Cavallino Motors ของตระกูลภิรมย์ภักดี เปิดตัว Ferrari Portofino V8 GT ราคาเกือบ 21 ล้านบาท
บริษัท Cavallino Motors จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Ferrari อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยคุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธานบริษัทและกรรมการบริหาร ทำการเปิดตัว Ferrari Portofino (แฟร์รารี่ ปอร์โต้ฟิโน่) V8 GT ในประเทศไทย ณ บ้านเลขที่ 1 ตรอกกัปตันบุช เจริญกรุง 30 บางรัก ครั้งแรกของรถซูเปอร์คาร์ที่รวบรวม ความสปอร์ต หรูหรา สะดวกสบาย ไว้ภายในห้องโดยสารอย่างไม่เคยมีมาก่อน สนนราคาที่ 20.9 ล้านบาท
Ferrari Portofino V8 GT ใช้ชื่อเทศบาลที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลีคือ Comune di Portofino (อยู่ในเจนัว/เจโนวา แคว้นลิกูเรีย) ซึ่งโด่งดังและมีเสน่ห์ในเรื่องของท่าเรือสำหรับบริการนักท่องเที่ยวทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้นทั้งเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ กิจกรรมกีฬา และความหรูหราที่แอบซ่อนไว้ ทำให้เกิดสีที่อุทิศให้กับเมืองนี้คือสี Rosso Portofino (Rosso แปลว่า แดง)
ดูเพิ่มเติม
>> Ferrari 488 Pista ม้าลำพองสีแดงแรงฤทธิ์
>> หนุ่มนักธุรกิจเนรมิต Ferrari GTC4Lusso ไม่เหมือนใคร
Ferrari Portofino แบบเปิดประทุนสีพิเศษ Rosso Portofino
ระบบส่งกำลังสูงสุดถึง 600 แรงม้าและอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ใน 3.5 วินาที ทำให้ Ferrari Portofino เป็นรถเปิดประทุนที่มีกำลังมากที่สุด ซึ่งรวบรวมข้อดีของหลังคาแข็งแบบพับได้ ห้องเก็บสัมภาระและห้องโดยสารที่กว้างขวาง บวกกับที่นั่งเสริมด้านหลังอีกสองเบาะเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น ขณะที่ระบบช่วงล่างที่ใหม่หมดของ Ferrari Portofino นั้นได้รับการลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับในรุ่นที่มันทดแทนซึ่งก็คือรุ่น California T ด้วยการใช้เทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ที่ทันสมัย ชิ้นส่วนของช่วงล่างและ body-in-white ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลงแต่ตัวถังแข็งแรงขึ้น
ขุมพลัง V8 3.9 เทอร์โบของ Ferrari อันเลื่องชื่อที่ได้เข้าชิงรางวัล International Engine of the Year 2016-2017 นั้นผลิตกำลังได้มากกว่าในรุ่น California T ถึง 40 แรงม้า ด้วยการใช้ชิ้นส่วนใหม่และการปรับแต่งซอฟท์แวร์ของระบบควบคุมเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์อันเร้าใจที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari นั้น ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมเช่นกัน เพื่อให้ได้อรรถรสเต็มที่โดยเฉพาะเมื่อขับขี่แบบเปิดประทุน ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ V8 นั้นได้ถูกปรับปรุงในทุกด้าน ด้วยการใช้ลูกสูบและก้านสูบแบบใหม่ รวมไปถึงระบบไอดีที่ออกแบบใหม่ มิติต่างๆ ของระบบไอเสียนั้นก็ได้รับการปปรับปรุง ระบบ header หล่อชิ้นเดียวนั้นช่วยลดการสูญเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของการตอบสนองแบบ Ferrari ซึ่งจะไม่มี turbo lag โดยสิ้นเชิง การปรับปรุงต่างๆ เหล่านี้ เมื่อทำงานร่วมกับระบบ Variable Boost Management ที่ควบคุมการจ่ายแรงบิดเพื่อให้สัมพันธ์กับเกียร์ที่เลือก ทำให้ Ferrari Portofino นั้นมีอัตราเร่งที่สูงกว่าในทุกย่านความเร็วและทุกเกียร์ (F1 คลัทช์คู่ 7 สปีด) พร้อมๆ แต่กินน้ำมันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้
ดูเพิ่มเติม
>> ม้าลำพองไม่ยอมกระทิงดุ! โลกอาจได้เห็น Ferrari SUV ในปี 2019
>> Ferrari ประกาศกร้าว เตรียมเป็นเจ้าแรกที่ผลิตรถ Super Car ไฟฟ้า
Ferrari Portofino V8 GT สีขาว Bianco Avus ที่งานเปิดตัวในไทย
ขณะที่เรื่องของการทรงตัว Ferrari Portofino นั้นได้รับการปรับใหม่หมดและได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้ เป็นครั้งแรกใน Ferrari รุ่นนี้คือนำระบบ electronic rear differential (E-Diff3) มาใช้โดยทำงานร่วมกับระบบ F1-Trac ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและการควบคุม Ferrari Portofino เป็นรถ GT คันแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ซึ่งสามารถลดอัตราทดพวงมาลัยได้ถึง 7% ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยดีขึ้นโดยไม่กระทบกับความเสถียร แล้วเมื่อทำงานร่วมกับระบบ E-Diff3 ระบบกันสะเทือนแบบ magnetorheological damping system (SCM-E) โดยได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี dual-coil (คอยล์คู่) ที่ช่วยลดอาการโคลงในขณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซับแรงสะเทือนจากความไม่ราบเรียบของถนน ผลที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีความว่องไวปราดเปรียวและตอบสนองดีขึ้น แต่มอบสัมผัสแห่งความสบายไปพร้อมๆ กัน
Ferrari Portofino V8 GT หน้าบ้านเลขที่ 1 ที่สวยงาม
Ferrari Portofino ได้รับการออกแบบจาก Ferrari Design Centre และเป็นรถที่มีดีไซน์ที่ดุดัน ตัวถังแบบ two-box fastback ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่มคูเป้เปิดประทุนที่มีหลังคาแข็งพับได้ซึ่งมอบความโฉบเฉี่ยวให้กับรูปร่างโดยรวม มีลักษณะที่สปอร์ตมากขึ้นโดยที่ไม่กระทบกับความหรูหราและความคล่องตัว และถือเป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม Aerodynamics (อากาศพลศาสตร์) และ Ferrari Design ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในเรื่องของการจัดการกับพื้นผิวของตัวถังรถ เริ่มจากด้านหน้าที่มีกระจังหม้อน้ำขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่จากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งของหน้ารถที่ได้ออกแบบมาอย่างประณีต มีชุดไฟหน้าแบบ full-LED ที่ดูเป็นแนวนอนมากขึ้น ด้านมุมนอกของไฟหน้านั้นมีการซ่อนช่องอากาศที่ผ่านเข้ามาทางซุ้มล้อหน้าและออกไปทางด้านข้างเพื่อลดแรงเสียดทานอากาศ การออกแบบท้ายรถช่วยเสริมลักษณะตัวถังทรงสปอร์ต โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของไฟท้ายที่ห่างกันมากขึ้น การออกแบบอันชาญฉลาดนี้ช่วยเก็บซ่อนพื้นที่สำหรับระบบ RHT (Retractable Hard Top) ใหม่ ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงและสามารถยกขึ้นหรือลงได้ที่ความเร็วต่ำ
ห้องโดยสารใน Ferrari Portofino
ทีมออกแบบได้ให้ความสำคัญแก่ความสะดวกสบายของห้องโดยสารซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ๆมากมาย ไม่นับระบบ infotainment พร้อมจอสัมผัส 10.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเปิดหรือปิดหลังคา พวงมาลัย multi-function ใหม่ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าได้ 18 ทิศทาง มีพนักพิงดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสารแถวหลัง และระบบจอแสดงผลสำหรับให้ข้อมูลการขับขี่ผู้โดยสารด้านหน้า ผู้โดยสารทั้งหมดจะได้รับความสะดวกจากระบบ Wind Deflector ใหม่ที่สามารถลดแรงลมในห้องโดยสารได้ถึง 30% รวมทั้งช่วยลดเสียงรบกวน
Chobrod ยังไม่ได้รายละเอียดเพิ่มเติมโดยเฉพาะเรื่องสีรถ เพราะทางเว็บไซท์ Ferrari มีให้เลือกถึง 28 สี! แต่ค่าตัวระดับเกิน 20 ล้านบาทเป็นเรื่องที่ผู้อ่านอย่างเราๆ คงยากเกินเอื้อจริงๆ ล่ะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: PPTVHD36