MG4 ELECTRIC 2023 เปิดราคาจำหน่ายเริ่ม 869,000 บาท มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 1 ธ.ค 2565
แชร์ 0

ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย MG4 ELECTRIC 2023 รถแฮทช์แบ็คไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย MG4 D ราคา 869,000 บาท และ MG4 X ราคา 969,000 บาท

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023

เอ็มจี ยกขบวนรถยนต์ครอบคลุมทุกรูปแบบการขับเคลื่อนโชว์ในงาน Thailand International Motor Expo 2022 พร้อมส่งมอบความสุขให้คนไทยก่อนสิ้นปี ด้วยข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% และโปรขับฟรี 90 วัน รวมถึงไฮไลท์แห่งปีกับการเผยโฉมและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ MG4 ELECTRIC 2023 รถแฮทช์แบ็คขับเคลื่อนล้อหลัง พลังงานไฟฟ้า 100% (EV) ภายใต้แนวคิด ICON

อ่านเพิ่มเติม 
MG4 ELECTRIC 2023 เปิดสเปคก่อนให้จอง ราคารอในงาน Motor Expo
MG4 ELECTRIC 2023 แรงเช่นกัน ยอดจอง 1,598 คัน ภายใน 8 ชั่วโมง ประกาศปิดจอง 29 พฤศจิกายน

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023 มี 2 รุ่นย่อย (ราคาหลังหักส่วนลดจากภาครัฐ)

MG4 ELECTRIC รุ่น D ราคา 869,000 บาท
MG4 ELECTRIC รุ่น X ราคา 969,000 บาท

สำหนับโปรโมชันช่วง Motor Expo รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี รับประกับแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร และ ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023 กับสเปค

MG4 ELECTRIC 2023 รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ ICON

MG4 ELECTRIC 2023

ภายนอก MG4 ELECTRIC 2023

  • การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
  • ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS 
  • ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
  • หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING 
  • ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER 
  • มิติตัวถัง​ 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

MG4 ELECTRIC 2023

MG4 ELECTRIC 2023

ภายในห้องโดยสาร MG4 ELECTRIC 2023

  • คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger) 
  • ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง 
  • พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
  • ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
  • รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android 
  • พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C 
  • ระบบกรองอากาศ PM2.5
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง 
  • เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40 
  • โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ

MG4 ELECTRIC 2023

 MG4 ELECTRIC 2023 กับขุมกำลังและช่วงล่าง เคลมระยะวิ่ง 425 กิโลเมตร

  • มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) 
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)
  • ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า 
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร
  • การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม 
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ  5-Link Suspension 
  • โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW

ระบบการชาร์จไฟฟ้า

  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที ที่ 6.6 kWh
  • รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

MG4 ELECTRIC 2023

 MG4 ELECTRIC 2023 กับออปชั่นด้านความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ

  • โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบ ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)  โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน 
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) 
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

 MG4 ELECTRIC 2023 สีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ