BMW Series 5 เจเนอเรชันใหม่ปี 2024 รหัสตัวถัง G60 มาพร้อมกัน 2 รุ่นย่อย 520d M Sport Pro ที่มากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 197 แรงม้า และ 530e M Sport Pro เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด 299 แรงม้า ขนาดแบตฯ 22.1 kWh
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แถลงข่าวไฮไลต์การแสดงรถในงาน Motor Show 2024 มี BMW Series 5 เจเนอเรชันใหม่ปี 2024 รหัสตัวถัง G60 มาพร้อมกัน 2 รุ่นย่อย 520d M Sport Pro ที่มากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 197 แรงม้า และ 530e M Sport Pro เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริด 299 แรงม้า ขนาดแบตฯ 22.1 kWh
อ่านเพิ่มเติม - BMW iX2 ปี 2024 รุ่น xDrive30 M Sport เปิดขายในไทย 3.399 ล้านบาท เคลมวิ่ง 449 กม.
มีให้เลือก 5 สี
ขุมพลังดีเซลอีกครั้งกับดีไซน์ที่สดใหม่ สไตล์สปอร์ตด้วยชุดแต่ง M Sport Pro ผสมผสานกับชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งกรอบหน้าต่างสีดำเงา BMW Individual high-gloss Shadow Line และชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line
ช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Iconic Glow มาพร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู เสริมรูปลักษณ์สะกดสายตาบนท้องถนนด้วยล้ออัลลอย M สีดำ Jet Black ขนาด 20 นิ้ว ลาย Star-spoke, เบรก M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงเงา และระบบกันสะเทือน M Sport
ภายในตัวรถ BMW 520d M Sport Pro เข็มขัดนิรภัยสไตล์ M เฉดสี Dark Silver M ช่วยส่งเสริมความโดดเด่นให้การตกแต่งด้วยขอบ Aluminium Rhombicle พร้อมกับพื้นผิวกระจกคริสตัลแบบ Crafted Clarity
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน กล้องภายในรถ, แพ็คเกจ BMW Connected Package Professional, และระบบ Travel & Comfort ให้คุณพร้อมทุกการเดินทางด้วยราวแขวนเสื้อแบบโมดูลาร์, ที่วางของขนาดกะทัดรัด
ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ BMW Head-up Display, หน้าจอ BMW Live Cockpit Professional พร้อมหน้าจอควบคุมขนาด 12.3 นิ้ว, ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทาง, ระบบเครื่องเสียง HiFi จากแบรนด์ Harman Kardon และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant ล้ำสมัย
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ระบบเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ มอบกำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,750 รอบต่อนาที
เทคโนโลยีการลดน้ำหนักตัวถัง Intelligent Lightweight Design ตามแบบฉบับของซีรีส์ 5 แชสซีที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อประสิทธิภาพการกระจายน้ำหนัก อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 7.3 วินาที พร้อมทะยานด้วยความเร็วสูงสุดที่ 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีเฉดสีให้เลือก 5 สี ได้แก่
ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งแบบเดียวกับ BMW 520d M Sport Pro ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งระบบไฟหน้า BMW Individual High-gloss Shadow Line, ชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line
ช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ Iconic Glow ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ให้หลังคากระจก Panorama เสริมลุคด้วยการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี Dark Silver M พร้อมวัสดุตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุสีเงิน ล้อสีเทาดำขนาด 20 นิ้ว สไตล์ M Aerodynamic และเบรกแบบ M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สี Dark Blue Metallic
ห้องโดยสาร เพิ่มความสบายด้วยเบาะนั่งแบบ Comfort Seat หุ้มด้วยหนัง BMW Individual Merino, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) แบบ Professional, ระบบเสียง IconicSounds Electric ให้เสียงการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์, ความบันเทิงระบบเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์เครื่องเสียง Bowers & Wilkins
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 220 กิโลวัตต์ / 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ผสานพลังจากโหมด Sport Boost อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที และเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 108 กิโลเมตร เมื่อขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ตามมาตรฐาน NEDC เทคโนโลยี eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 พกพาแบตเตอรี่ขนาด 22.1 kWh รองรับการชาร์จแบบ AC 7.4 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ