GM ลอยไม่เลิก! เริ่มปล่อยพนักงานออกอีก 4 พันคน

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 4 ก.พ 2562

GM ได้เริ่มไล่ปล่อยตัวพนักงานออกอีกประมาณมากกว่า 4.2 พันคนตลอดเดือยกุมภาพันธ์นี้

ในส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างให้เป็นบริษัทใหญ่ขึ้น GM จะเริ่มลดพนักงานว่าจ้างอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ (4 กุมภาพันธ์) และการแยกทางกันอย่างไม่สมัครใจจะมีต่อไปในตลอดเดือนนี้ จากการอ้างอิงของแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนต่าง ๆยังไม่ชัดเจนว่าแผนกไหนจะลดจำนวนพนักงานก่อนกัน

การลอยแพครั้งนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดในการปรับโครงสร้างที่ครอบคลุมบริษัททุกสาขาทั่วโลกประกอบด้วยการปิดทำการโรงงาน5แห่งในอเมริกาเหนือภายในปีนี้ คาดว่าจะประหยัดเงินได้สูงถึง $2.5 พันล้านในปี 2019 และรวมกันได้ $6 พันล้านภายในปี 2020 โรงงานที่อาจต้องปิดทำการประกอบด้วย Detroit-Hamtramck, Warren Transmission Baltimore และ Lordstown ที่รัฐโอไฮโออีสาน

ดูเพิ่มเติม
>> ทีเซอร์แรกของ All-New Chevrolet Trax 2019 รอเปิดตัวที่อเมริกา
>> Cadillac เผยโฉม EV รุ่นแรกหลังรับบทผู้นำรถพลังไฟฟ้า GM

แมรี่ บาร์ร่า CEO GM

โดยรวมแล้ว GM จะลดพนักงานจ้างกับพนักงานตามสัญญา 8,000 รวมคนเดือนนี้ ตามแหล่งข่าว ในส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างนั้น ทางค่ายยังลดพนักงานบริหารทั่วโลกจำนวน 1 ใน 4 แต่ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ “เรายังไม่ยืนยันเรื่องจังหวะ” GM แถลงการณ์ต่อ The News “ลูกจ้างของเราต้องมาก่อน และเราจะคุยกับพวกเขาก่อน” ก่อนมีการแยกทางกันอย่างไม่สมัครใจ GM เสนอซื้อสัญญาคืนให้ลูกจ้าง 18,000 เมื่อวันฮัลโลวีน (31 ตุลาคม) 2018 ในบันทึกภายในที่ The News ได้มาหลังครบกำหนดการรับขอเสนอขายสัญญา แมรี่ เทเรซ่า บาร์ร่า-แมเกแล CEO GM กล่าวว่ามีลูกจ้างประมาณ 2,250 คนขอข้อเสนอแยกทางโดยสมัครใจ การลดพนักงานที่มีสัญญาของ GM เสร็จสิ้นแล้วจำนวนมากโดยบริษัทปล่อยพนักงานออกไป 1,500 คน

แผนของ GM ในการเริ่มลอยแพพนักงานจ้างถูกนิยามโดยเดวิด คูดลา CEO ของ Mainstay Capital Management ในกร็องด์บล็องก์ (เจนซี่, รัฐมิชิแกน) ว่า Black Monday CEO เดวิดบอกกับ The News ว่าการลอยแพน่าจะเริ่มตอน 7.30 น. (คืนวันที่ 4 ในไทย) และ “ต่อเนื่องไป” จุดเริ่มการลอยแพของ GM เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายกับทั้งปี 2018 ในงานของนักลงทุนก่อนหน้านี้ GM กล่าวว่ารายรับที่คาดไว้จากส่วนบางอาจมากขึ้นจาก $5.80 เป็น $6.20 ที่คาดไว้ตอนแรก ทางค่ายยังคาดว่าจะทำเงินหมุนเวียนได้มากกว่าที่คาดไว้ที่ $4 พันล้านด้วย

แผนการนี้ได้คำชมจากนักลงทุนมากมาย แต่บางคนที่วอลสตรีทยังคงเคลือบแคลงใจ “นักลงทุนหลายคนมองว่า GM “เอาตัวรอด” มากกว่าลดต้นทุนให้เร็วกว่าแรงลมต้านในอุตสาหกรรม, การเหลือส่วนต่าง และความช่วยเหลือการหมุนเงินด้วยการหมุนเงินที่มั่นคงกับรายรับของเงินทุน เราไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้” มอร์กัน สแตนลีย์ อดัม โจนาส ระบุไว้หลังรอบสื่อของดีทรอยท์ ออโต้โชว์ “เราเชื่อว่าการประหยัดต้นทุนจะส่งต่อหาผู้บริโภคเป็นราคา... บางสิ่งกับที่อุตสาหกรรมนี้มีตัวอย่างมากมายมาก่อน”

ภาพต้นแบบของ GM Cruise

ในการประเมินพนักงานและสร้างรอยเท้า GM กำลังหวังที่จะปรับจุดยืนตัวเองเพื่ออนาคตที่มองเรื่องรถไร้คนขับกับไร้มลพิษ แม้ว่าจะผลิตรถรุ่นปัจจุบันที่เน้นไปที่รถกระบะกับ รถ SUV ทำกำไรงามต่อไป

ทางค่ายกำลังแบ่งการลงทุนไปกับรถEVและเซลล์พลังงานบ้างแล้วก่อนจะลุยแผนเปิดตัวรถไร้มลพิษ 20 รุ่นภายในปี 2023 และ GM Cruise แผนกพัฒนารถไร้คนขับ ได้ดึงดูดเงินลงทุนหลายพันล้านจากบริษัทลงทุนญี่ปุ่นอย่าง SoftBank Investment Advisers และ Honda

ยังไม่ชัดเจนว่าแผนกไหนจะลดพนักงานออกไปมากสุดเพราะ GM มีโปรแกรมชดเชยสำหรับการแยกทางไม่เต็มใจ แต่ทางค่ายกำลังจ้างคนเพิ่มในแผนกที่กำลังเติบโตอย่างรถไร้คนขับ,การเดินทางแบบอื่น และรถEVในขณะเดียวกันที่บริษัทลดจำนวนการลงทุนเครื่องยนต์น้ำมัน/ดีเซลในอนาคต “การลงทุนภาคบังคับ” ในเครื่องยนต์น้ำมัน/ดีเซลของ GM “ส่วนใหญ่ยุติแล้ว” มาร์ค ไลล์ รอยส์ ประธาน GM บอกกับ The News ที่งานพิเศษของดีทรอยท์ ออโต้โชว์ เขาได้เลื่อนชั้นเป็นรองนายใหญ่เพื่อนำการปฏิรูปด้วยสินค้าของค่ายในปีนี้

มาร์ค รอยส์ ประธาน GM เป็นที่รู้จักจากการขับรถ Chevrolet Corvette Pace Car ชนยับก่อนการแข่ง IndyCar ดีทรอยท์ GP-2 ที่เบลล์ ไอเอิล