ฟอร์ดปิดโรงงานที่รัสเซีย หลังเห็น”ตลาดรถนั่ง”วิกฤตหนัก

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 29 มี.ค 2562
แชร์ 3

สถานการณ์ของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติอเมริกาอย่าง "ฟอร์ด" กำลังส่อเค้าว่าจะวิกฤตอย่างหนัก

เพราะล่าสุด "ฟอร์ด" ประกาศจะปิดโรงงาน 3 ใน 4 แห่งในประเทศรัสเซีย ซึ่งบางส่วนก็เป็นบริษัทที่เป็นพันธมิตรทางการค้ากับฟอร์ดเองด้วย และสาเหตุหลักของการปิดโรงงานเพราะยอดขายรถยนต์ของฟอร์ดในแดนหมีขาวตกต่ำลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง

แถลงการณ์ของฟอร์ดระบุไว้ว่า ฟอร์ดได้ลงนามในข้อตกลงกับ "โซลเลอร์" พันธมิตรทางการค้าในประเทศรัสเซียว่า ต้องการปรับโครงสร้างขนาดใหญ่ในกิจการร่วมค้าของทางบริษัทในรัสเซีย โดยมุ่งเน้นเดินหน้าขยายการเติบโตของธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์แต่เพียงอย่างเดียว

ฟอร์ดในประเทศรัสเซียกำลังเจอบททดสอบครั้งใหญ่จากตลาดรถ

ฟอร์ดในประเทศรัสเซียกำลังเจอบททดสอบครั้งใหญ่จากตลาดรถ

"กิจการร่วมค้าจะหยุดดำเนินธุรกิจรถยนต์นั่งสวนบุคคลในรัสเซีย เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นและมีผลกำไรอย่างยั่งยืน" ฟอร์ดระบุ

นัยยะของถ้อยแถลงนี้ จึงเป็นการตอกย้ำกับข่าวลือที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า "ฟอร์ด" จะหยุดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศรัสเซียแล้ว และหันมาเดินหน้ากับการผลิตรถยนต์เพื่อการพานิชย์เพียงอย่างเดียว และมันส่งผลต่อเนื่องมาว่า "โรงงานผลิตรถยนต์" ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีมากมายอีกต่อไป

ดูเพิ่มเติม
>> 
‘ฟอร์ด-จากัวร์’กระอัก ปรับลดพนักงานสู้ขาดทุน
>> เตรียมปล่อย Ford Explorer 2020 ใหม่ 1.046 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ฟอร์ด ออกมาย้ำกับสาธารณะว่า ไม่เกินเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทจะปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเมืองนาเบเรจเนีย เชลนี ในสาธารณรัฐตาตาร์สถาน ทางภาคกลางของรัสเซีย นอกจากนี้แล้วพวกเขาจะปิดโรงงานผลิตเครื่องยนต์ในเมืองเยลาบูกา ในตาตาร์สถาน ซึ่งเพิ่งเปิดปฏิบัติการเมื่อปี 2015 ด้วย

ตลาดรถที่ส่งผลทำให้ฟอร์ดต้องปิดโรงงานบางส่วนในรัสเซีย

ตลาดรถที่ส่งผลทำให้ฟอร์ดต้องปิดโรงงานบางส่วนในรัสเซีย 

ทั้งนี้สาเหตุการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ของฟอร์ด หนึ่งในสาเหตุหลักคือ "ตลาดรถ" ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในรัสเซีย เกิดภาวะกดดันอย่างหนักในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะมีการฟื้นตัวของตลาดที่ล่าช้ากว่าที่แต่ละค่ายรถยนต์คาดการณ์เอาไว้ กอปรกับราคาของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตกต่ำลง เพราะรัสเซียเองก็ถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติต่อกรณีแทรกแซงความขัดแย้งยูเครนและแรงกระแทกจากราคาน้ำมันโลก และฟอร์ดพร้อมกับพันธมิตรทางธุรกิจในรัสเซีย จึงได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้ไปเต็มๆ        

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นดัชนีหลักสำหรับวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ร่วงลงมากกว่าครึ่งระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามยอดขายรถยนต์ใหม่ในรัสเซียดีขึ้นในปี 2018 ถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็กลับมาชะลอตัวอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

รถยนต์นั่งจะไม่มีการขายอีกต่อไป แต่ฟอร์ดตั้งใจจะลุยรถเพื่อการพานิชย์อย่างเต็มสูบ

รถยนต์นั่งจะไม่มีการขายอีกต่อไป แต่ฟอร์ดตั้งใจจะลุยรถเพื่อการพานิชย์อย่างเต็มสูบ 

และผลพวงจากการฟื้นตัวช้าของตลาดรถยนต์ในรัสเซีย ทำให้โรงงานต่างๆถูกใช้ประโยชน์น้อยเกินไปและไม่คุ้มกับการลงทุน" แม้ว่ายอดขายรถตู้ "ฟอร์ด ทรานส์ซิท" จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีส่วนแบ่งตลาดในเซกเมนต์นี้ถือ 15% ก็ตาม

และเหตุการณ์ที่รัสเซียของฟอร์ดไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบปี 2562 นี้ เพราะฟอร์ดในเยอรมนี ก็มีการประกาศเมื่อ 15 มีนาคมที่ผ่านมาว่า มีแผนปรับลดพนักงานอีก 5,000 คน เพื่อให้แผนปรับโครงสร้างเพิ่มผลกำไรในกิจการยุโรปให้มากขึ้นกว่าเดิม

ข่าวนี้ถูกตีพิมพ์จากสื่อหลายสำนักของต่างประเทศ โดยอ้างคำแถลงการณ์ของโฆษกฟอร์ด ที่ระบุว่า ฟอร์ดมีเป้าหมายปรับลดพนักงานผ่านการสมัครใจลาออกและเกษียณอายุก่อนกำหนด "คำแถลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำประกาศปรับโครงสร้างของฟอร์ดในยุโรปเมื่อเดือนมกราคม ด้วยเป้าหมายนำพาธุรกิจในยุโรปหวนคืนสู่ผลกำไรเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"         

แน่นอนกว่าการปิดโรงงานไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะส่วนหนึ่งก็กระทบกับพนักงานเต็มๆ

แน่นอนกว่าการปิดโรงงานไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะส่วนหนึ่งก็กระทบกับพนักงานเต็มๆ 

"เป้าหมายนี้คือปรับลดพนักงานมากกว่า 5,000 คน ในแนวทางที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากที่สุดเท่าจะเป็นไปได้" โฆษกเผยโดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการปรับลดพนักงานตามโรงงานต่างๆของฟอร์ดทั้งในเมืองโคโลญจน์, อาเคินและซาร์ลุยส์

ทั้งนี้ หากวัดจำนวนตัวเลขพนักงานของฟอร์ดในทวีปยุโรป ก็พบว่ามีมากถึง 53,000 คน แต่ขณะที่จำนวน 24,000 คนก็เป็นคนงานในประเทศเยอรมนี ซึ่งแผนปรับลดพนักงานครั้งนี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ทีเดียว

แต่ท้ายสุดแล้ว ฟอร์ดไม่ใช่เจ้าเดียวที่มีแผนปรับลดพนักงาน หรือแผนปรับโครงสร้างขององค์กรเพื่อพยุงธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ หากแต่หลายค่ายก็เริ่มปรับทิศทางเพื่อสถานการณ์ของตลาดรถในอนาคตบ้างแล้วเหมือนกัน

ดูเพิ่มเติม
>> 
Ford เผยยอดขายปี 61 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
>> FORD ส่ง RANGER ควงแขน EVEREST ช่วงชิงตลาดรถพันธุ์ดุเมืองไทย

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่ 
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

กอล์ฟ กันติพิชญ์