เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยสเปคไฮไลต์คาร์ทั้ง 3 รุ่นที่เตรียมขายใน Motor Expo 2022

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 24 พ.ย 2565
แชร์ 0

สเปครถยนต์ไฮไลต์ของเบนซ์ทั้ง 3 รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ, Mercedes-AMG SL 43 และ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ที่เปิดจำหน่ายและรับจองภายในงาน Motor Expo 2022

benz Motor Expo 2022

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเผยแนวทางใหม่ในการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับงานจัดแสดงรถยนต์ Motor Expo 2022 โดยเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Vision of the Beyond”

อ่านเพิ่มเติม
Mercedes-AMG SL 43 (SL-Class) ตั้งราคา 11,700,000 บาท เปิดตัวในไทยที่งาน Motor Expo 2022
เบนซ์ เปิดไลน์ผลิต Mercedes-Maybach ในไทย ขายแบบอ็กซ์คลูซีฟกับ 4 ตัวแทน
Mercedes Benz EQS 2022 เปิดตัวรุ่นผลิตในไทย EQS 500 4MATIC AMG Premium เคาะราคา 7,900,000 บาท

นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่โดดเด่นเหนือระดับ และ  ไฮไลต์ของรถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นประกอบในประเทศคันแรกที่ผสานทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานที่แฟนและ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท

EQS 500 4MATIC AMG Premium คือยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายใน

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

ด้วยความตั้งใจในการออกแบบรถยนต์ระดับลักชัวรีบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น ภายใต้โครงสร้างตัวถังที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะแบบ EVA2 (Electric Vehicle Architecture Generation 2) รถยนต์รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium จึงผสานความเป็นที่สุดทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในทุกรายละเอียด และดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในก็ตอบรับความตั้งใจดังกล่าวนี้โดยผสานปรัชญา “Sensual Purity” ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้ากับแนวคิด “Progressive Luxury”

ให้ผลลัพธ์เป็นดีไซน์แบบไร้รอยต่อ (seamless design) ในทุก ๆ องศาของรถยนต์ เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าสีดำประดับด้วยลวดลายดาวสามแฉกเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz pattern radiator grille) ไฟหน้าความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยแบบ DIGITAL LIGHT พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร เชื่อมต่อกันด้วยเส้น 

light band ด้านบน ตามด้วยเส้นโค้งที่ต่อกันเป็นเส้นเดียวจากส่วนหน้าของตัวรถไปจรดส่วนท้ายที่ออกแบบมาในสไตล์รถยนต์ฟาสต์แบ็ก ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนไฟท้ายเป็นไฟท้ายเคลื่อนไหวแบบ Adaptive tail lights multi-level functionality ที่สวยงามชัดเจนในยามค่ำคืนแบบ 3D helix design

ห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ระดับไฮเอนด์แ ทั้งระบบ MBUX7 รุ่นล่าสุดพร้อมหน้าจอแบบ MBUX Hyperscreen รูปทรงโค้งมนที่ยาวต่อเนื่องกันกินพื้นที่จากเสา A-pillar ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งโดยซ่อนไว้ด้วยหน้าจอ 3 หน้าจอเป็นหน้าจอ OLED ขนาด 12.3 นิ้ว 17.7 นิ้ว และ 12.3 นิ้ว ฯลฯ หน้าจอเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลังควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสแบบ MBUX High-End Rear Seat จำนวน 2 จอขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนไร้สาย 2 ชุดซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ 

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ทรงพลังด้วยลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 15 ตัวที่พร้อมเปลี่ยนห้องโดยสารเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดของคุณ ระบบนวดผ่อนคลายสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า (Multicontour front seats) ที่มีให้เลือกมากถึง 6 โปรแกรม รวมถึงระบบเข้าใช้งาน user profile ที่มีความปลอดภัยด้วยระบบตรวจจับใบหน้ารวมถึงการสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตำแหน่งคนขับ นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศแบบ HEPA filter พร้อมระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ระบบปรับสมดุลอากาศพร้อมระบบกระจายน้ำหอมแบบ AIR BALANCE package และระบบแสดงภาพสำหรับระบบนำทางแบบ MBUX augmented reality 

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

ขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง

รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kWh  จึงใช้เวลาชาร์จเพียง 31 นาทีจาก 10-80%

Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยภายใน EQS 500 4MATIC AMG Premium นั้นจัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ทั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบ rear axle steering ที่ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วยล้อหลังที่สามารถเลี้ยวได้มากถึง 4.5 องศา รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist), ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist), ระบบช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร (Evasive Steering Assist) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ฯลฯ

รุ่น

มอเตอร์ไฟฟ้า

ความจุแบตเตอรี่ (kWh)

แรงม้าสูงสุด (แรงม้า)

แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

วิ่งได้สูงสุด (กม.)

EQS 500 4MATIC AMG Premium

มอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM

108.4

449

828 

4.8

210

702 (WLTP)

 

 Mercedes-AMG SL 43

Mercedes-AMG SL 43

Mercedes-AMG SL 43 ราคาเริ่มต้น 11,700,000 บาท

Mercedes-AMG SL 43 คือรถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงสุดหรูหราเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และเมื่อ “The Star is Reborn” อีกครั้ง จึงมาพร้อมกับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์

ดีไซน์ภายนอกคือการบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตพลังแรงและความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ทั้งกระจังหน้า AMG-specific radiator grille ไฟหน้า DIGITAL LIGHT สุดโฉบเฉี่ยว ล้ออัลลอย AMG multi-spoke light-alloy wheel ขนาด 20 นิ้ว หลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric soft-top และความสปอร์ตสุดเท่ของ electrically extending rear wing ด้านหลัง

Mercedes-AMG SL 43

Mercedes-AMG SL 43

Mercedes-AMG SL 43

ห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต 2 ประตูพร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการขับขี่ในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX7 เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสให้แฟนรถยนต์รุ่น SL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร โดยเฉพาะระบบนำทาง MBUX augmented reality และหน้าจอขนาด 11.9 นิ้ว ที่สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสและปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 12-32 องศา ส่วนหน้าจอหน้าที่นั่งคนขับเป็นหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วแบบ AMG-specific indicator ที่ทั้งสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและเร้าใจ พวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel นุ่มกระชับมือด้วยหนัง Nappa leather ส่วนเบาะที่นั่ง AMG Performance seats มาพร้อม AIRSCARF ปิดท้ายด้วยระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Burmester พร้อมชุดลำโพงระดับพรีเมียม 11 ชิ้นที่พร้อมมอบความบันเทิงสูงสุดตลอดการขับขี่

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรสุดทรงพลังในแบบฉบับ AMG ที่ประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียวตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแบบ One Man, One Engine พร้อมระบบอัดอากาศไฟฟ้าแบบ electric exhaust gas turbocharger แบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถยนต์ Formula 1 ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างพละกำลังได้สูงถึง 381 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,000 รอบต่อนาที 

ระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission แบบใหม่ที่สามารถรองรับแรงบิดได้สูง ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที (ultra-short shift times) เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบการขับขี่ และที่สำคัญ มอบสมรรถนะการขับขี่ในแบบฉบับของการขับในสนามแข่งได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบทั้งระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้สามารถทำงานได้อย่างสอดประสานและสามารถผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START ที่ช่วยให้รถสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/วินาทีได้ในเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมมอบความเร็วสูงสุด 275 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-AMG SL 43

Mercedes-AMG SL 43

ระบบเบรกสมรรถนะสูงที่ออกแบบโดย Mercedes-AMG สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำทุกสภาวะการขับขี่ ระบบเบรกแบบ AMG Sports Braking System มาพร้อมกับช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูง ตกแต่ง calipers ด้วยสีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG 

สีขาว ส่วนระบบช่วงล่างแบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย AMG รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเพื่อความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง โดยผู้ขับขี่สามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้มากถึง 3 ระดับคือ Comfort, Sport และ Sport+ โดยระบบจะช่วยปรับบุคลิกของช่วงล่างให้เป็นไปตามโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ผ่านหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง หรือปุ่มบริเวณพวงมาลัย

Mercedes-AMG SL 43 ยังมีการปรับแต่งระบบควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการควบคุมระบบอัดอากาศให้เหมาะสมตามการขับขี่ และตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยลายเซ็นของผู้ประกอบ บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของ AMG ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound โดยระบบจะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซนกลาง สามารถถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์ได้อย่างเร้าใจตามแบบฉบับของ AMG ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Sporty, Discreet (BALANCED) หรือ Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT โดยในโหมด S และ S+ จะสามารถถ่ายทอดพลังเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยนั้น Mercedes-AMG SL 43 จัดมาให้อย่างเต็มพิกัดตามแบบฉบับรถยนต์สปอร์ตพลังแรงที่หรูหราถึงขีดสุด ทั้งกล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา 

ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ 

(Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist), ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist), ระบบช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร (Evasive Steering Assist) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ฯลฯ

สามารถเลือกออปชันอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก ไม่ว่าจะเป็น AMG Night Package, AMG Night Package Plus หรือ AMG DYNAMIC PLUS Package ที่สามารถเลือกตกแต่งได้ทุกรายละเอียด ทั้งกันชนหน้า กระจกมองข้าง ท่อไอเสีย กระจังหน้า โลโก้ ไปจนถึงการเลือกเพิ่มออปชันของล้ออัลลอย ดีไซน์ของพวงมาลัย สีของเบาะที่นั่ง และสีของเข็มขัดนิรภัยที่มีให้เลือกหลายแบบตามที่ต้องการ

รุ่น

เครื่องยนต์

แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที)

แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-AMG SL 43

เบนซินขนาด 1,991 ซีซี แบบ One Man, One Engine

381/6,750

480/3,000-5,000

4.9

275

 

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 3,350,000 บาท

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดรวม 550 นิวตันเมตร

สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบพลังไฟฟ้าล้วน (EL) ได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

การออกแบบมีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกดูโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่พร้อม Star pattern อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมความละเอียดมากกว่า 1 ล้านพิกเซลในโคมไฟแต่ละข้าง กับรายละเอียดของการทำงานประสานกันระหว่างฟังก์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ที่สามารถควบคุมไฟ LED ให้สอดรับกับสถานการณ์บนท้องถนนได้อย่างอิสระ และ ULTRA RANGE Highbeam ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างเหมาะสม

ชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เน้นความสปอร์ต ส่วนด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่งและล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว โดยในภาพรวม ตัวรถมีขนาดกว้างขึ้นในทุกมิติมอบการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารในที่นั่งด้านหลัง นอกจากนี้ ถังน้ำมันขนาดความจุ 50 ลิตรยังช่วยมอบอิสรภาพในการเดินทางที่มากยิ่งกว่าที่เคย

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

ดีไซน์ภายในของรถยนต์คันนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งภายในที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD ความละเอียดสูงบริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วแสดงผลคมชัด ให้ภาพที่อ่านง่ายในทุกสภาพแสง สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ "Discreet”, “Sporty”, “Classic"  พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อมจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย มาพร้อมระบบปรับอากาศควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ 2 โซนรวมถึงระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นล่าสุดเอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงฟังก์ชันการสแกนลายนิ้ว มือ (fingerprint scanner) ที่สามารถพาผู้ใช้เข้าสู่ระบบ MBUX ที่มีการตั้งค่าเฉพาะบุคคลระบบจะช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ AI ที่ช่วยปรับการตั้งค่าของรถให้ดั่งเสมือน Comfort zone ของคุณ

นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงและส่วนรองรับศีรษะที่ได้รับการออกแบบใหม่ และไฟล้อมรอบห้องโดยสาร premium Ambient Lighting 64 สี รวมถึงฟังก์ชันสุดไฮเทคอีกมากมายที่จะเพิ่มความสะดวกสบายและน่าประทับใจในทุกการขับขี่ 

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยังมาพร้อมความโดดเด่นของระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), Lane Tracking package ที่ประกอบด้วยระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) รวมถึงระบบช่วยจอดด้วย PARKTRONIC ที่ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง พร้อมกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ช่วยทำให้เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ตัวถังยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดพร้อมห้องโดยสารที่แข็งแรงเป็นพิเศษและโครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

รุ่น

เครื่องยนต์

ความจุแบตเตอรี่ (kWh)

แรงม้าสูงสุด
  (แรงม้า)

แรงบิดสูงสุด(นิวตันเมตร)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic 

เบนซินขนาด 1,999 ซีซี

25.4

313

550

6.1

245

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า 

“เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทำสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ครั้งนี้ด้วย เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนำเสนอบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond ” ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์ม Midjourney นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลต์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ประกอบในประเทศอย่าง  “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43” ยานยนต์สปอร์ตพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์เอเอ็มจีที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ