ศาลพิพากษาสั่ง Ford จ่ายชดเชยความเสียหายรวมกว่า 23 ล้านจากการผลิตรถยนต์ชำรุดบกพร่อง
ศาลพิพากษาให้ Ford ชดใช้ค่าเสียแก่ลูกค้าผู้เสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 23 ล้านบาท กับลูกค้าทั้งสิ้น 296 ราย จากจำนวนผู้เสียหายที่ยื่นฟ้อง 308 ราย ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างและเป็นคดีแรกที่ศาลตัดสินการฟ้องคดีแบบกลุ่ม
>> เจ๋งสุดๆ ....Ford Ranger Raptor กลายเป็นรถกู้ภัยในสนามแข่ง Supercars Champinship
>> 9 เหตุผลที่ "รถกระบะ" ได้รับความนิยมในประเทศไทย
ศาลพิพากษาสั่ง Ford จ่ายชดเชยความเสียหายรวมกว่า 23 ล้านจากการผลิตรถยนต์ชำรุดบกพร่อง
บทสรุปสุดท้ายของมหากาพย์จากรถเจ้าปัญหา Ford Focus และ Fiesta ได้ออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นวันอ่านคำพิพากษาคดีผู้เสียหายจากรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด ฟ้องแก่ทางบริษัทจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ด ประเทศไทย เนื่องด้วยเหตุจากการผลิตสินค้ารถยนต์ชำรุดบกพร่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความเสี่ยงอันตรายต่อการใช้รถ
ล่าสุด ทางศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำสั่งให้ทางบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายรวมแก่ผู้เสียหายทั้งสิ้นรวม 296 รายจากทั้งหมดของผู้ยื่นฟ้อง 308 ราย โดย 12 รายที่ไม่ได้รับการเยียวยาปัญหา สืบเนื่องมาจากมีการนำรถไปติดตั้งแก๊ส มีการดัดแปลงที่ตัวรถเพิ่มเติม 6 รายและไม่เคยนำรถเข้าไปซ่อมระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์หรือระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางศูนย์บริการอีก 6 ราย รวมการชดใช้ค่าเสียหายในครั้งนี้เป็นมูลค่ากว่า 23 ล้านบาท
กลุ่มโจทย์ผู้ยื่นฟ้องคือผู้เสียหายที่เกิดจากการใช้งานรถ Ford รุ่น Focus และ Fiesta ซึ่งเป็นการร่วมกันฟ้องเพื่อดำเนินคดีแก่ทางบริษัทที่มีหน้าที่ผลิตและจำหน่ายรถยี่ห้อ Ford ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เรียกค่าเสียไว้อยู่ที่ 24 ล้านบาท ด้วยสาเหตุที่ว่ามีการผลิตรถยนต์ที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย ส่งผลให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคต้องอยู่ในสภาวะเสี่ยงอันตรายจากการใช้สินค้า โดยมีการยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 และทางศาลก็ได้รับฟ้องเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน คำพิพากษาจากศาลก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อยตามที่กล่าวมา
ต่อมาไม่นานทางฟอร์ด ประเทศไทย ก็ได้มีการส่งแถลงการณ์ชี้แจง หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมา โดยทางบริษัทพร้อมเคารพต่อคำพิพากษาของศา และพร้อมดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขปัญหาเพื่อยุติข้อพิพาทของลูกค้าตามคำพิพากษา อีกทั้งยังขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้
คำแถลงการณ์จากฟอร์ด ประเทศไทย ออกมาทันทีหลังมีคำพิพากษา
ข้อความของคำแถลงการณ์จากฟอร์ด ประเทศไทย ระบุไว้ว่า “ฟอร์ด เคารพต่อคำพิพากษาของศาล ศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ท์ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด และคดีนี้ศาลได้พิพากษาโดยพิจารณาปัญหาของลูกค้าแต่ละรายที่มีต่อเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ จากประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยคำพิพากษาได้กำหนดกระบวนการแก้ไขปัญหา และยุติข้อพิพาทของลูกค้าซึ่งพิจารณาจากปัญหาของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงฟอร์ด ที่ผ่านมา ฟอร์ด ต้องขออภัยต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากปัญหาเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ และขอย้ำว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามกระบวนการการดูแลลูกค้าของฟอร์ดต่อไป”
ในตัวของรายละเอียดการชดใช้ ทางศาลได้พิพากษาให้ทางบริษัทฟอร์ด ต้องชดใช้ค่าเสื่อมราคาจากการซ่อมครั้งละ 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์จากการที่ไม่ได้ใช้รถระหว่างซ่อมวันละ 1,000 บาท ให้กับโจทก์รวม 296 ราย ตกรายละ 15,000 บาทถึง 240,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 23 ล้านบาท และยังให้จ่ายดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องโดยให้ชำระเงินคืนให้กับผู้เสียหายภายใน 7 วัน
>> 7 กระบะ “บ้าพลัง” แรงที่สุดของยุคที่คุณอาจยังไม่รู้จัก
ทางด้านตัวแทนของผู้เสียหายได้กล่าวหลังมีคำพิพากษาออกมาว่าคดีนี้ที่นอกจากเรื่องการได้รับการเยียวยาแล้วยังถือเป็นคดีตัวอย่างเพื่อสร้างมาตรฐานไม่ให้ผู้ประกอบการหาช่องทางมาเอาเปรียบผู้บริโภคและสังคมต้องไม่เพิกเฉยหรือปล่อยยินยอมให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบโดยตัวคดีใช้เวลาในการสืบพยานโจทก์จำเลยเป็นระยะเวลาทั้งหมด 3 เดือน อีกทั้งคดีนี้ก็ยังถือเป็นคดีแรกในประเทศไทยอีกด้วยที่ทางศาลมีการตัดสินในลักษณะการฟ้องคดีแบบกลุ่ม
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และ คราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ติดตามกันได้ต่อเนื่องเลยนะคะ เเละ อย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ติดตามราคารถยนต์ เชิญที่นี่
