Aston Martin ได้นำมิติใหม่ของพลศาสตร์จากการแข่งขันและสมรรถนะมาสู่ตระกูล DB11 ด้วยการเปิดตัว DB11 AMR ใหม่ เปิดตัววันนี้ที่ AMR Performance Centre แห่งใหม่ภายในสนาม Nürburgring (เนือร์บวร์กริง)
Aston Martin DB11 AMR 2018
มาเพื่อแทนที่ DB11 V12 ในฐานะ DB11 รุ่นเรือธงตัวใหม่ DB11 AMR ให้พลังแรงกว่า สมรรถนะมากขึ้น พลศาสตร์การขับดีขึ้น และเสียงท่อที่มีลักษณะกว่าเดิม ร่วมกับชุดตกแต่งเสริมภายนอกและภายใน รวมกันแล้วสิ่งเหล่านั้นสร้าง DB11 ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่มีชีวิตชีวาขึ้น แต่ยังรักษาความเป็นผู้ใหญ่และสมรรถนะรุ่น GT ที่ทำลายล้างทั้งทวีปไม่แบบต้องออกแรงที่เป็นที่รู้จักในรุ่น DB11 V12 ต้นตำรับ
AMR ที่ได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จในการแข่งขัน endurance ของทีมโรงงาน Aston Martin Racing ผลักดันซองสมรรถนะของแต่ละรุ่นของ Aston Martin จากที่เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2017 รุ่นปรับสมรรถนะได้ส่งไปที่ Vantage AMR และ AMR Pro โฉมก่อนหน้านี้ พร้อมรุ่นที่จะตามมาอย่าง Rapide AMR ที่คาดหวังอย่างมาก
หัวใจของ DB11 AMR คือเครื่องยนต์ Aston Martin 5.2 V12 เทอร์โบชาร์จคู่ ครั้งนี้ให้กำลัง 630 แรงม้า ทำให้ DB11 AMR ได้ม้าเพิ่มมา 30 ตัวเมื่อเทียบจาก DB11 V12 และแรงขึ้น 127 แรงม้าจากรุ่น DB11 V8 แรงบิดยังเหมือนเดิมอยู่ที่ 700 นิวตันเมตร เหยียบจาก 0-62 ไมล์/ชม. ได้ที่เวลา 3.7 วินาที เร็วขึ้น 0.2 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดทำได้ 208 ไมล์/ชม. ทำให้ DB11 AMR เป็นรถ GT ที่เร็วสุดในโลกคันหนึ่งและเป็นรุ่นที่เร็วสุดในรถ Aston Martin ที่ผลิตในปัจจุบัน
ดูเพิ่มเติม:
>> Aston Martin V12 Vantage V600 รุ่นลิมิเต็ดเริ่มทำการผลิตแล้ว
>> V8 ไม่น่าพอ! Aston Martin เล็งรื้อแผนผลิต Vantage V12
โลโก้ Aston Martin อันเป็นเอกลักษณ์
สมดุลที่สมบูรณ์แบบเกิดขึ้นจากความตื่นเต้นและความกลั่นกรอง การควบคุมรถของแชสซีส์ใน DB11 AMR ถูกกลั่นกรองโดยทีมพลศาสตร์ที่มีทักษะของ Aston Martin นำโดยหัวหน้าวิศวกร แม็ตต์ เบ็คเกอร์ งานของพวกเขาได้ให้สัมผัสที่ดีกว่าของการเชื่อมต่อโดยไม่ทำลายการขับขี่ที่นุ่มนวล ที่คล้ายกันคือ การเทียบเข้าเกียร์ใหม่และเสียงท่อไอเสียที่ดังขึ้นเล็กน้อยทำให้มั่นใจได้ว่า DB11 AMR แสดงลักษณะที่ชัดเจนมากขึ้นได้เมื่อใช้โหมด Sport
ประธานและ CEO ของ Aston Martin ดร.แอนดี้ พาล์มเมอร์พูดถึง DB11 AMR ว่า “ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2016 ตระกูล DB11 ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและฉลาด รุ่น V12 ขายได้เกือบ 4,200 คันในเวลานั้น ด้วยรุ่น V8 Coupe และ Volante ที่ไร้ที่ติทำให้เรารู้สึกว่ารุ่น V12 สามารถเผยศักยภาพเชิงกีฬาได้มากขึ้น ขณะที่ยังความเป็นรถ GT ที่สมบูรณ์ ด้วยการประยุกต์ใช้ชุดสมรรถนะที่พิจารณาอย่างรอบคอบและชุดตกแต่งสไตล์ DB11 ทั้งเร็วขึ้น ตั้ง 208 ไมล์/ชม.! และแม่นยำขึ้น การผสานที่ใช้และดูแลในมาตรฐานที่เท่ากันเพื่อสร้างพลศาสตร์และเรือธงตัวใหม่ที่ยั่วยวนในตระกูล DB11 ขณะที่กำลังรวม DB11 V12 เป็นหนึ่งเพื่อนำมาเป็นรถสะสมในอนาคต”
ธีมห้องโดยสารสีโมโนโทนและลายเส้นสีเขียวมะนาวตรงกลาง
จากรูปลักษณ์ DB11 AMR มีจุดเด่นที่แผ่นประสานของคาร์บอนไฟเบอร์ลายเปิดและรายละเอียดสีดำแวบวับที่รวมภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน ภายนอกส่วนโลหะเงาทั้งหมดใช้สีโมโนโครม: ไฟหน้าล้อมสีเข้มกับไฟท้ายควันเสริมด้วยกระจังหน้าสีเข้มและท่อไอเสีย; หลังคาสีดำแวบวับ, แผ่นขนาบข้างพร้อมฐานประตูข้างและตัวแยกที่ให้สีตัดกันที่บอบบางพร้อมหอกกระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ลายถักและแผ่นขนาบข้าง ธีมสีเข้มยังใช้ต่อไปภายในรถ ด้วยหนังสีโมโนโทนกับหุ้มด้วยอัลกานตาร่าและลายเส้นสีเขียวมะนาวตรงกลางที่ตัดกันอย่างเข้มข้น ขณะที่ DB11 AMR มีพวงมาลัยสปอร์ตหนังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากสีและลายที่มีให้เลือกตามปกติแล้ว DB11 AMR ยังมีให้เลือกแบบที่ดีไซเนอร์ทำมาให้เฉพาะสามแบบ รวมถึงรุ่นพิเศษ AMR Signature Edition ที่ใช้สี Stirling Green สุดบาดใจและชุดลายสีเขียวมะนาว ด้วยหนังสี Dark Knight และรายละเอียดสีเขียวมะนาว พร้อมด้วยเกียร์สี Satin Dark Chrome และลายคาร์บอนไฟเบอร์ซาติน มีจำกัด 100 คันทั่วโลก AMR Signature Edition เสนอขายที่ราคา 201,995 ปอนด์
ดูเพิ่มเติม:
>> รอบหลายปี! Aston Martin ทำกำไรรายปีได้แล้ว
>> Aston Martin Vantage S Great Britain Edition ดีไซน์เนี๊ยบ สุดหรู บุกตลาดจีนแผ่นดินใหญ่
ด้านหน้าของ Aston Martin DB11 AMR 2018
ทีมตกแต่งของ Aston Martin ยังได้ให้ชุดตกแต่งเสริมจัดเต็มสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสไตล์รถแข่งใน DB11 ประกอบด้วยที่คลุมเครื่องยนต์คาร์บอนไฟเบอร์ ฝาปิดท่อไอเสีย และสปอยเลอร์ถอดได้ที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมลงตัวถังภายนอก ขณะที่พวงมาลัยสปอร์ตคาร์บอนไฟเบอร์และปุ่มเปลี่ยนเกียร์นำพื้นฐานเดิมของ AMR มาไว้ในห้องโดยสาร สำหรับผู้ที่จะใช้รถเที่ยวสุดสัปดาห์ ชุดสัมภาระปักเย็บโดยผู้เชี่ยวชาญมแถมให้เพื่อเหมาะกับสเปคของรถ
Aston Martin DB11 AMR ราคาเริ่มต้นที่ 174,995 ปอนด์ใน UK, 241,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 218,595 ยูโรในเยอรมัน โดยลูกค้ากลุ่มแรกจะได้รับรถภายในไตรมาสสองของปี 2018
Chobrodขอฝากความรู้สั้นๆ: ความสำเร็จในการแข่งขัน endurance ของทีมโรงงาน Aston Martin Racing ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือแชมป์ในรุ่น GT ของเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง 3 สมัย ประกอบด้วย