน 7นิ้ว

McLaren 600LT เป็นรนถยนต์สปอร์ตในซีรีย์ Longtail ที่ยังคงอัตลักษณ์สำคัญเอาไว้ได้ครบ โดยเฉพาะเรื่องของการลดน้ำหนักของตัวรถยนต์โดยรวมและการผสานความรู้ทางด้านการออกแบบของอากาศพลศาสตร์ ทำให้ดีไซน์ที่ได้นอกจากจะสวยงามแล้วยังทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์เดิมๆสร้างผลลัพธ์ได้ดีมากกว่ารุ่นพื้นฐานเรียกได้ว่าเป็นความแรงอย่างมีคุณค่าจริงๆ เพราะไม่ต้องออกแบบเครื่องยนต์อัดกำลังแรงม้าเข้าไปให้มากขึ้นก็ยังสามารถใช้สิ่งเดิมๆมาทำให้กำลังสูงขึ้นได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบรถยนต์สปอร์ต McLaren 600LT นี้เป็นรถยนต์อีกคันหนึ่งที่เรียกได้ว่าต้องตราตรึงไว้ในใจกับพลังที่มหาศาลด้วยน้ำหนักที่เบาราวกับรถเล็ก ซึ่งทำให้สงสัยกันต่อไปว่าในรุ่นต่อๆไป จากคำถามเดิมที่ว่า “เราจะทำให้มันดีกว่านี้ได้อย่างไร” จะนำความรู้หรือเทคโนโลยีอะไรมาช่วยในการสร้างสรรค์รถยนต์ของ McLaren อีก

ดูเพิ่มเติม
>> เปิดตัว Supercar ดีไซน์ล้ำสมัย Ferrari Monza SP1 และ SP2 ในงาน Paris Motor Show 2018
>> ส่องสเปครถยุโรปคันงามในงาน Paris Motor Show 2018

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
อ่านรีวิวรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์  เชิญที่นี่