Ford Ranger เตรียมเลิกผลิตเครื่อง 3.2L ทดแทนด้วยเครื่องยนต์ใหม่ EcoBlue

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 3 เม.ย 2561
แชร์ 8

ข่าวความเคลื่อนไหวของ Ford Ranger ไมเนอร์เชนจ์เริ่มเงียบไปหลังจากช่วงนี้มีการเปิดตัวของ Ranger Raptor ภายในงาน Bangkok Motor Show 2018 ล่าสุดมีข่าวว่าทาง Ford เตรียมที่จะยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์อดีตตัวแรงสุดของค่าย 5 สูบ ไซส์ 3.2L แล้ว และแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เทคโนโลยีบล็อกใหม่ Ecoblue แบบเดียวที่ใช้อยู่ใน Ranger Raptor

Ford Ranger  เตรียมเลิกผลิตเครื่อง 3.2L ทดแทนด้วยเครื่องยนต์ใหม่ EcoBlue

Ford Ranger  เตรียมเลิกผลิตเครื่อง 3.2L ทดแทนด้วยเครื่องยนต์ใหม่ EcoBlue 

แม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เสียงลือหนาหูขึ้นทั้งจากเซลล์ของ Ford และสมาชิกเว็ปบอร์ดของรถรุ่นดังกล่าว เป็นไปในแนวทางเดียวกันว่าด้วยเรื่องของเครื่องยนต์ 5 สูบขนาด 3.2L ลูกนี้อาจไม่ได้ไปต่อในตลาดรถกระบะเมืองไทย อีกทั้งล่าสุด Ford Everest รุ่นเครื่องยนต์ 3.2L ก็ได้หยุดการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในกระบะ Ranger ยังมีการผลิตอยู่ให้กับรุ่น Wildtrak ซึ่งจะผลิตแต่เฉพาะตามคำสั่งซื้อที่กำลังมีอยู่เท่านั้น เป็นสัญญาณที่เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นกับข่าวภาพหลุด Ranger ไมเนอร์เชนจ์วิ่งทดสอบก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ในเทคโนโลยี Ecoblue แบบเดียวกับเครื่องยนต์ที่อยู่ใน Ranger Raptor แต่ความแรงเกี้ยวกราดนั้นอาจจะเล็กน้อยกว่า ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0L Ecoblue ของ Ford นี้ถูกพัฒนาโดยทีมวิศวกรจากสหราชอาณาจักร และเยอรมนี เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 มีทั้งในแบบเน้นใช้งานเครื่องยนต์ Ecoblue ให้กำลังม้าตั้งแต่ 105, 130 และ 170 แรงม้า ซึ่งถูกนำมาใช้ในรุ่นรถเชิงพานิชย์อย่าง Ford Transit และแนวบ้าพลังเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ Bi-Turbo กำลังม้า 213 ตัว ซึ่งสถิตอยู่ใน Ranger Raptor ณ ขณะนี้

เครื่องยนต์ EcoBlue จากฟอร์ดได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากในเรื่องเทคโนโลยี

เครื่องยนต์ EcoBlue จากฟอร์ดได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากในเรื่องเทคโนโลยี

>>> ดูเพิ่มเติม ราคารถยนต์ ฟอร์ด

โดยรายละเอียดเครื่องยนต์ของ Ford ขนาด 3.2L ที่ถูกใช้อยู่ใน Ranger รุ่นปัจจุบันนั้น เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน กำลังม้าอยู่ที่ 200 ตัว พร้อมแรงบิดที่ 470 Nm ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกระบะเมืองไทยตอนนี้ แต่เมื่อการมาของ Ranger Raptor ที่เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าที่ 2.0L แต่ให้ทั้งกำลังม้าและแรงบิดสูงกว่า บวกกับตลาดกระบะตอนนี้ ความสนใจของผู้ซื้อใช่ว่าจำเป็นต้องการเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มหึมาเป็นหลักในการตัดสินใจอีกต่อไป จึงอาจเป็นเหตุให้เครื่องยนต์บล็อกโตๆ 3.2L นี้ไม่มีที่ยืนอยู่ในแผนการตลาดของ Ford ก็เป็นไปได้

ตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ Ford จะนำมาวางให้กับ Ranger ไมเนอร์เชนจ์ มีได้ทั้งเลือกเครื่องยนต์แบบ EcoBlue เทอร์โบเดี่ยวที่ให้กำลัง 180-190 แรงม้า ดึงเรี่ยวแรงให้น้อยกว่า Ranger Raptor สักหน่อย แต่ไม่ห่างจาก เครื่องยนต์ 3.2L ของรุ่น Wildtrak มากนัก เพื่อไม่ให้เป็นการไปตีตลาดในรถค่ายเดียวกัน หรืออาจจะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบคู่แบบเดียวกับ Raptor เลย แต่ปรับกำลังม้าให้น้อยลงสักหน่อย เพื่อช่องว่างที่แตกต่างให้ตลาดแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนระหว่าง Ranger Raptor กับ Ranger Wildtrak

>> บางทีคุณอาจสนใจ เครื่องยนต์ ดีเซล

Ranger ไมเนอร์เชนจ์จะมากับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ด้วยหรือไม่ต้องติดตาม

Ranger ไมเนอร์เชนจ์จะมากับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ด้วยหรือไม่ต้องติดตาม

ซึ่ง Ranger ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.2L ณ ปัจจุบันมีอยู่ 4 รุ่นย่อยดังต่อไปนี้

  • Open Cab 4x4 3.2L XLT 4x4 6MT
  • Open Cab 4x4 3.2L XLT 4x4 6MT
  • Double Cab 4x4 3.2L Wildtrak 4x4 6AT
  • Standard Cab Flatbed Short Wheelbase 3.2L SWB 4x4 HR 6AT

งานนี้คงต้องได้แต่คาดเดาไปก่อนล้วนๆ สำหรับการมาของ Ranger ไมเนอร์เชนจ์ ว่า Ford จะมาไม้ไหน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ EcoBlue เลยหรือไม่ หรือจะเพียงแค่ตัดทอนรุ่นย่อย 3.2L นี้ออกไปก่อน เหลือไว้แต่เครื่องยนต์ 2.2L อย่างเดียว ให้เครื่องยนต์ใหม่ EcoBlue ไว้มาตอนโมเดลเชนจ์แบบใหม่หมดทั้งคันทีเดียวไปเลยจบ ต้องรอชมกันอีกที

แล้วคุณละชอบเครื่องยนต์ตัวไหนใน Ford Ranger มากกว่ากัน และเพราะอะไร อย่างลืมบอกกับเรา Chobrod ให้ได้รู้กันสักหน่อย ใต้ Comment นี้เลย

ดูเพิ่มเติม