ความเคลื่อนไหวของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2018 นับว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่ดีของวงการรถยนต์โลก และก็มีความคืบหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ตามไปดูรายละเอียดกันครับ
หากอุปมาอุปไมยอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยคือตู้ปลา อุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกก็เปรียบดั่งมหาสมุทร ด้วยขนาดของอุตสาหกรรมที่ใหญ่กว่าในประเทศไทยของเรามากๆ ทั้งยังมีรถยนต์มากมายหลายแบรนด์ที่บางแบรนด์พูดชื่อไป คนไทยหลายคนเองก็ไม่รู้จัก เซกเมนต์รถยนต์เองก็มีมากกว่าในบ้านเราด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรด้วยสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันถ้าลูกค้าชาวไทยพอใจกับสินค้าที่เรียกว่ารถยนต์ในตอนนี้ ก็นับว่าแบรนด์ที่มีอยู่ทำตลาดได้สำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
ยอดขายรถยนต์ของตลาดทั้งโลกเป็นอย่างไรบ้าง
แม้จะยังไม่หมดปี 2018 อย่างจริงๆจังๆ แต่ยอดขายรวมของทุกแบรนด์รถยนต์ทั่วโลกก็พอจะดูแล้วตอบได้ว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าปี 2017 ด้วยเหตุผลที่ว่าแค่ครึ่งปีก็ทำยอดขายทั่วทั้งโลกเพิ่มขึ้นเกือบ5% ซึ่งนับว่าเป็นมูลค่าที่ไม่น้อย เพราะเลข 5%นี้เป็น 5% ของยอดขายหลักหลายสิบล้านคันทั่วทั้งโลก ประเทศที่มียอดขายรถยนต์มากที่สุดทั่วทั้งโลกก็คือประเทศที่มีผลกระทบต่อคนทั้งโลกนั่นก็คือประเทศจีน ดังคำกล่าวที่ว่าแค่มังกรขยับตัวก็ทำโลกสั่นสะเทือน อันดับที่2ที่ยอดขายมากที่สุดก็หนีไม่พ้นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกคือ สหรัฐอเมริกา อันดับสามตามมาติดชนิดที่พยายามจะหายใจรดต้นคอสหรัฐอเมริกาให้ได้ก็คือประเทศญี่ปุ่น 3ประเทศนี้ คือประเทศที่มีอิทธิพลต่อวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกใบนี้ และทุกเทคโนโลยีที่สามประเทศนี้กำลังก้าวเดินไปก็จะทำให้วงการอุตสาหกรรมโลกเดินไปในทิศทางนั้นๆ
รถ SUV เป็นรถยนต์ที่คนทั้งโลกนิยมมากที่สุด
สำหรับรถยนต์เซกเมนต์ที่เป็นที่ต้องการของคนทั้งโลกมากที่สุด ขายดีที่สุดคือ SUV รถยนต์เอนกประสงค์ที่สมรรถนะโดนใจจากหลายๆค่าย ใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย จึงครองใจคนทั้งโลกได้ไม่ยาก เพราะแค่ครึ่งปีก็กวาดยอดขายจากทุกแบรนด์ทั่วโลกไปเกือบ15ล้านคัน ส่วนเซกเมนต์ที่ลูกค้าต้องการรองลงมาคือรถยนต์ขนาดเล็กหรือที่เรียกว่ารถยนต์คอมแพ็ค โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศมีความต้องการรถเล็กมากกว่าประเทศไทยเสียอีก
อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถทั่วโลกที่โตขึ้น ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการขยายตัวคือความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้น ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน สถานีชาร์จไฟ ระยะทางที่รถยนต์วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ค่าบำรุงรักษาของเครื่องยนต์ที่ไม่ต้องมี เช่น น้ำมันเครื่อง ทำให้อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าดูสดใสขึ้นอีกมาก
Tesla ผู้ที่จะมาพลิกโฉมวงการรถยนต์ของโลก
ดูเพิ่มเติม
>> คนไทยว่าไง? กับรถยนต์ Tesla กับการใช้งานประเทศไทย
>> กสิกรไทยชี้ "อิโคคาร์-รถยนต์ไฟฟ้า”ยอดพุ่ง-ยอดขายนับแสนคัน
สำหรับบริษัทที่สร้างชื่อเสียงด้านรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ในปี2018 ที่ผ่านมานี้ รถยนต์จากบริษัท Tesla ก็ยังคงเดินหน้ากวาดยอดขายราวกับขนมไปอีกมหาศาล แม้การเติบโตของยอดขายจะมีมาตลอด แต่ยอดขายมาพุ่งพรวดพราดก็ตอนปี 2018 ในปี2017นั้น ยอดขายรวมทั้งปีของ Tesla ประมาณ 103,000 คัน แต่พอมาในปี 2018 แม้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายจะยังไม่ได้ปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ แต่แค่3ไตรมาสรวมกันก็ทำให้ยอดขายสูงมากถึง 150,000 คันแล้ว นี่ถ้ารวมยอดขายไตรมาสสุดท้ายเข้าไปอีกอาจจะเกิน 200,000 คันก็ได้ ทำให้ Tesla ชิงตำแหน่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในสหรัฐอเมริกาไปได้อย่างไม่มีข้อสงสัย ในขณะที่ Chevrolet กลับประกาศยุติการทำตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Volt เป็นที่เรียบร้อย โดยจะทำตลาดถึงแค่เดือนมีนาคมปี 2019 เท่านั้น
Chevrolet Volt ที่ประกาศยุติการทำตลาดไปแล้ว
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจากแดนปลาดิบที่คลอดออกมาพร้อมๆกับ Chevrolet Volt ก็ยังคงครองยอดขายสูงสุดทั่วโลกต่อไป นั่นคือแบรนด์ Nissan ที่ทำให้ Nissan Leaf เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกนานต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และในปี 2018 ก็เอาเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากลองเชิงในงาน Motor Expo 2017 และ Motor Show 2018 มาสักพัก นอกจากนั้นแบรนด์อื่นๆที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าก็นำรถมาแสดงในงาน Motor Show 2018 มากขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว รถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยก็เพิ่งจะมาบูมกันตอนนี้สองสามปีหลังมานี้ ทำเอาอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยน่าจะสดใสเหมือนต่างชาติเป็นแน่
Nissan Leaf ที่ขายดีและนำเข้ามาทำตลาดในไทยเรียบร้อย
เรื่องอื้อฉาวของวงการรถยนต์
อาจจะเป็นเพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกนั้น ทำกำไรได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้ถือหุ้นก็คงได้ผลตอบแทนจากการทำงานและการลงทุนอย่างงดงาม รวมไปถึงข่าวการจับกุม Carlos Ghosn (คาร์ลอส โกส์น) ประธานกรรมการบริษัท Nissan และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสัน ที่แจ้งรายได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์โตเกียวต่ำกว่าความเป็นจริง และยังมีการทำผิดจรรยาบรรณของบริษัทอื่นๆอีกหลายข้อ นอกจากนั้นยังนำเงินบริษัทไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวอีกด้วย เนื่องจากเป็นประธานกรรมการจึงมีช่องว่างที่สามารถทำให้เกิดการทุจริตได้ง่าย แต่กว่าจะรู้ว่าคดโกงบริษัทก็ใช้เวลาโกงไปถึง 5ปี รวมเป็นเงินถึง 1,460ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2001-2016 จากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้หุ้นของบริษัทเรโนลด์ดิ่งลงทันที13% ส่วนหุ้นของNissan Nissanถึงกับต้องปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อข่าวแดงออกมา และทางบริษัทก็ออกมาขอโทษกับประชาชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่สบายใจ
ทาง Nissan ถึงกับต้องออกมาแถลงข่าวขอโทษต่อสื่อ
Carlos Ghosn มีสัญชาติฝรั่งเศส แต่เกิดในประเทศบราซิล อายุ64ปี เริ่มงานจากบริษัทมิเชลินที่เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี1979และก็ไต่เต้าเป็นผู้บริหารบริษัทในโซนอเมริกาเหนือจากนั้นก็ย้ายมาที่บริษัทเรโนลด์ในปี 1996 ถึงแม้ว่า Carlos Ghosn จะโกงบริษัทและถูกจับกุมไปในที่สุด แต่ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้เขาก็มีความสามารถในระดับหนึ่งทั้งยังนำพาบริษัทNissanพ้นจากวิกฤตทางการเงินจากการปรับโครงสร้างมาได้อย่างดี แต่ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนหากทำงานโดยไม่ได้ใช้ความสุจริตลูกค้าก็คงไม่สามารถไว้วางใจได้และยังส่งผลต่อแบรนด์ไปจนถึงยอดขายรถยนต์ของบริษัทด้วย
Carlos Ghosn ผู้ที่ถูกจับกุมหลังจากทุจริตในหน้าที่ของเขา
ดูๆแล้ว วงการรถยนต์ของโลกในปี 2018 ก็ดูจะมีแนวโน้มเติบโตและดึงความต้องการของลูกค้าออกมาซื้อรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลกำไรและการไหลเวียนของเงินตราในเศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ด้วย เมื่อเศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี ก็มีผลส่งให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นได้ด้วยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นอกจากนั้นรถยนต์ไฟฟ้าก็ใกล้ตัวชาวไทยเข้ามาทุกที แม้ในระดับโลกจะเริ่มเห็นกันจนชินตาไปแล้วแต่ในประเทศไทยก็เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเสียทีเมื่อ Nissan บริษัทยักษ์ใหญ่นำรถยนต์ Nissan Leaf EV 100% เข้ามาทำตลาดสวนกระแสข่าวการจับกุมประธานกรรมการของบริษัทในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
ดูเพิ่มเติม
>> Nissan มีช็อค! Carlos Ghosn โดนจับเพราะยักยอกรายได้
>> เจาะละเอียด รถไฟฟ้า Nissan LEAF ทำไมถึงแพง ?
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้