การมาถึงของ DENZA D9 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีความหรูหราและทันสมัย ในการรีวิว DENZA D9 นี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงคุณสมบัติของรถยนต์รุ่นล่าสุด ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า แต่ยังสอดรับกับความชอบของกลุ่มลูกค้าที่มองหาความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
DENZA D9 2024
DENZA D9 2025 ราคาเท่าไหร่ ?
- D9 Premium FWD ราคา 1,999,900 บาท
- D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท
DENZA D9 2025 มีให้เลือก 4 สี ดังนี้
- สีน้ำเงิน Whale Sea Blue
- สีดำ Quantum Black
- สีขาว Arctic White
- สีเทา Habour Grey
ราคา DENZA D9 2024: ราคาและตารางผ่อน DENZA D9 เดือนพฤศจิกายน 2567
ราคาและตารางผ่อน DENZA D9
รุ่น |
ราคา |
ดาวน์ |
ยอดดาวน์ |
ดอกเบิ้ย |
48 เดือน |
60 เดือน |
72 เดือน |
Premium FWD |
1,999,900 |
15% |
299,985 |
39,651 |
32,993 |
28,554 |
20% |
399,980 |
36,785 |
30,385 |
26,341 |
25% |
499,975 |
33,598 |
28,236 |
24,445 |
Performance AWD |
2,699,900 |
15% |
404,985 |
53,529 |
44,540 |
38,548 |
20% |
539,980 |
49,660 |
41,020 |
35,561 |
25% |
674,975 |
45,358 |
38,119 |
33,001 |
ราคา DENZA D9 2024: ราคาและตารางผ่อน DENZA D9 เดือนพฤศจิกายน 2567
รีวิว DENZA D9 2025
ภายนอก DENZA D9 2025
ดีไซน์ภายนอกของ DENZA D9 ปี 2025
ดีไซน์ภายนอกของ DENZA D9 ปี 2025 สะท้อนภาพลักษณ์ที่ล้ำสมัยและหรูหรา ผ่านแนวคิด DENZA π-Motion ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดีไซน์อย่างกลมกลืน
ส่วนด้านหน้าโดดเด่นด้วยดีไซน์ Pi Motion ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากฝนดาวตก ประตูไฟฟ้าคู่ด้านหลังเพิ่มความสะดวกสบายและหรูหรา ยางคุณภาพสูงช่วยลดเสียงรบกวนภายนอก มอบความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) ก็เป็นแบบ LED เช่นกัน ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential ไฟเบรกดวงที่สามเป็น LED พร้อมระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC) และฟังก์ชันหน่วงเวลาปิดไฟหน้า Follow-Me-Home เสริมด้วยไฟส่องมุมอับสายตาแบบ LED และไฟตกแต่งช่องชาร์จหลากสี ก้านปัดน้ำฝนไร้โครงเหล็กทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝน สำหรับรุ่น Performance AWD กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งกล
ภายใน DENZA D9 2025
DENZA D9 2025 โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในอย่างหรูหรา รุ่น Performance AWD มาพร้อมเพดานบุหนังกลับพรีเมียม ขณะที่รุ่น Premium ใช้เพดานผ้า ประตูหน้าทั้งสองข้างออกแบบให้ปิดได้อย่างนุ่มนวลด้วยระบบผ่อนแรง ภายในโปร่งสบายด้วยซันรูฟพร้อมม่านบังแดดสำหรับตอนหน้า และหลังคากระจกขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพิ่มอารมณ์ด้วยระบบไฟ Ambient Light ปรับสีได้หลากหลายโหมด แผงหน้าปัดเป็นจอ LCD 3 มิติ ขนาด 10.25 นิ้ว
ระบบความบันเทิงครบครันด้วยจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ ระบบเสียง Hi-Fi ระดับพรีเมียมจาก Dynaudio ให้เสียงคมชัดผ่านลำโพง 14 ตำแหน่ง เฉพาะรุ่น Performance AWD เพิ่มหน้าจอแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะแถวสองปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทางเช่นกัน ทั้งสองแถวมีระบบนวดและระบายอากาศ เบาะคู่หน้าและเบาะแถวสองมีระบบบันทึกตำแหน่ง ผู้โดยสารตอนหลังควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่ายผ่านหน้าจอ LCD บริเวณที่พักแขน พนักพิงศีรษะปรับระดับได้ เบาะหน้าปรับทรงได้ 2 ทิศทาง ส่วนเบาะแถวสองปรับได้ 4 ทิศทาง
เพิ่มความสะดวกสบายด้วยตู้เย็นขนาด 7.5 ลิตร ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -6 ถึง 50 องศาเซลเซียส มีที่วางแก้วมากถึง 12 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM2.5 รองรับการชาร์จไร้สาย 50W จำนวน 3 จุด (หน้า 1 จุด, หลัง 2 จุด) และมีช่องจ่ายไฟ 12V, USB-A และ USB-C รวม
ขุมพลัง DENZA D9 2025
DENZA D9 2025 มีสองรุ่นให้เลือก คือรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่
- รุ่นมอเตอร์เดี่ยวให้กำลัง 312 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ Blade Battery ลิเธียมไอออนความจุ 103.36 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งได้ไกลสุด 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC และมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 9.5 วินาที
- รุ่นมอเตอร์คู่ให้กำลัง 374 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ Blade Battery ลิเธียมไอออนความจุ 103.36 กิโลวัตต์ชั่วโมงเช่นกัน แต่ขับเคลื่อนสี่ล้อ วิ่งได้ไกลสุด 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC และมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.9 วินาที
รองรับการชาร์จทั้งแบบกระแสสลับและกระแสตรงผ่านหัวชาร์จ Type 2 และ CCS Combo สามารถชาร์จเร็วจาก 10% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 38 นาที
DENZA D9 2025
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของ DENZA D9 ปี 2025
- ระบบแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมการขับขี่ (DMS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันที่มีความฉลาด (ICC)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน (LDW)
- ระบบเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางในกรณีฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- ระบบเบรกเมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนที่ในจุดอับสายตาระหว่างถอยหลัง (RCTA)
- ระบบเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนที่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนที่ขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบควบคุมและป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบควบคุมการเคลื่อนไหวของรถอัตโนมัติ (AVH)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบควบคุมและป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI
DENZA D9 คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิดเพื่อความหรูหราและความสะดวกสบาย พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย DENZA D9 ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยคุณสมบัติและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าในตลาดที่มีความหรูหราและทันสมัย DENZA D9 จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยราคาและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำให้วันนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้ามาเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ DENZA นี้