Toyota Corolla Altis GR Sport 2022 อึดและสมรรถนะสุดยอด คว้าแชมป์ ADAC 24h Race

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 6 มิ.ย 2565
แชร์ 0

Toyota ประเทศไทยส่ง Toyota Corolla Altis GR Sport 2022 ลงแข่งสนาม ADAC Total Energies 24h-Race Nurburgring อึดและสมรรถนะสุดยอด คว้าแชมป์ ADAC Total Energies 24h-Race Nurburgring

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

สำหรับงานการแข่งขัน ADAC Total Energies 24h-Race Nurburgring เป็นงานแข่งที่วัดทั้งความอึดและสมรรถนะอย่างแท้จริง โดยกติกาให้ทีมส่งรถยนต์เข้าไปวิ่งบนสนาม Nurburgring โดยมีเวลาแข่ง 24 ชม. ด้วยรถยนต์คันเดียว คัดหาทีมผู้ชนะที่สามารถพารถไปได้ในระยะทางมากสุด

อ่านเพิ่มเติม Toyota Corolla Altis 2022 ไมเนอร์เชนจ์รุ่น GR Sport ดีไซน์ใหม่เครื่อง 1.8 และเพิ่มไฮบริด HEV GR SPORT

โดยทีมแข่งสามารถ ดูแลรถ เข้าพิท และเปลี่ยนตัวขับได้ การชิงชัยในงานการแข่ง ADAC Total Energies 24h-Race Nurburgring ผู้ขับต้องมีสกิลที่จะรีดสมรรถนะของรถออกมาให้ได้สูงสุด บนสนามแข่ง ส่วนรถเองก็ต้องมีความสมรรถนะที่ดีเยี่ยม รวมถึงความทนทานที่จะสามารถรีดกำลังตลอดการแข่งขัน 24 ชม.

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ได้เข้าแข่งขัน โดยนำรถ Toyota Corolla Altis GR Sport เข้าร่วมรายการ Super Production 3 ซึ่งเป็นรถยนต์แบบแมสโปรดักชั่น ที่ผลิตขายจริงและไม่มีการดัดแปลงเครื่องยนต์ ซึ่งในการแข่งขันสามารถ คว้าแชมป์และอันดับ 2 ในปี 2022 ที่จัดขึ้นเมื่อ 26-29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เคย Corolla Altis มาคว้าแชมป์มาแล้วสองปีซ้อน 

แชมป์การแข่งขัน : รถแข่ง COROLLA ALTIS GR SPORT หมายเลข 120 

นักแข่ง : เฉิน เจี้ยนหงษ์ - กรัณฑ์ ศุภพงษ์ - นาโอกิ คาวามูระ เข้าร่วมการแข่งขันต่อเนื่อง 119 รอบ ใช้สมรรถนะสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง รวมระยะทางการแข่งขันทั้งสิ้น 3,020 กม. ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 10:06:794 นาที 

รองชนะเลิศอันดับ 1 : รถแข่ง COROLLA ALTIS GR SPORT หมายเลข 119 

นักแข่ง : สุทธิพงศ์ สมิตชาติ - ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ - ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ - มานัต กุละปาลานนท์ เข้าร่วมการแข่งขันต่อเนื่อง 116 รอบ ใช้สมรรถนะสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง รวมระยะทางการแข่งขันทั้งสิ้น 2,944 กม. ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 10:07:451 นาที

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เข้าร่วมงานแข่ง ADAC TOTAL 24h-Race Nurburgring ณ ประเทศเยอรมัน เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน และปีนี้ได้ส่ง COROLLA ALTIS และ C-HR ภายใต้ทีมแข่ง TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND

รถที่แข่ง ADAC TOTAL 24h-Race Nurburgring นั้นเป็นรถที่เดินสายผลิตจากโรงงานของประเทศไทย นี่เป็นเหมือนรางวัลตรีความยอดเยี่ยมรถยนต์ที่ออกจากสายการผลิตในบ้านเราอย่าง Toyota Altis โดยโตโยต้าเองก็มีหลักการ QDR : Quality, Durability และ Reliability ที่พิสูจน์ได้จริง

Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า 

“เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทย จากสายการผลิตในประเทศไทย สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับคนไทยได้อีกครั้ง ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันในรายการที่ขึ้นชื่อว่าท้าทาย และโหดที่สุดสนามหนึ่งของโลก ภายใต้ปรัชญาของโตโยต้าในการพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า หรือ Ever-better Cars ตามแนวคิดที่ว่า ถนนฝึกคน และคนสร้างรถ ที่เราใช้สนามแข่งในการทดสอบสมรรถนะสูงสุดของรถ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบผลิตภัณฑ์ และการบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าทุกท่าน ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่เพียงแค่พิสูจน์ให้เห็นถึง ความโดดเด่นด้านสมรรถนะของรถแข่ง Production car ที่เราส่งเข้าร่วมการแข่งขัน ยังแสดงถึงความพร้อมของทีมแข่ง นักแข่ง และทีม Service ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแข่งขัน ด้วยมาตรฐานการบริการอันยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับที่มอบการบริการให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน”

นายสุทธิพงศ์ สมิตชาติ นักแข่ง และผู้อำนวยการ TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND กล่าวเสริมว่า 

“การแข่งขันในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีสำหรับความท้าทายของทีมแข่ง แต่ถือเป็นโชคดีของเราที่สภาพอากาศดี ทัศนวิสัยเป็นใจในการแข่งขัน ไม่มีการประกาศหยุดการแข่งขันชั่วคราวในระหว่างการแข่งขันตลอด 24 ชั่วโมง โดยในรอบ Qualify Race 1 รถแข่งหมายเลข 120 เกิดอุบัติเหตุถูกรถคันอื่นชน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้าง TNGA ใน COROLLA ALTIS GR SPORT และความสามารถของทีม Service ทำให้สามารถซ่อมรถได้ทัน และลงทำการแข่งขันต่อจนสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด”

“การแข่งขันในปีนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยหนึ่งในนั้นคือแชมป์เก่าในรุ่น SP9 ทำให้ไม่สามารถแข่งจนจบการแข่งขันได้ และยังมีรถแข่งอีกกว่า 40 คัน จากจำนวนทั้งสิ้น 135 คัน ที่ไม่สามารถแข่งขันจนจบรายการได้ แต่ด้วยความสามารถ ทักษะการขับขี่ การฝึกฝนอย่างหนัก ความพร้อมเพรียงของทีม Service ความมุ่งมั่นของทุกคนในทีม และที่สำคัญด้วยสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของรถแข่งจากฝีมือคนไทย ทำให้เราสามารถ ประสบความสำเร็จสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้เป็นปีที่ 3 สร้างความภาคภูมิใจ รวมทั้งประกาศความสำเร็จของคนไทย ในการแข่งขันระดับโลกได้อีกครั้ง”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ