ยักษ์วงการรถ Toyota-Honda-Nissan จับมือภาครัฐ ผลิตแบต Solid-State

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 9 พ.ค 2561
แชร์ 2

ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยม และกำลังรุกตลาดอาจต่อเนื่อง ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์รถไฟฟ้าได้รับการพัฒนาด้วยเช่นกัน ล่าสุดรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นร่วมมือกับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota-NIssan-Honda ร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Solid-State

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

แผนการร่วมมือกันครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ภายใต้ความร่วมมือของสถาบันวิจัย Consortium for Lithium Ion Battery Technology and Evaluation Center (Libtec) ที่มีสมาชิก Asahi Kasei, Toray Industries, Kuraray, Panasonic และ GS Yuasa และรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งก็คือกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น จะเป็นเจ้าภาพลงทุน 1,600 ล้านเยน หรือราว 468 ล้านบาท โดยได้ร่วมมือกับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota-Nissan-Honda ผลิตแบตเตอรี่เพื่อรองรับความต้องการตลาดที่กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

การพัฒนาแบตเตอรี่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น

การพัฒนาแบตเตอรี่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น​

ทั้งนี้แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่าแบตเตอรี่ solid-state ของ Toyota นั้นล้ำหน้าที่สุดแล้ว โดยเป็นการนำของเหลว electrolytes ในแบตเตอรี่ lithium-ion มาเปลี่ยนเป็นของแข็ง ลดการรั่วซึม ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังมีส่วนประกอบน้อยกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และให้พลังงานสูงกว่า แต่ทว่าขั้นตอนของการพัฒนาแบตเตอรี่ solid-state นั้นยุ่งยากกว่าแบตเตอรี่ lithium-ion ทำให้ไม่สามารถผลิตเพื่อพาณิชย์ได้ หลายหน่วยงานมาร่วมหาทางออก ซึ่งก็เกิดเป็นโปรเจ็คนี้ขึ้นมา 

ดูเพิ่มเติม
>>นิสสันร่วมมือซูชิโมโตและ 4R ตั้งโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในญี่ปุ่น
>>GPSC ลงทุน 50 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ สร้างโรงงานผลิต Battery Lithium-Ion ต้นแบบแห่งแรก

 

 

นอกจากญึ่ปุ่นต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่แล้วก็ยังมีเป้าหมายกลับมาครองตลาดด้วย

นอกจากญึ่ปุ่นต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่แล้วก็ยังมีเป้าหมายกลับมาครองตลาดด้วย

เป้าหมายในการพัฒนาแบตเตอรี่ในครั้งนี้คือการเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้มีขนาดเล็ก มีความปลอดภัย และราคาถูก เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ lithium-ion  ซึ่งทาง Libtec วางแผนไว้ว่า แบตเตอรี่แบบนี้จะสามารถขับเคลื่อนรถยนต์พลังไฟฟ้าได้ระยะทางราว 550 กิโลเมตรได้ภายในปี 2025 และเพิ่มเป็น 800 กิโลเมตรได้ภายในปี 2030 

นอกจากนี้เป้าหมายความร่วมมือครั้งนี้ก็เพื่อการนำญี่ปุ่นกลับมาครองตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เคยมีส่วนแบ่งในปี 2013 ถึง 70% แต่ลดลดในปี 2016 เหลือเพียง 41% สวนทางกับประเทศจีนที่มีการเพิ่มเป็น 26% ในปี 2016 แต่จะสามารถทำได้หรือไม่ก็ต้องรอดูอีกที

ดูเพิ่มเติม
>>5 อันดับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำระยะทางได้ไกลสุดประจำปี 2018
>>Honda เดินหน้าพัฒนาแบตเตอรี่โซลิด-สเตท รายล่าสุด


Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย

แท็ก electric car