ถึงเวลาแล้วที่นิสสันจะต้องปรับโฉมให้กับรถยนต์ซีดาน Nissan Sentra หรือที่บ้านเราใช้ชื่อ Nissan Sylphy โดยการปรับโฉมในครั้งนี้เป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความสปอร์ตและใส่ความทันสมัยมากขึ้น ด้านหน้าใช้แนวทางการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับ Nissan Maxima หรือ Nissan Altima รุ่นใหม่ เช่น เอกลักษณ์เฉพาะอย่างกระจังหน้า V-motion หรือชุดไฟทรงบูมเมอแรง ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ถึงเวลาแล้วที่นิสสันจะต้องปรับโฉมให้กับรถยนต์ซีดาน Nissan Sentra หรือที่บ้านเราใช้ชื่อ Nissan Sylphy โดยการปรับโฉมในครั้งนี้เป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความสปอร์ตและใส่ความทันสมัยมากขึ้น ด้านหน้าใช้แนวทางการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับ Nissan Maxima หรือ Nissan Altima รุ่นใหม่ เช่น เอกลักษณ์เฉพาะอย่างกระจังหน้า V-motion หรือชุดไฟทรงบูมเมอแรง ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนหลายจุด อาทิ พวงมาลัยใหม่ที่อ้างอิงรูปแบบมาจาก Nissan 370Z เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง คอนโซลกลางใหม่ ติดตั้งจอ TFT-LED สำหรับบอกข้อมูลที่มาตรวัดขนาด 5 นิ้ว แอร์แบบ Dual Zone ชุดลำโพง Bose 8 จุด ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์ NissanConnect แยกเป็นออปชั่นในรุ่นกลาง โดยรวมให้ความรู้สึกเรียบหรูกว่าเดิมทันทีที่แรกเห็น
ชุดระบบความปลอดภัย ประกอบด้วยระบบ Forward Emergency Braking แจ้งเตือนเมื่อรถค้นหน้าเบรคกระทันหัน และเสริมแรงเบรคในกรณีที่เกิดการชนเพื่อลดแรงปะทะ, ระบบ Intelligent Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัตอแบบแปรผันความเร็ว, ระบบ Blind Spot Warning ช่วยเตือนจุดอับสายตาในขณะเปลี่ยนเลน และระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนให้ผู้ขับระวังพาหนะที่จะวิ่งตัดมาทางด้านหลังขณะถอย
ช่วงล่างปรับปรุงให้ตัวรถมีอาการโยนตัวน้อยลง ด้วยการเพิ่มค่าความแข็งให้กับสปริงและแดมเปอร์ 10% และมีการปรับการตอบสนองของพวงมาลัยให้ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์มีเพียงรุ่นเดียวคือ เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 130 แรงม้า (HP) จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ในขณะที่รุ่นพื้นฐานใช้งานเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะรุ่นเดิม
นิสสัน จะเริ่มจำหน่าย Sentra ใหม่ในช่วงปลายปีนี้ แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย S, FE+S, SV, SR และ SL โดยรุ่นพื้นฐาน S เกียร์ธรรมดา ราคาเริ่มต้นเบาๆ ที่ 16,780 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5.9 แสนบาทครับ บ้านเรารอคิวกันต่อไป