ปัจจุบันรถไฟฟ้าเป็นบานพาหนะที่กำลังมาแรง รวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งนายกสมาคมยานยนค์ไฟฟ้าเผยว่าผู้นำเข้าแท็กซี่ใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าจากจีนถึง 500 คัน เพื่อให้บริการในไทย ทั้งยังกล่าวว่าประเทศไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้า 0.1% เมื่อเทียบกับทั่วโลกมี 1% พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายมีสถานีชาร์จรถพลังไฟฟ้าครบ 150 จุดภายในปีนี้
นายกสมาคมยานยนต์รถไฟฟ้าไทยกล่าวว่า พาหนะไฟฟ้าหรือ EV(Electric Vehicle) เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งล่าสุดมีผู้ลงทุนผลิตยานยนต์ประเภทนี้ รวามทั้งไทยก็มีการนำเข้ารถแท็กซี่อีวีแบรนด์ BYD จากจีน โดย บริษัท RIZEN ENERGYเป็นผู้นำเข้าจำนวน 500 คัน
ปัจจุบันมีสถานีชาร์จทั่วประเทศทั้งหมด 229 หัวจ่าย
ทางภาครัฐก็ได้ส่งเสริมมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างให้สิทธิพิเศษทางภาษี ทั้งฝั่งผู้ผลิตพาหนะไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนพาหนะไฟฟ้า และผู้จัดตั้งสถานีชาร์จ ทำให้คาดว่า ภายใน 1-2 ปีนี้ น่าจะได้เห็นความชัดเจนด้านการลงทุน ทั้งในแบบยานยนต์ไฮบริดและปลั๊กอิน ไฮบริด และหวังว่า เมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาของยานยนต์ไฟฟ้าน่าจะถูกลงได้
รัฐตั้งเป้าจะต้องมีสถานีชาร์จ 150 จุด
ทั้งนี้ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ สถานีชาร์จ (charging station) สำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน โดยมีเป้าหมายภายในปีนี้ จะต้องมีสถานีชาร์จ 150 จุด
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า ทั้งสิ้น 229 หัวจ่าย แบ่งเป็น เอกชนลงทุน 121 หัวจ่าย ภาครัฐลงทุน 108 หัวจ่าย ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง 94 หัวจ่ายในโครงการสนับสนุนการลงทุนตั้งสถานีชาร์จ โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานร่วมกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยด้วย
ดูเพิ่มเติม