Lamborghini Temerario 2025 เปิดตัวในไทย เครื่อง V8 ปลั๊กอินไฮบริด 920 แรงม้า ตั้งราคาเริ่ม 23.67 ล้านบาท

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 26 มิ.ย 2568
แชร์ 0

25/06/2025 เรนาสโซ มอเตอร์ เปิดตัวเผยโฉม ลัมโบร์กินี เทเมราริโอ (Lamborghini Temerario) 2025 ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริด ขุมพลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบใหม่ มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวพร้อมจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ราคาเริ่มต้น 23,670,000 บาท มาแทน Lamborghini Huracan หลังหยุดสายการผลิต

 

ราคาจำหน่าย Lamborghini Temerario 2025

  • Lamborghini Temerario V8 4.0 PHEV 3.8 kWh ราคา 23,670,000 บาท

Lamborghini Temerario 2025 เป็นรถยนต์รุ่นที่สองในกลุ่มไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) ของลัมโบร์กินี ต่อจากรุ่นแรก ลัมโบร์กินี เรเวลโต้ (Lamborghini Revuelto) ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศ ผสานกับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีด และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว

Lamborghini Temerario 2025 ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ หลังจากการเปิดตัว ลัมโบร์กินี อูรุส เอสอี (Lamborghini Urus SE) เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์

งานเปิดตัวในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารระดับสูงของ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี นำโดย มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มร.เฟเดอริโก ฟอสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด และ มร.ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Lamborghini Temerario 2025 ภายในงานเปิดตัวนี้ สีน้ำเงิน Blu Marinus พร้อมผิวสัมผัสแบบแมตต์ที่โดดเด่นจากความร่วมมือระหว่างลัมโบร์กินีและแบรนด์พันธมิตร อย่างบริดจสโตน (Bridgestone) นำเสนอตัวเลือกสีตัวถังภายนอกมากกว่า 400 เฉดสี การตกแต่งภายในที่เข้าชุดอย่างลงตัว และออปชันพิเศษอีกหลากหลายรายการ

เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ที่สามารถเร่งรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 10,000 รอบต่อนาที ซึ่งนับเป็นรอบเครื่องยนต์สูงสุดสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง กำลังสูงสุด 800 แรงม้า และแรงบิด 730 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยติดตั้งที่เพลาหน้า 2 ตัว และในชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์ 8 สปีด อีก 1 ตัว มอบกำลังรวมสูงสุดถึง 920 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ตอบสนองทันที การยึดเกาะถนนที่เหนือกว่า และประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้คู่แข่ง ที่ยังคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอของลัมโบร์กินี

สามารถเร่งเครื่องยนต์จาก 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และจาก 0–200 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 343 กม./ชม. ขณะเดียวกัน มอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน และทำให้ Lamborghini Temerario 2025 สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้อย่างเต็มรูปแบบ มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้สูงสุดถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่น Lamborghini Huracan

Lamborghini Temerario 2025 ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มุ่งเน้น 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่

  • เสถียรภาพที่ระดับความเร็วสูง
  • การระบายความร้อนที่ดีขึ้น
  • ประสิทธิภาพการเบรกขั้นสูงสุด

ทุกองค์ประกอบได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างแม่นยำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ อาทิ ดวงไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมด้านหน้าที่มาพร้อมแผงปรับทางลมและช่องรับลม ไปจนถึงอุปกรณ์สร้างการหมุนเวียนของลมใต้ท้องรถ ล้วนส่งผลให้แรงกดด้านท้ายเพิ่มขึ้นถึง 103% เมื่อเทียบกับรถรุ่น Huracan EVO (ฮูราแคน อีโว) และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 158% เมื่อติดตั้งชุดวัสดุ Alleggerita Pack

ช่องกลางหลังคาที่เชื่อมต่อกับสปอยเลอร์หลังยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการไหลของอากาศ ในขณะที่ขอบฝากระโปรงเครื่องยนต์ด้านข้างที่มีดีไซน์โค้งมนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

แนวคิดใหม่ในการระบายความร้อนระบบเบรกยังเข้ามาช่วยยกระดับสมรรถนะโดยรวม ด้วยการระบายความร้อนที่คาลิเปอร์เพิ่มขึ้นถึง 50% และระบายความร้อนจานเบรกได้ดีขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่น Huracan EVO

การออกแบบห้องโดยสารภายในของ Lamborghini Temerario 2025 สะท้อนแนวคิด Feel like a pilot (ความรู้สึกเสมือนเป็นนักบิน) ตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำ แดชบอร์ดดีไซน์เพรียวบาง และพวงมาลัยที่เอียงในองศาที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ขับขี่เข้าถึงสไตล์การขับขี่ได้อย่างเต็มที่ เบาะนั่งสปอร์ตปรับไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มอบความสบายสูงสุด หรือสามารถเลือกเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และปรับแต่งได้หลากหลาย ทั้งระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และสี

ลัมโบร์กินีเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงสุด อาทิ คาร์บอน หนัง และไมโครไฟเบอร์ Dinamica Corsatex Suede ทั่วทั้งห้องโดยสาร พร้อมกันนี้ องค์ประกอบการตกแต่งภายใน เช่น คอนโซลกลาง ช่องระบายอากาศ แผงประตู แดชบอร์ด พวงมาลัย และคอพวงมาลัย มีให้เลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเป็นออปชันเสริม

การจัดวางจอแสดงผล 3 หน้าจอ ได้แก่ แดชบอร์ดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 8.4 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 9.1 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์และฟังก์ชันเสริมประสบการณ์ร่วมขับเสมือนเป็นผู้ช่วยนักบิน ผู้ขับสามารถเข้าถึงกล้องติดรถ ธีมอินเทอร์เฟซที่เปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ และฟังก์ชันขั้นสูงอย่าง Telemetry 2.0 ได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านทั้งแดชบอร์ดโฉมใหม่และบริเวณเบาะที่นั่ง ตามปรัชญา Feel like a pilot

ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์และคอนโซลกลางช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พวงมาลัยติดตั้งปุ่มควบคุมโหมดการขับ ฟังก์ชันยกตัวรถ ปุ่ม “Race Start” ไฟเลี้ยว และ Launch Control เพื่อมอบสมาธิการขับขี่สูงสุด

การขับขี่ที่หลากหลายถึง 13 รูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและความเร้าใจบนสนามแข่ง สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบไดนามิกผ่านระบบ ANIMA (Adaptive Network Intelligent Management) ของลัมโบร์กินีได้ 5 โหมดหลัก ได้แก่ Città, Strada, Sport, Corsa และ Corsa Plus แต่ละโหมดจะปรับการส่งกำลัง ระบบช่วงล่าง อากาศพลศาสตร์ และประสิทธิภาพของระบบไฮบริดให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ ตั้งแต่การขับขี่ในเมืองไปจนถึงการเร่งเต็มพิกัดบนสนามแข่ง

โหมดจัดการพลังงานไฮบริดอีก 3 โหมด ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการชาร์จไฟจากแรงเบรก เสริมด้วยโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Drift Mode ที่สามารถควบคุมและปรับแรงบิดได้ 3 ระดับ ช่วยให้การควบคุมการหักเลี้ยวแบบโอเวอร์สเตียร์เป็นไปได้อย่างแม่นยำ

เปิดตัวด้วยสองสีพิเศษใหม่ ได้แก่ สีฟ้า Blu Marinus และสีเขียว Verde Mercurius 

ผู้ที่เลือกซื้อปรับแต่งรถผ่านโปรแกรม Ad Personam สีตัวถังกว่า 400 เฉด รวมถึงลวดลายพิเศษ ล้อแมกรุ่นใหม่ 3 ดีไซน์และวัสดุที่แตกต่างกัน พร้อมออปชันคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับตกแต่งทั้งภายในและภายนอกหลากหลายชิ้นส่วน ไม่ว่าจะต้องการสื่อถึงความสปอร์ต ความหรูหรา หรือทั้งสองอย่างในแบบเฉพาะตัว ทุกการคัสตอมคือภาพสะท้อนบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของฃ

ยางรถยนต์ของ Lamborghini Temerario 2025 บริดจสโตนได้พัฒนาเฉพาะเพื่อดึงสมรรถนะสูงสุดของซูเปอร์สปอร์ตคาร์คันนี้ ทั้งในและนอกสนามแข่งตลอดทั้งปีจากตระกูล Potenza โดยนำเสนอยางรุ่น Potenza Sport และ Potenza Race เพื่อการขับขี่บนถนนและในสนามแข่งขัน มาพร้อมลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการควบคุมบนถนนแห้ง การยึดเกาะบนถนนเปียก และสมรรถนะในความเร็วสูง ยกระดับความเร้าใจในการขับขี่สไตล์สปอร์ต

มร. สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี

มร. สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี เผยว่า 

“การเปิดตัวของ Temerario ได้สร้างตำนานบทใหม่ในฐานะผู้บุกเบิกเซกเมนต์ที่นำเสนอไลน์อัปรถยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบเป็นรายแรก Temerario คือยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความโดดเด่นอย่างเหนือชั้น ด้วยขุมพลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ 920 แรงม้า ที่มอบทั้งสมรรถนะและความสะดวกสบายในระดับสูงสุด เพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ณ ฐานการผลิตของเราใน Sant’Agata Bolognese ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่มุ่งผลักดันความยั่งยืนและสร้างสรรค์เทคโนโลยี โดยผสานนวัตกรรมล้ำสมัยเข้ากับงานฝีมือชั้นสูงแบบอิตาเลียนอย่างลงตัว เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว Lamborghini Temerario อย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยพลังงานอันมีชีวิตชีวา และได้ร่วมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ไปพร้อมกับกลุ่มคนผู้รักลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง”

มร.ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี

มร.ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า 

“Temerario ได้สะท้อนถึงดีเอนเอแบรนด์สัญชาติอิตาเลียนของเรา ทั้งดีไซน์อันโดดเด่น เทคโนโลยียานยนต์ไฮบริดสุดล้ำ และสมรรถนะระดับสูงสุด ที่มอบสุนทรีย์ในการขับขี่อย่างแท้จริง พร้อมเสียงเครื่องยนต์อันทรงพลังที่บ่งบอกความเป็นลัมโบร์กินีอย่างชัดเจน ความพิเศษอันเหนือชั้นของรถคันนี้ ไม่จำกัดเพียงในด้านสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสบายและพื้นที่ใช้สอยด้วย นับเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ปลดปล่อยศักยภาพได้อย่างเต็มที่ทั้งในสนามแข่งและบนถนนจริง ขณะเดียวกันยังมอบพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและสัมภาระได้มากกว่ารถรุ่นอื่นๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอยนตรกรรมอันโดดเด่นรุ่นนี้สู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ