All New Lexus RX 2023 เจเนอเรชันที่ 5 เปิดตัวจำหน่ายในงาน Motor Expo 2022 มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 182 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ชุด แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 kWh เคลมวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ 85 กม./ชาร์จ มี 2 รุ่นย่อย Luxury AWD ราคา 4,640,000 บาท และ Premium AWD ราคา 5,090,000 บาท
Lexus RX เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ Lexus RX รุ่นใหม่ ทีมวิศวกร และนักออกแบบมุ่งถ่ายทอดการขับขี่ที่เพลิดเพลินออกมาเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีสัดส่วนที่สะกดสายตา น่าหลงใหล และกระตุ้นให้รู้สึกมีชีวิตชีวา และเมื่อขับก็ยิ่งเพลิดเพลินกับสมรรถนะที่เร้าใจ
Lexus RX 450h+ PHEV ปี 2023 ดูภูมิฐานยิ่งขึ้นด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า และล้อคู่หลังที่เพิ่มขึ้น ให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้น และสดใหม่ แต่มั่นคง และปลอดภัยในขณะเดียวกัน เพื่อสื่อถึงสมรรถนะการขับขี่แบบฉบับเลกซัสที่คุณจะได้รับจากรถรุ่นนี้
อ่านเพิ่มเติม - LEXUS UX 250h ปี 2022 ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มสีใหม่ ปรับอุปกรณ์ ราคาเริ่ม 2,540,000 บาท
ภายในห้องโดยสารของออกแบบภายใต้แนวคิดแบบ TAZUNA ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการบังคับควบคุม ซึ่งใช้ในบริบทของการขี่ม้า เพื่อสื่อถึงความผูกพันระหว่างเจ้าของกับม้าคู่ใจ Lexus RX 450h+ PHEV ปี 2023 ออกแบบภายในห้องโดยสาร ตามแนวคิด Tazuna Cockpit มุ่งยกระดับการสื่อสารระหว่างมนุษย์ และเครื่องยนต์กลไกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถใช้งานทุกอย่างในรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดช่องว่างระหว่างมนุษย์ และเทคโนโลยี พร้อมแฝงปรัชญา “โอโมเตะนาชิ” ที่ใส่ใจในการออกแบบที่นึกถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก
หน้าจอ Head up display แบบสี (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น) แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ
ระบบควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส* (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น) ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยของเลกซัส มีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือ ซึ่งจะระบุได้ว่าผู้ขับวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด และแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย
หน้าจอสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางเชื่อม Apple CarPlay แบบไร้สาย ขนาด 14 นิ้ว สั่งการฟังก์ชันได้หลากหลายเพียงใช้สวิตช์ในจอ และใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงผล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ
หน้าจอแสดงผล TFT และมาตรวัด LCD รูปแบบข้อมูลในจอจัดวางให้อ่านง่าย ชัดเจน รวดเร็ว ผู้ขับจึงดูข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย แม้ขณะขับรถ อาทิ เส้นทางการนำทาง สถานะระบบช่วยขับขี่ กำหนดเวลาถึงที่หมาย และระยะทางการขับขี่
แนวคิดในการออกแบบภายในห้องโดยสาร สร้างความรู้สึกโอ่โถง แต่อบอุ่นด้วยการออกแบบคอนโซลหน้าให้เป็นเส้นยาวตามแนวนอนเชื่อมตั้งแต่แผงหน้าปัดไปจนถึงประตูคู่หน้า เสริมความโปร่งโล่งด้วยหลังคาพาโนรามิกตั้งแต่หัวจรดท้าย (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้ง) นอกจากนั้น การใช้กลอนประตูไฟฟ้า E-Latch ยังช่วยลดความจำเป็นในการติดตั้งมือจับด้านบนของแผงประตู เส้นสาย/จากด้านหน้ารถจึงสามารถเชื่อมโยงมาถึงด้านข้างได้โดยไม่มีสะดุด
โครงสร้างตัวถัง GA-K ยังช่วยเพิ่มระยะระหว่างเบาะคู่หน้า และคู่หลัง ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พื้นที่ต่ำช่วยให้ที่วางขาของทุกที่นั่งมีระยะความลึกที่พอเหมาะ เพลากลางที่พาดผ่านห้องโดยสารตอนหลังได้รับการปรับรูปแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถเข้า-ออกจากรถได้ง่าย
แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซน์เนอร์ของเลกซัสอาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสำหรับสร้างบรรยากาศภายใน ทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา นอกจากนั้น หน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สี
ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ กรอบประตูท้ายรถของ Lexus RX 450h+ PHEV ปี 2023 มีความเพรียวบาง และมีขอบล่างที่อยู่ต่ำ คุณจึงใช้พื้นที่ภายในรถได้อย่างสะดวกสบาย ขนสัมภาระขึ้น และลงจากท้ายรถได้ง่ายดายพร้อมติดตั้งไฟ LED ทั้งหมด 3 ดวงที่ผนังซ้าย-ขวา ของห้องเก็บสัมภาระ และด้านในของฝาท้าย โดยกำหนดตำแหน่งให้พอเหมาะเพื่อให้เห็นชัดเจนและดูสวยงาม
สถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K ใน Lexus RX 450h+ PHEV ปี 2023 ช่วยให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง 15 มม. จาการลดน้ำหนักตัวรถ และลดความสูงของพื้นรถ ระยะฐานล้อยาวขึ้น 60 มม. และระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าเพิ่มขึ้น 15 มม. และล้อคู่หลัง 45 มม. ช่วยเพิ่มสมดุลให้การทรงตัว และลดอาการหน้าส่ายขณะวิ่ง นอกจากนั้นการใช้งานต่างๆ พัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งการเข้าถึงห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถที่สะดวกขึ้น พื้นที่ใช้สอยต่างๆ กว้างขึ้น สะดวกสบาย ประณีตและหรูหรายิ่งขึ้น
ระบบกันสะเทือน/โช้คอัพ ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ช่วยส่งแรงขับไปยังพื้นถนนได้เต็มกำลัง พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ องศาของโช้ค และชนิดของยางหุ้มโช้คต่างๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อลดอาการย้อยขณะเร่งความเร็ว ลดความเร็ว และเข้าโค้ง รวมทั้งลดแรงสั่นสะเทือนขณะใช้ความเร็วสูง โช้คอัพแบบสวิงวาล์ว พร้อมระบบ AVS (Adaptive Variable Suspension) แบบโซลีนอยด์ ดูดซับแรงสะเทือนได้ดีตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงย่านความเร็วสูง ล้อทั้งสี่ยึดเข้ากับเพลาขับด้วยวิธี Hub Bolt ที่แข็งแกร่ง เพิ่มความมั่นคงพร้อมลดน้ำหนักใต้สปริง ควบคุมรถง่าย ตอบสนองเฉียบคม
ความแข็งแกร่งของตัวถัง แพลทฟอร์ม GA-K ในส่วนท้ายรถ ออกแบบให้รองรับช่วงล่างแบบ Muti-link โดยเฉพาะ พร้อมเสริมความแข็งแรง ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ High-torsion ที่ทำงานเสริมกันกับช่วงล่างทั้งขณะเร่งความเร็ว และลดความเร็ว และเข้าโค้ง กรอบฝาท่อของรถยึดด้วยโฟม ความแข็งแกร่งสูง เพื่อลดการบิดตัวของตัวถังโดยไม่เพิ่มน้ำหนักให้ตัวรถ ข้อต่อ และจุดยึดต่าง ๆ ของช่วงล่างด้านหลังทั้งหมด ผ่านการเสริมความแข็งแกร่งโดยเพิ่มจุดเชื่อมให้ถี่ขึ้น (short pitch welding) ใช้การเชื่อมด้วยเลเซอร์ (laser screw welding) และใชักาวยึดโครงสร้างอย่างดี แกนพวงมาลัยทำจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความเฉียบคมในการบังคับทิศทาง ฝากระโปรงหน้าใชัล็อคสองชั้นที่แน่นหนา ช่วยลดการส่ายของหน้ารถทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นคงและเพลิดเพลิน
ความเงียบที่ผ่อนคลาย เอกลักษณ์ความเงียบที่เป็นธรรมชาติในห้องโดยสาร ผ่อนคลาย และไร้เสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนน หรือสภาพแวดล้อม เป็นผลมาจากการเลือกใช้ยางขอบประตูและขอบกระจกที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เกิดเสียงรบกวนจากพื้นถนนได้ง่าย อย่างประตู และหลังคา วิศวกรเลือกเดินขอบด้วยยางแมสติกที่ดูดซุบแรงสั่นสะเทือนได้ดี รวมทั้งเลือกใช้กระจกประตูคู่หน้าแบบกันเสียง และลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ด้วยการยึดฝากระโปรงหน้าด้วยล็อคสองชั้น และปรับตำแหน่งของวัสดุบุกันเสียงต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งยึดด้วยกาวช่วยดูดซับแรง สำหรับโครงสร้างตัวรถ วิศวกรได้ปรับรูปทรงของเสาคู่หน้า และช่องดักอากาศใหม่ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศพร้อมลดเสียงลม ทำให้ได้ตัวถังที่แข็งแกร่ง บิดตัวน้อย
ระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงก์ก็มีส่วนช่วยลดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างมาก แอโรไดนามิก Lexus RX 450h+ PHEV ปี 2023 ใหม่ใช้หลักอากาศพลศาสตร์เร่งการไหลของอากาศบริเวณหน้ารถ เพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน พร้อมทั้งดักลมเข้าไประบายความร้อนให้เบรก ใต้ท้องรถมีร่องสำหรับสร้างลมหมุนขนาดเล็กเพื่อไล่อากาศ ช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ด้วยความเร็ว กดท้ายรถให้นิ่งขณะรถวิ่ง
RX 450h+ เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 2.5 ลิตร ชับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า E-FOUR เครื่องยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ชุดสำหรับล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง สร้างสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นทั้งในด้านอัตราเร่ง และความเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังปลอดภัยด้วยระบบหล่อเย็นแบตเตอรี่สำหรับอากาศร้อน
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า E-FOUR ด้วยกำลังขับจากมอเตอร์กำลังสูง ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ไฟฟ้า ช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง โดยเฉพาะขณะออกตัว และเร่งความเร็ว กับเซนเซอร์ประเมินสภาวะการขับขี่ และจ่ายกำลังไปแต่ละล้ออย่างเหมาะสม กระจายแรงบิดระหว่างล้อด้านหน้าและหลังที่ 100:00 หรือ 20:80
1. EV (Electronic Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ใช้กำลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าตลอดเวลาโดยไม่ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ ยกเว้นกรณีแบตเตอรี่เหลือน้อย เน้นการขับขี่ที่ไร้มลพิษ ซึ่งให้ระยะทางเพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน
2. EV/HEV แบบสลับอัตโนมัติ ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไฮบริด เมื่อเริ่มสตาร์ทรถระบบจะใช้พลังงานไฟฟ้าในโหมด EV ก่อน และหากมีการใช้รอบเครื่องสูง หรือมีการเหยียบคันเร่งลึก ระบบจะเรียกกำลังจากทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้ทำงานร่วมกัน เหมาะสำหรับเมื่อต้องการเรียกใช้กำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในบางขณะ
3. HEV (Hybrid Electric Vehicle) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด ใช้กำลังจากเครื่องยนต์และไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์จะเริ่ม และหยุดทำงานตามสภาพการขับขี่เช่นเดียวกับระบบไฮบริดทั่วไป เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการรักษาปริมาณไฟในแบตเตอรี่ โดยหากเลือกขับในโหมด EV และแบตเตอรี่เหลือน้อย ระบบจะสลับมาเป็นโหมด HEV ให้โดยอัตโนมัติ และจะสลับกลับไปเป็น EV หรือระบบอื่น ๆ ที่ตั้งค่าไว้เมื่อชาร์จไฟเต็ม ทั้งโดยการเสียบปลั๊กชาร์จ และการชาร์จไฟขณะเหยียบเบรก
4. โหมดชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด แต่ยังต้องการขับด้วยโหมด EV ต่อไป โหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ขับรถไปด้วยได้ โดยระบบจะดึงกระแสไฟจากเครื่องยนต์มาชาร์จเข้าแบตเตอรี่ไฟฟ้า จึงใช้งานโหมด EV ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กชาร์จ (อาจมีข้อจำกัด และไม่สามารถใช้ได้ในบางเงื่อนไข)
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ LEXUS TEAMMATE ADVANCE PARK ช่วยให้จอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใชังานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอด จะปรากฎบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนํารถเข้าจอดให้อัตโนมัติโดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อม ตัวรถ และสิ่งกีดขวาง และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติ เมื้อเข้าใกล้สิ่ิงกีดขวางที่ีอาจชนได้ (สำหรับเกรด Premium เท่านั้น)
ระบบการเปิดประตูแบบบ SEA (Safe Exit Assist) เพื่อการลงจากรถอย่างปลอดภัย SEA จะทำงานร่วมกับระบบตรวจมุมอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจว่ามียานพาหนะ หรือจักรยาน แล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับ หรือผู้โดยสารเปิดประตูรถออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตูระบบ E-Latch จะไม่เปิดให้ พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบ ที่กระจกมองข้าง และบนหน้าจอ
กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH ช่วยให้ไม่ต้องออกแรงดึง หรือผลัก เพื่อเปิดประตูอีกต่อไป ระบบจะช่วยให้ประตูรถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เพียงสัมผัสสวิตช์ทั้งจากภายนอก และภายในตัวรถ
ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System ระบบป้องกันก่อนการชน จะช่วยเพิ่มแรงเบรก และช่วยเบรกอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับพบรถยนต์ที่อาจเกิดการปะทะขึ้น รวมถึงการตรวจจับคนเดินถนน และจักรยานอีกด้วย
ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) เทคโนโลยีปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ที่ช่วยกระจายลำแสงไฟหน้ากับวัตถุด้านหน้ารถอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นในเวลากลางคืน และไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง
ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และยังช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อไม่ให้รถออกนอกเลน
ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง โดยระบบจะตรวจวัดระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์ และกล้องบริเวณหน้ารถพร้อมลด และเพิ่มความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อคงระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ
นายศุภกร รัตนวราหะ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
“วันนี้ ผมขอแนะนำการกลับมาของรถโมเดลหลักรุ่น “RX” ที่เปิดตัวพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยกับอีกหลายรางวัลด้านความปลอดภัย ทำให้ยอดขายทั่วโลกของ RX มีมากกว่า 3.5 ล้านคัน การพลิกโฉมของ RX เจเนอเรชันที่ 5 ในวันนี้ สะท้อนความ ท้าทาย เพื่อมุ่งสู่ยุคใหม่ของเลกซัสกับ “RX 450h+ ปลั๊กอินไฮบริด” ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในนามของเลกซัส ผมขอขอบคุณความไว้วางใจจากลูกค้าทุกท่าน”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ