จะเกิดอะไร? ถ้ารถ 7 ปีภาษีแพงขึ้น (มาก)

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 12 มิ.ย 2560

จากที่มีกระแสข่าวบนโลกออนไลน์ การขึ้นภาษีรถยนต์เก่าเกิน 7 ปี โดยรัฐบาล ซึ่งทำให้เกิดกระแสสังคมในวงกว้าง ล่าสุดมีการออกมายืนยันแล้วว่าเป็นเพียงข่าวเก่าไม่ได้มีการยืนยันจากผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว

แต่จะว่าไปเรื่องนี้ก็น่าคิดเหมือนกันถ้ามันเกิดขึ้นจริงในเมืองไทย รัฐขึ้นภาษีรถที่มีอายุเกิน 7 ปี จะเป็นอย่างไรกับคนที่ออกรถป้ายแดงปัจจุบัน ระยะเวลาผ่อนชำระ จากที่เคยสูงสุดแค่ 48 เดือนจนกระทั้งตอนนี้ผ่อนสูงสุดได้ถึง 84 เดือน!! นั่นหมายถึงพอคุณผ่อนรถหมดคุณก็เตรียมจ่ายภาษีรถยนต์ของคุณแพงขึ้นได้เลย

ประเทศญี่ปุ่นราคารถบ้านเขาไม่แพงเท่าเรา

ที่นี่เมืองไทยนะ ไม่ใช่ญี่ปุ่น
นโยบายที่ใช้จะดูคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นที่ใช้รถกันอย่างสบายใจ 3 ปี ซึ่งจะไม่มีการตรวจสภาพรถแต่พอหลังจาก 3 ปี ค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพ ภาษีรถยนต์ ค่าดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับรถจะแพงมากจนผู้ใช้ขายรถทิ้งซื้อรถใหม่คุ้มกว่า ญี่ปุ่นเขาทำแบบนั้นได้เพราะบ้านเขาเมืองเขาเป็นยักใหญ่ในการผลิตรถยนต์ ราคาไม่ได้แพงเท่าบ้านเราเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ

ส่วนพี่ไทยจะขึ้นภาษีรถเก่าบีบให้ผู้ใช้ขายรถเก่าเพื่อไปสนับสนุนรถรุ่นใหม่ๆ หรือหันไปใช้ Eco Car ลดมลพิษผู้ผลิตยิ้มแน่นอนกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น บริษัทไฟแนนซ์ก็มีรองรับผู้ที่ต้องการซื้อรถจำนวนมากขึ้น พร้อมกับนั่งนับดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล ส่วนประชาชนคนไทยก็ได้ใช้รถยนต์ที่ใหม่และหนี้ก้อนโตไปไม่รู้จบ ดูเหมือนจะเป็นนโยบายที่รณรงค์ให้ผู้ใช้รถ “รักษ์โลก” แต่กลับไม่รักเงินในกระเป๋าของประชาชนสักเท่าไร

ต่อไปคนที่จะซื้อรถมือสองจะได้ราคาถูกลง แต่เสียภาษีแต่ละปีแพงขึ้น

รถมือสองจะเต็มตลาด
ภาษีรถเก่าเกิน 7 ปีต้องเพิ่มขึ้นสูงและภาษีรถป้ายแดงจะต้องถูกลงไปจนถึงปลอดภาษีด้วยซ้ำเพื่อให้ราคารถใหม่ถูกลงมาจูงใจให้เจ้าของรถยอมขายรถคันเก่าเพื่อไปซื้อรถป้ายแดง

จำนวนรถมือสองก็จะมีมากขึ้นในตลาด เพราะคนต่างพากันขายรถทิ้งเพื่อจะนำเงินไปซื้อรถใหม่ เมื่อรถในตลาดเพิ่มมากขึ้น ราคารถมือสอง ต้องถูกลงมากพอที่จะจูงใจให้คนหันมาใช้รถมือสองปีเก่าที่ต้องยอมจ่ายภาษีราคาแพงทุกปีๆ อีกทั้งค่าบำรุงรักษาของรถ

คนที่จะซื้อรถมือสองต้องคิดหนักเลยทีเดียว จากที่ตอนนี้ซื้อรถมือสองแล้วเตรียมเพียงค่าซ่อมบำรุงรักษาตามอายุการใช้งานของรถเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าถ้าภาษีเพิ่มขึ้นก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีมากขึ้นกว่าเดิมอีก

การใช้รถแค่ 7 ปีอาจจะไวเกินไปที่จะให้เจ้าของรถตัดสินใจขาย

ประนีประนอมกับประชาชนสักนิด

กฎหมายนี้จริงๆ แล้วอาจจะดูโหดร้ายไปสักหน่อยสำหรับรถอายุเพียง 7 ปีซึ่งระยะเวลาดูเหมือนว่าจะไวเกินไป ยากที่จะดึงดูดให้เจ้าของรถยอมขาย เพราะสภาพรถที่ยังไม่เก่ามากนัก รถคงมีเพียงปัญหาการซ่อมเล็กๆ น้อยๆ ถ้าจะให้เปลียนรถสักคัน เพิ่มระยะเวลาบังคับเป็นสัก 10 ปี 15 ปีพอที่จะให้รถดูเก่ามาก เริ่มมีปัญหาการใช้งานมากขึ้น อีกทั้งให้เทคโนโลยีต่างๆ ที่มากับรถรุ่นใหม่ๆ ได้พัฒนามากขึ้นหน่อยก็พอจะดึงดูดให้คนหันมาเปลี่ยนรถได้

เพราะรักษ์โลกหรือเอาใจยอดขายผู้ผลิตรถยนต์ ?
นโยบายแก้ปัญหารถติดแต่กลับสนับสนุนประชาชนซื้อรถกันมากขึ้น ?
ปัญหาเรื่องมลพิษจากรถยนต์เป็นปัญหาใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับปัญหาการคมนาคมในประเทศไทย ?
สิ่งที่ควรรีบแก้ไขคือปัญหารถติดไม่ใช่หรอ ?
อยากลดความเหลื่อมล้ำในสังคมแต่สนับสนุนให้คนเป็นหนี้ ?

คำถามเหล่านี้บางทีก็ทำให้สับสบเรื่องนโยบายของรัฐฯ ที่ค่อนข้างจะขัดกับการกระทำไปสักหน่อย
แต่ยังไงก็ตามถ้าวันหนึ่งกฎหมายลักษณะนี้ถูกใช้บังคับชึ้นมาจริงๆ ผู้ใช้รถก็ต้องช่างใจกันหน่อยว่าจะเลือกเปลี่ยนรถหรือยอมจ่ายภาษีแพงขึ้นๆ ทุกปีตามอายุรถที่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้อย่าพึ่งไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย ทางผู้ใหญ่ของกรมอุตฯ ก็ออกมาชี้แจงแล้วว่ายังไม่มีนโยบายเพิ่มภาษีนี้ อย่าพึ่งไปตื่นตกใจกับข่าวที่แชร์กันในสังคมออนไลน์มากนัก เสพข่าวกันอย่างมีสตินะครับ