กว่า15ปีที่ผ่านมาโตโยตาวีออสกับ 4 เจนเนอเรชั่นมีการพัฒนามาโดยตลอดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เรามาดูกันครับว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรบ้าง
Toyota Vios ได้ผลิตมาแทนรถรุ่น Soluna Vios และผลิตรุ่นแรกในปี 2002 จัดเป็นรถยนต์ขนาดเล็กนิยมนำไปใช้เป็นรถส่วนตัว แต่ในบางประเทศและอินโดนีเซียใช้เป็นรถแท็กซี่ โดยใช้ชื่อว่า โตโยต้า ลิโม ระหว่างปี 2002 จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 15 ปีแห่งความไว้วางใจในโตโยต้าวีออส กับ 4 เจนเนอเรชั่นที่ผ่านการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคตลอดมา
วีออสรุ่นแรกปีอะไร
Toyota Vios Gen 1 ได้ผลิตในไทยโรงงานโตโยต้าเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 1NZ-FE ความจุ 1.5 ลิตร ตัวถังแบบซีดาน 4 ประตูโดยจำหน่ายในชื่อ โตโยต้า โซลูน่า วีออส (Toyota Soluna Vios)
หลังจากนั้นโตโยต้า ผลิตรุ่นพิเศษคือ Toyota Vios Turbo รถรุ่นนี้ผลิตเพียง 600 คันและจำหน่ายในประเทศไทย และรุ่นพิเศษนี้ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 1NZ-FE ความจุ 1.5 ลิตร สิ่งที่เพิ่มมาคือติดตั้งเทอร์โบระบบอินเตอร์คูลเลอร์โดยสำนักแต่งรถ TRD หรือ Toyota Racing Development ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 143 แรงม้า
Vios Gen2 เปิดตัวครั้งแรกในแดนปลาดิบปี 2011 โดยใช้ชื่อว่า โตโยต้า เบลต้า และเปิดตัวในไทยครั้งแรก วันที่ 8 และ 9 มีนาคม 2012 ที่สยามพารากอน รถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก.ม เดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงระบบคันเร่ง และอื่นๆ
มาพร้อม 3 รุ่นมาตราฐานดังนี้
- รุ่น J เป็นรุ่นล่าสุด มาพร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรก BA / กระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ ไฟตัดหมอกหลัง (ระบบป้องกันการโจรกรรม TVSS พร้อมรีโมทเป็นอุปกรณ์เสริม) กระเป๋าเก็บเอกสารหลังผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
- รุ่น E เป็นเกรดกลาง เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่น J มากขึ้นคือ ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS พร้อมรีโมทที่ด้ามกุญแจ ล้อแม็กซ์อัลลอยด์ 5 ก้าน ขนาด 15 นิ้ว ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟตัดหมอกหลัง และภายในห้องโดยสารสามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีเทาดำ (Dark Grey) และสีครีม (Ivory)
- รุ่น E Safety เกรดรองสูงสุด เพิ่มเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เหมือนรุ่น E
- รุ่น G เกรดสูงสุด เพิ่มอุปกรณ์ภายใน คือ ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หน้าปัดแบบออปติตรอนพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีฟ้า เครื่องเสียงแบบ 6 ลำโพง สำหรับภายในห้องโดยสารหุ้มด้วยหนัง สามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีดำ (Dark Grey) และ สีครีม (Ivory) ที่พักแขนพร้อมหลุมวางแก้วน้ำบริเวณผู้โดยสารตอนหลัง เบาะหลังพับแบบ 60/40
เพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ได้แก่
- รุ่น G-Limited เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่น G คือ ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry เปิด – ปิดประตูแบบสัมผัส พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่อง หรือ Push Start และระบบป้องกันการโจรกรรมกุญแจเลียนแบบหรือ Immobilizer สามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีดำ (Dark Grey) และ สีครีม (Ivory)
- รุ่น GT Street โดยการนำรุ่น J ตกแต่งพิเศษ สเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์และสติกเกอร์ GT Street ที่ฝากระโปรงหลัง ท่อไอเสียพร้อมฝาครอบ สแตนเลส และสติกเกอร์ด้านข้างดีไซน์สปอร์ต ส่วนภายในใช้โทนสีแดงดำ ทั้งผ้าเบาะ สีแดงกับสีดำ รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง หัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง คอนโซลหน้าสุดสปอร์ตสีดำ-แดง และเปลี่ยนล้อกระทะ เป็นล้อแม็กซ์ขนาด 15 นิ้ว(ลายเดียวกันกันยาริส ไมเนอร์เชนจ์ G/E Grade) ผลิตเพียง 1,000 คัน
- รุ่น S-Limited เพิ่มอุปกรณ์ชุดแต่งจากโรงงานรอบคัน พร้อมปรับแต่งโช้คอัพ และสปริงให้มีความแข็งมากกว่ารุ่นอื่น หน้าปัดแบบออปติตรอนพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีส้ม ส่วนภายในห้องโดยสารแบบสปอร์ตสีเทาควันบุหรี่ ทั้งเบาะหุ้มหนัง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ เบาะหลังพับแบบ 60/40 ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ปรับระดับสูง – ต่ำ แปรผันอัตโนมัติตามน้ำหนักรถ เปลื่ยนระบบเบรกหลังจากดรัมเป็นดิสก์เบรก
Toyota Vios เจนที่ 3 เปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2013 โดยมีสโลว์แกนว่า Have It Al และยังคงใช้เครื่องยนต์ 1 NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก.ม เหมือนรุ่นแรก มีให้เลือก 7 สีได้แก่ สีดำ สีน้ำตาล สีเทา สีแดง สีเบจ สีเงิน สีขาว โดยมีให้เลือก 4 รุ่น 6 แบบ
6 แบบนั้นคือ
- 1.5S A/T 734,000
- 1.5E A/T 649,000
- 1.5E M/T 614,000
- 1.5J A/T 589,000
- 1.5J M/T 559,000
4 รุ่น ได้แก่
รุ่น J
- กุญแจรีโมทแบบ immobilizer (แบบไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนผู้บุกรุกจากภายนอก)
- เบาะผ้าลายธรรมดา
- ภายในสีเทา Dark Gray
- ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ 15 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
รุ่น E
- กุญแจรีโมท เพิ่มระบบสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อผู้บุกรุกจากภายนอก (TDS)
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- ไฟเบรกดวงที่สาม ในห้องโดยสาร
- เบาะผ้าลายธรรมดา
- ล้อแม็กซ์อัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
- เลือกสีภายในได้ระหว่างสีเทา Dark Gray กับสีเบจ Ivory
- ระบบเบรก ABS/EBD/BA
รุ่น G
- ไฟหน้าโปรเจกเตอร์
- ไฟเลี้ยวฝังบริเวณกรอบกระจกมองข้าง พร้อมพับไฟฟ้า
- กระจังหน้าและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม
- หน้าปัดพร้อมจอ MID
- มือเปิดประตูด้านในโครเมียม
- เบาะผ้าลายธรรมดา
- ล้อแม็กซ์แบบรุ่น E พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
- เลือกสีภายในได้ระหว่างสีเทา Dark Gray กับสีเบจ Ivory
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
รุ่น S
-ไฟตัดหมอกหน้า
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start
- มือเปิดประตูด้านนอกโครเมียม
- ภายในสีเทา Dark Gray พร้อมเบาะผ้าลายสปอร์ต
- มาตรวัดพี้นหลังสีแดง
- ล้อแม็กซ์ 16 นิ้วรมดำ พร้อมยาง Bridgestone Turanza ER33 195/50R16
รุ่น TRD Sportivo IV 2014 อิงพี้นฐานจากวีออสรุ่น J แต่มีการปรับเปลื่ยนคือ
- เครื่องเล่นDVD จอสัมผัส 7″ รองรับ Smart G-Book
- สติ๊กเกอร์และสัญลักษณ์TRD
- สเกิร์ตและสปอยเลอร์TRD
- ล้อแม็กซ์อัลลอย 15 นิ้วลายพิเศษเฉพาะTRD
- เบาะหนัง
ปลายปี พ.ศ. 2558 ปรับเปล่ี่ยนอุปกรณ์เล็กน้ย
- รุ่น TRD SPORTIVO V
อิงจาก TRD Sportivo IV แต่เปลื่ยนล้ออัลลอย 15 นิ้วลายใหม่ สติ๊กเกอร์ด้านข้างลายใหม่ ไฟหน้าโปรเจกต์เตอร์รมดำ ไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ฝังในสเกิร์ตหน้า พร้อมชุดสเกิร์ตและสปอยเลอร์ TRD แบบใหม่รอบคัน
- รุ่น E
เพิ่มไฟเลี้ยวที่กรอบกระจกมองข้าง และ กระจกมองข้างสามารถพับเก็บด้วยไฟฟ้า
ดูเพิ่มเติม ราคา toyota