หลังจากได้ยลโฉมรถ All new Lexus ES 2018 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนที่แล้วได้ไม่นาน วันนี้ทาง chobrod.com อยากนำเสนอ 7 สิ่งที่ต้องรู้ของ All new Lexus ES 2018 เผื่อใครอยากได้รถใหม่แบบสไตล์ผู้บริหาร จะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
New Lexus ES
Lexus แบรนด์รถที่หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในไทยอาจดูเงียบเหงา แต่ในต่างประเทศถือว่าได้รับความนิยมพอสมควร ซึ่งทำให้ Lexus ยังคงพัฒนารุ่นใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ก็ได้เปิดตัว All new Lexus ES 2018 เจเนอเรชั่นที่ 7 รถซีดานขนาดหรูขนาดกลางในงาน Beijing Motor Show 2018 ที่รูปลักษณ์คล้าย LS แต่โฉบเฉี่ยวขึ้น
วันนี้ทาง chobrod.com ก็เลยเสาะหาข้อมูลมาให้เหล่าสมาชิก Lexus ได้รู้กันว่ามี 7 สิ่งอะไรในรถ All new Lexus ES 2018 ที่เพิ่งเปิดตัวนี้บ้าง
1. ดีไซน์ภายนอก
การออกแบบตามเอกลักษณ์ประจำค่าย ด้วยดีไซน์ทรงเรขาคณิตที่ช่วยทำให้ทันสมัย โฉบเฉี่ยว และหรูหรามากกว่าเดิม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Spindle Grille แต่ละกระจังไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่น รุ่น ES 300h และ ES 350 ดีไซน์เป็นแบบแนวตั้ง ส่วน F-Sport ออกแบบแนวหลังคาให้ลาดเทไปด้านหลังมากกว่ารุ่นเดิม ช่วยให้ดูสปอร์ตมากขึ้น และช่วยปรับปรุงหลักอากาศทางพลศาสตร์ เพิ่มสมรรถนะความเร็วให้กับรถได้ดีเยี่ยม
การออกแบบภายนอกที่โฉบเฉี่ยวและหรูหราของ Lexus ES 2018
2. การออกแบบภายใน
การออกแบบห้องโดยสารของ All new Lexus ES 2018 เป็นคอนเซปต์ Lexus Future Interior ที่เน้นความสะดวกสบายของทั้งคนขับและผู้โดยสาร วางแผงหน้าปัดและหน้าจอแสดงผล infotainment ที่ใกล้กันทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความสบาย ส่วนวัสดุภายในรุ่น ES 300h และ ES 350 ก็ยังเน้นความปราณี ตกแต่งด้วยลายไม้ Matte Bamboo, Linear Dark Mocha และ Linear Espresso wood ส่วนในรุ่น F Sport ตกแต่งด้วยวัสดุ Hadori alumium การออกแบบในรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากดาบโบราณญี่ปุ่น ทำให้ดูดุดันโฉบเฉี่ยว มีระบบนำทาง และรองรับการสั่งด้วยเสียงพูดแบบธรรมชาติจาก Amazon Alexa
ทาง Lexus กล่าวว่าการเน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสารถือเป็นเอกลักษณ์ของ Lexus และในเจเนอชั่นนี้ก็ยังคงทำเช่นเดิม แม้จะมีการออกแบบที่เพรียวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ โดยได้ออกแบบเพื่อให้การเดินทางไกลนั้นเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจ
การออกแบบภายในที่เน้นความสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
3. ขุมพลัง
Lexus ในรุ่น ES 300h ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 2.5 ลิตร VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที เมื่อทำงานประสานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร แต่หากเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และประสานงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT จะให้พลังแรงม้าถึง 215 แรงม้า (PS)
ขุมพลังของ Lexus ES 2018 ที่ยังคงประสิทธิภาพ
ส่วนในรุ่น ES 350 และ ES 350 F Sport เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาดความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 302 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที ที่แรงบิดสูงสุด 362 นิวต้นเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ใช้ระบบเกียร์ Direct Shift ระบบเกียร์อัตราทดแปรผัน ช่วยให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดในเวลาขับด้วยเกียร์ต่ำ และสร้างอัตราเร่งการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมในการออกตัวจากตำแหน่งหยุดนิ่ง
ดูเพิ่มเติม
>>Lexus ES 2018 ใหม่ เตรียมเปิดตัวในงาน Beijing Motor Show
>>เผยทีเซอร์ Lexus ES 2019 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
4. แชสซี
การออกแบบของ All new Lexus ES 2018 ถูกสร้างบนพื้นฐานเดียวกับ Toyota รุ่นใหม่ที่ใช้โครงสร้าง TGNA อย่าง Toyota Avalon ซีดานขนาดกลางที่ทำตลาดในอเมริกาเหนือ รวมถึง Toyota Camry ด้วย Platform ที่ All new Lexus ES เลือกใช้เป็นตัวถัง GA-K ที่พัฒนาขึ้นใหม่ สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งมีความสามารถทัดเทียมกับ Platform ขับเคลื่อนล้อหลัง GA-K ในรุ่น LC คูเป้ และ LS ซีดาน และการที่ผลิตจากเหล็กหลายเกรดทำให้ทนต่อแรงดึงสูง และช่วยลดน้ำหนักของตัวถังลง
ส่วนช่วงล่างเป็นการออกแบบ multi-link ที่มาพร้อมจุดยึดใต้เบาะหลังแบบ V-brace พวงมาลัยเป็นไฟฟ้า EPS ที่ช่วยทำให้การควบคุมเฉียบคมขึ้น ในรุ่น F Sport จะเพิ่มช่วงล่างแบบ Adaptive Variable Suspension และรูปแบบการขับขี่ Sport+
การออกแบบ Lexus ES ถูกสร้างบนพื้นฐานเดียวกับ Toyota รุ่นใหม่
5. ES 300h Hybrid
Lexus ES 300h hybrid เป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้ระบบ Atkinson Cycle สามารถสร้างให้เครื่องยนต์มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงกว่าเครื่องยนต์ปกติ ซึ่งส่งผลให้เผาไห้เชื้อเพลิง ได้หมดจดมากขึ้น หมายความว่าใช้เชื้อเพลิงน้อยแต่ให้พลังงานมาก จึงประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ในรุ่น EX 300h hybrid นี้มีความจุขนาด 2.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ขุมพลัง 215 แรงม้า ซึ่งเครื่องยนต์ของรุ่นนี้ Lexus กล่าวว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพอย่างล้นเหลือ
6. ES 350 F Sport
ในรุ่น ES 350 F Sport ได้เพิ่มระบบการสั่นสะเทือน พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามใจคนขับกับระบบ Drive Mode Select การออกแบบภายนอกที่แตกต่างจากรุ่นทั่วไป ด้วยการออกแบบที่สปอร์ตมากขึ้น และช่วยปรับปรุงหลักอากาศทางพลศาสตร์ เพิ่มสมรรถนะความเร็วให้กับรถได้ดีเยี่ยม ล้อขนาดมาตรฐาน 19 นิ้วที่ใหญ่กว่ารุ่นอื่นๆ ซึ่งดูผิวเผินแล้วคล้ายกับรุ่น LC ทั้งยังมีสีให้เลือกเพิ่มอีก คือสี Ultrasonic blue Mica
คาดว่า All new Lexus ES จะออกจำหน่ายช่วยปลายเดือนสิงหา หรือต้นเดือนกันยา
7. จำหน่ายตอนไหน และราคาเท่าไหร่
คาดว่า All new Lexus ES 2018 นี้จะออกวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายนในสหรัฐอเมริกา ราคายังไม่เป็นที่แน่ชัดแต่มีกระแสออกมาว่า ES 350 น่าจะเริ่มต้นประมาณ 38,000 เหรียญ ซึ่งยังคงรอลุ้นกันต่อไปว่า Lexus จะประกาศขายเท่าไหร่
เป็นยังไงบ้างสำหรับสาระดีๆที่ทาง chobrod.com นำมาแนะนำวันนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากซื้อรถซีดานขนาดกลางได้ แต่อาจต้องอดใจรออีกซักหน่อย
ดูเพิ่มเติม
>>Lexus LC500 บุกตะลุยใน Black Panther
>>Lexus ประกาศ LS 500h 2018 สู้ BMW Benz Audi